ทีมงานของนายจาตุรนต์ ฉายแสง อดีตรักษาการหัวหน้าพรรคไทยรักไทย ได้ส่งอีเมล์คำแถลงการณ์ของนางฐิติมา ฉายแสง โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ถึงขั้นตอนการเบิกเงินช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย ว่า เพื่อเป็นการป้องกันการประสบปัญหาการเบิกเงินช่วยเหลือผู้ประสบภัยที่อาจจะล่าช้านั้น ขอให้ประชาชนในพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบจากภัยน้ำท่วมเตรียมบัตรประชาชนและทะเบียนบ้าน หรือ สัญญาเช่า หรือหนังสือรับรองการเช่าจากองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นให้พร้อม โดยลักษณะครัวเรือนที่จะเข้าหลักเกณฑ์การรับเงินเยียวยามี ดังนี้ 1.บ้านพักอาศัยที่มีทะเบียนบ้าน 2. บ้านเช่า ผู้เช่าเป็นผู้ได้รับเงินช่วยเหลือ ในกรณีบ้านพักอาศัย บ้านเช่ามีหลายชั้น ให้ได้รับเงินช่วยเหลือเฉพาะชั้นที่น้ำท่วมถึงเท่านั้น หรือ 3. ที่อยู่อาศัยที่เป็นสิ่งปลูกสร้างซึ่งมีลักษณะถาวรหรือชั่วคราวที่ครัวเรือนใช้เป็นที่พักอาศัยอยู่เป็นประจำโดยไม่มีทะเบียนบ้าน เช่น บ้านพักคนงาน Mthai News

 (คลิกดูภาพขนาดเต็ม http://news.mthai.com/wp-content/uploads/2011/11/Teamgroup-07112011.jpg)  copy url ไปใส่ในบาร์นะคะ ลิงค์เปิดนี้โดยตรงไม่ได้คะ เว็บไซต์ทีมกรุ๊ป Team Group ได้โพสต์แผนที่เสี่ยงภัยล่าสุด พร้อมคำบรรยายประกอบ ณ วันที่ 6 พ.ย. 54 ที่ผ่านมา โดยมีพื้นที่ที่มีความเสี่ยงเพิ่มขึ้นคือ - เขตสวนหลวง ที่อยู่ด้านบนของคลองประเวศบุรีรมย์ขึ้นไป มีความเสี่ยงเปลี่ยนจากสีเหลืองอ่อน เป็นสีเหลืองเข้ม - เขตบางกอกน้อยและบางกอกใหญ่ มีโอกาสเสี่ยงน้ำท่วมเพิ่มขึ้น จากสีเหลืองเข้ม เป็นสีส้ม - เขตคันยายาว มีนบุรี คลองสาม เหนือถนนถามอินทราทางตะวันออกของถนนวงแหวนรอบนอก เปลี่ยนจากสีเหลืองเข้มเป็นสีส้ม - เหนือถนนรามอินทรา ทางตะวันตกของวงแหวนรอบนอก จนถึงแยกหลักสี่ เปลี่ยนจากสีเหลืองเข้มเป็นสีแดง - ใต้ถนนนรามอินทราจนถึงถนนประเสริฐมนูกิจ ด้านฝั่งตะวันออกของคลองบางบัวจนถึงถนนนวมินทร์ เปลี่ยนจากสีเหลือเข้มเป็นสีส้ม - เหนือถนนงานวงศ์วาน-รัตนาธิเบศ ด้านตะวันตกของคลองบางบัวจนถึงทางด่วนศรีรัช เปลี่ยนจากสีเหลืองเข้มเป็นสีแดง - เหนือคลองภาษีเจริญทั้งหมด เปลี่ยนจากสีส้มเป็นสีแดง ความหมายของโซนแต่ละสี - สีเหลืองเข้ม : พื้นที่ที่โอกาสน้ำเข้าท่วมสูง เนื่องจากปริมาณน้ำด้านเหนือมีมาก ระดับน้ำจะอยู่ที่ 0.5 – 1 เมตร โดยความแรงของน้ำจะขึ้นอยู่กับปริมาณน้ำเหนือคันกั้นน้ำหากเป็นกรณีน้ำล้นธรรมดา ก็จะค่อยๆซึมขึ้นมาตามท่อระบายน้ำ แต่หากคันกั้นน้ำพัง หรือมีการเปิดประตูน้ำให้น้ำเข้ามา น้ำจะมาเร็วและแรง ซึ่งจะส่งผลกระทบโดยตรงกับชุมชนที่อยู่ในบริเวณใกล้คันกั้นน้ำ และจะค่อยๆลดความแรงต่อไปยังพื้นที่อื่นๆ - สีเหลืองอ่อน : พื้นที่ที่มีความเสี่ยงน้อยกว่าสีเหลืองเข้ม แต่ยังมีโอกาสที่จะท่วมในปริมาณ 0.5 – 1 เมตร โดยความแรงของน้ำที่เข้ามาจะไม่รุนแรงเหมือนสีเหลืองเข้ม - สีส้ม : พื้นที่ที่มีความเสี่ยงสูงที่จะโดนน้ำท่วมมากถึง 1 – 1.5 เมตร ปริมาณน้ำที่เข้ามาจะค่อนข้างรุนแรงกว่าพื้นที่สีเหลืองนะคะ - สีแดง : พื้นที่ที่มีความเสี่ยงสูงสุด ปริมาณน้ำท่วมอาจสูง 1-2 เมตร ทั้งนี้ ในทุกพื้นที่ที่กล่าวมานั้น จะมีปัจจัยอื่นๆมาเกี่ยวข้องทำให้บางพื้นที่อาจท่วมในระดับที่ไม่เท่ากันได้ เช่น ความสูงต่ำของแต่ละพื้นที่ ที่ตั้งของชุมชน – ริมคลอง ริมแม่น้ำ ริมคันกั้นน้ำ เป็นต้น Mthai News

กองทัพได้ดำเนินการจัดรถ-เรือเพื่อห้รองรับ ประชาชนที่ประสพอุทกภัยในพื้นที่ต่างทั้งในกทม. และบริเวณปริมณฑล ในเส้นทางต่างๆที่น้ำเข้าท่วมสูง โดยบัญชาของพล.อ. ประยุทธ จันทรโอชา ผบ.ทบ. ทั้งนี้ได้สั่งเพิ่มเส้นทางการเดินรถและเรือในพื้นที่ประสพอุทกภัยในกทม.อีก 5 เส้นทาง ได้แก่ ในพื้นที่ กทม.ฝั่งตะวันออก 3 เส้นทางคือ เส้นทางที่ 1 ถ.วิภาวดีรังสิต ตั้งแต่ อนุสรณ์สถาน ถึง สี่แยกรัชโยธิน เส้นทางที่ 2 ถ.พหลโยธินตั้งแต่สนามกีฬาธูปะเตมีย์ ถึงเมเจอร์รัชโยธิน โดยทั้งสองเส้นทางจะใช้รถยนต์บรรทุก 20 คันและเรือ 10 ลำ เส้นทางที่ 3 ถ.แจ้งวัฒนะ ตั้งแต่ทางขึ้นทางด่วนแจ้งวัฒนะ ผ่าน ถ.รามอินทราถึงแยกวัชรพล ส่วนกทม.ฝั่งตะวันตก จะให้บริการเพิ่มเติมอีก 2 เส้นทางคือ เส้นทางที่ 1 ถ.เพชรเกษม ตลอดสาย ซึ่งจะเป็นการบริการแบบเรือต่อรถ หรือรถต่อเรือแล้วแต่สภาพพื้นที่ เส้นทางที่ 2 ถ.กาญจนาภิเษก จากแยกสุพรรณบุรีถึง รพ.บางใหญ่ การเดินรถในพื้นที่ กทม.และปริมณฑล กทม.ฝั่งเหนือ โซน 1 ดอนเมือง-หลักสี่-บางเขน เวลา 07.00-22.00 น. โซน 2 ลาดกระบัง-หนองจอก-มีนบุรี 06.00-10.00 น. และ 15.30-19.00 น. โซน 3 พุทธมณฑล-นครปฐม 07.00-22.00 น. โซน 4 ธัญบุรี-ปทุมธานี 08.00-18.00 น. กทม.ฝั่งตะวันออก เส้นทางที่ 1 ถนนวิภาวดีรังสิต-อนุสรณ์สถาน-สี่แยกรัชโยธิน เส้นทางที่ 2 สนามธูปะเตมีย์-เมเจอร์รัชโยธิน เส้นทางที่ 3 ถนนแจ้งวัฒนะ (ใต้ทางด่วน) -รามอินทรา-วัชรพล กทม.ฝั่งตะวันตก รถต่อเรือ เรือต่อรถ เส้นทางที่ 1 ถนนเพชรเกษมตลอดสาย เส้นทางที่ 2 ถนนกาญจนาภิเษก ตั้งแต่แยกสุพรรณบุรีถึงโรงพยาบาลบางใหญ่   ขอขอบคุณข้อมูลดีๆจาก :http://www.thairath.co.th/page/floodTrafficRoute  

ฟังคลิปเสียงข่าว ผู้ว่าฯกทม. แถลง ให้อพยพ หลายพื้นที่ของแขวงคันนายาว รามอินทรา ถ.คู้บอน หลัง ระดับน้ำเพิ่มสูงขึ้น ทั้งนี้ สถานการณ์น้ำในคลองส่วนใหญ่ ลดลง แต่คลองลาดพร้าว เพิ่มสูงขึ้น ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ออกประกาศให้เขตคันนายาว เป็นพื้นที่อพยพ ประกอบไปด้วย แขวงรามอินทรา ดังนี้ ถ.คู้บอน ซ.คู้บอน 6 ซ.คู้บอน 21 ซ.คู้บอน 23 และ ซ.คู้บอน 31 ซ.คู้บอน 13 ชุมชนจินดาบำรุงพัฒนา ซ.คู้บอน 19 แยก 6 ชุมชน ซ.ผู้ใหญ่ชม ซ.คู้บอน 25 แยก 9 ชุมชนคู้บอน 25 และ ถ.รามอินทรา ประกอบไปด้วย ซ.รามอินทรา 81 และ 85 ชุมชนรามอินทรา 83 และ 85 ซ.รามอินทรา 46/1 ชุมชนหมู่บ้านเปรมฤทัย 1 ซ.รามอินทรา 65 และ 67 นอกจากนี้ ยังมีแขวงคันนายาว ประกอบไปด้วย ถ.รามอินทรา ซ.รามอินทรา 76 ชุมชนหมู่ 5 ซ.รามอินทรา 99 ชุมชนริมคลองลำเกร็ด ซ.รามอินทรา 109 บ้านริมคลองหลังวัดราษฎร์ศรัทธาธรรม วัดบางชัน และ ถ.กาญจนาภิเษก ซ.กาญจนาภิเษก 09 ชุมชนสุขอนันต์ ชุมชนหมู่ 6 และ ชุมชนหมู่ 8 ซ.กาญจนาภิเษก 011/1 แยก 1 ชุมชนหมู่บ้านเปรมฤทัยรามอินทรา กม. 9 นอกจากนี้ ยังมี ถ.เสรีไทย ซ.เสรีไทย 83 ชุมชนเกาะจวน อย่างไรก็ตาม ยังประกาศให้ แขวงลาดพร้าว เขตลาดพร้าว เป็นพื้นที่เฝ้าระวังอีกด้วย ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ยังเปิดเผยถึง สถานการณ์น้ำใน กทม. ว่า ระดับน้ำในคลองส่วนใหญ่ มีปริมาณน้ำลดลง ยกเว้น คลองลาดพร้าว ที่ยังสูงอยู่ ส่วนเขตบางพลัด ปริมาณน้ำลดลง ขณะที่ เขตดอนเมือง รวมถึง เขตหลักสี่ ลดลง 15-20 เซนติเมตร แต่ เขตคันนายาว สะพานสูง ธนบุรี และ บางบอน มีปริมาณน้ำเพิ่มมากขึ้น แต่ทั้งนี้ หากยังมีน้ำใหม่เข้ามา ทาง กทม. ก็จะไม่สามารถแก้ไขปัญหาการระบายน้ำได้ เพราะ กทม. มีขีดความสามารถในการระบายน้ำ ได้เพียง 100 ล้านลูกบาศก์เมตรต่อวัน แต่ขณะนี้ยังคงมีน้ำแผ่กระจาย แต่ระดับน้ำไม่รุนแรง รวมทั้ง บิ๊กแบ็ก ที่ทำอยู่ก็ยังไม่แล้วเสร็จถึง 100% ทำให้กั้นน้ำได้ไม่เต็มที่ พร้อมกันนี้ ระบุว่า ตนไม่รู้สึกกังวล หาก ส.ส. พรรคเพื่อไทย จะเสนอ พ.ร.บ. ปลดตนออกจากตำแหน่ง ซึ่งเรื่องนี้น่าจะเกิดความเข้าใจผิด เพราะ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรี ด้านความมั่นคง ยืนยันว่า ไม่ได้พูดเรื่องดังกล่าว อีกทั้ง ตนมีความสนิทสนมใกล้ชิดกับ ร.ต.อ.เฉลิม จึงเชื่อว่า น่าจะเป็นการปล่อยข่าว เพื่อดิสเครดิต กทม. มากกว่า ผู้ว่าฯกทม.เผย น้ำเอ่อท่วมพระราม 2 แล้ว ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เปิดเผยถึง สถานการณ์น้ำในฝั่งตะวันตกว่า ขณะนี้ ทิศทางของน้ำได้ขยายวงกว้าง และเข้าท่วมพื้นที่ พระราม 2 บางส่วนแล้ว เนื่องจากมีปริมาณน้ำเหนือจำนวนมากที่ไหลลงมาในฝั่งตะวันตก พร้อมกันนี้ ระบุว่า เจ้าหน้าที่สำนักการระบายน้ำ ทำงานตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อเร่งแก้ไขปัญหาน้ำท่วม ดังนั้น จึงวอนสื่อมวลชนให้สำรวจประตูระบายน้ำของ กทม.ทุกจุด รวมถึงหน่วยงานอื่น ๆ ให้ชัดเจนเสียก่อนที่จะวิพากษ์วิจารณ์ อย่างไรก็ตาม กทม. ยังมีปัญหาเรื่องขยะดังนั้น กทม. จะว่าจ้างคนในชุมชนวันละ 300 บาท ใน 18 เขต ที่ถูกน้ำท่วม โดยจะเริ่มต้น วันพรุ่งนี้เป็นเวลา 30 วัน ส่วนในพื้นที่ ที่มีน้ำท่วมสูงมากกว่า 80 เซนติเมตร จะให้ภาคเอกชน เข้ามาช่วยเหลือในการส่งอาหารและเครื่องดื่ม Link : http://www.innnews.co.th/กทม-ให้อพยพ2แขวงคันนายาว-รามอินทรา--320100_03.html

ฟังคลิปเสียงข่าว "ประชา พรหมนอก " ห่วงพื้นที่ อนุสาวรีย์ชัยฯ-พระราม 2 น้ำเอ่อท่อ ควบคุมไม่ได้ เฝ้าระวังใกล้ชิด ขอประปา อย่าปล่อยน้ำลงคลองสามเสน บางเขน เชื่อน้ำทะลักข้ามบิ๊กแบ็คได้ แต่ไม่ใช่ใน 7 วัน ตามนักวิชาการเสนอ พล.ต.อ.ประชา พรหมนอก ผู้อำนวยการศูนย์ปฏิบัติการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย หรือ ศปภ. แสดงความเป็นห่วงพื้นที่อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ และ ถ.พระราม 2 เนื่องจากมีน้ำเอ่อขึ้นจากท่อระบายน้ำ จึ่งไม่สามารถประเมินปริมาณ และควบคุมได้ดังนั้น ต้องเฝ้าระวังอย่างใกล้ชิด ขณะเดียวกัน จะเร่งระบายน้ำอย่างเต็มที่ด้วยเครื่องสูบน้ำของกรุงเทพมหานคร ซึ่งได้แระสานกับทางผู้อำนวยการสำนักระบายน้ำโดยตลอด และยังสามารถระบายน้ำได้ดีในทุกจุด นอกจากนี้ ยังขอความร่วมมือไปยังการประปานครหลวง เพื่องดการปล่อยน้ำลงคลองสามแสน คลองบางซื่อ และ คลองบางเขน ขณะเดียวกัน ยอมรับว่า อาจมีน้ำล้นแนวกระสอบทรายยักษ์ หรือ บิ๊กแบ็ก แต่อาจไม่ใช่ภายใน 7 วัน ตามที่นักวิชาการระบุ และเชื่อว่าแรงดันน้ำจะไม่ทำให้บิ๊กแบ็กพัง และผลจากการวางบิ๊กแบ็ก ทำให้น้ำลดลง 10 - 20 ซ.ม. พร้อมยืนยันทำความเข้าใจกับประชาชนที่อยู่นอกแนวบิ๊กแบ็กแล้ว Link : http://www.innnews.co.th/ศปภ-ห่วงน้ำเข้าอนุสาวรีย์ชัยฯ-พระราม-2--320107_01.html

ฟังคลิปเสียงข่าว รองนายกฯเฉลิม ระบุ ปลดผู้ว่าฯ กทม. เรื่องใหญ่ ตอนนี้ไม่เหมาะ ทำงานร่วมรัฐบาลได้ หารือแนวทาง ชี้ ทำได้ตามข้อกฎหมาย ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรี เปิดเผยถึงกระแสข่าวการปลดผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ว่า ในเรื่องดังกล่าวมองว่ายังไม่มีความจำเป็น เพราะเป็นเรื่องใหญ่ และขณะนี้ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ก็ยังทำงานร่วมกับ รัฐบาลได้ดีอยู่ แม้เรื่องนี้ไม่ใช่หน้าที่ของตนเอง แต่มีการยกข้อกฎหมายมาพูดคุยกัน ซึ่งสามารถทำได้ตามพระราชบัญญัติ ระเบียบบริหารราชการ พ.ศ. 2528 พร้อมทั้งกล่าวถึงกรณีการสังหารลูกเรือจีน 13 คน ก่อนหน้านี้ว่า เรื่องดังกล่าวตนได้เข้าไปดูแลกว่า 2 สัปดาห์แล้ว ซึ่งก็เรียบร้อยดี และรัฐบาลจีนก็พอใจกับการทำงานของรัฐบาลไทย ที่ตนเองกับสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ได้เข้าไป ดูแล และเรื่องนี้ไม่เกี่ยวข้องกับหน่วยงานใด ทุกอย่างต้องทำตามกฎหมาย ใครผิดก็ว่าไปตามผิด แต่จะไม่กลั่นแกล้งใคร Link : http://www.innnews.co.th/เฉลิมพลิ้วระบุปลดผู้ว่าฯกทม-เรื่องใหญ่--320040_01.html

ฟังคลิปเสียงข่าว บรรยากาศประชุมรัฐสภา ถกร่าง พ.ร.บ.งบฯ 55 ส.ส. ทยอยเดินทางเข้าประชุม ฝ่ายค้าน - รบ. ใช้เวลาอภิปราย ฝั่งละ 13 ช.ม. ขณะรอบสภา วางแนวกระสอบทรายล้อมรอบ จนท. ย้าย ปลาคาร์พ หนีน้ำท่วมแล้ว บรรยากาศที่รัฐสภาในวันนี้ จะมีการประชุมสภาผู้แทนราษฎร เพื่อพิจารณาร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่าย ประจำปี 2555 นั้น โดยบรรยากาศตั้งแต่ช่วงเช้าที่ผ่านมา ส.ส. ยังทยอยเดินทางมาเข้าประชุมอย่างพร้อมเพรียง รวมไปถึง นายกรัฐมนตรี ซึ่งการประชุมในวันนี้นั้น จะใช้เวลาในของฝ่ายค้านและฝ่ายรัฐบาล ฝั่งละ 13 ชั่วโมง โดยจะมีการถ่ายทอดสด ผ่านทางสถานีโทรทัศน์ NBT ตลอดระยะเวลาการประชุม ขณะที่ โดยรอบรัฐสภาในวันนี้นั้น ได้มีการวางแนวกระสอบทราย เพื่อป้องกันน้ำเข้าท่วมพื้นที่อย่างหนาแน่น รวมไปถึงได้มีการย้ายปลาคาร์พ ออกนอกพื้นที่ไปแล้ว เพื่อป้องกันปลาสูญหาย หากเกิดเหตุน้ำท่วม สมศักดิ์ลดวันประชุมร่วมแค่11พ.ย. นายสมศักดิ์ เกียรติสุรนนท์ ประธานสภาผู้แทนราษฎร กล่าวว่า ตนเองจะลดการประชุมร่วมรัฐสภา เพื่อพิจารณามติด่วนเรื่องสถานการณ์น้ำท่วม เหลือเพียง 1 วัน คือ วันที่ 11 พฤศจิกายน แต่จะใช้เวลา 1 วันเต็ม 15 ชั่วโมง คาดว่า จะพอ แต่ถ้าหากไม่พอก็อาจจะขยายเวลาเพิ่มเติม ในการลดวันการประชุมร่วมรัฐสภา ไม่ใช่การหลีกเลี่ยงไม่ให้ฝ่ายค้านอภิปราย เพราะการพิจารณางบประมาณรายจ่าย ประจำปี 2555 ในวันที่ 9 และ 10 พฤศจิกายน นี้ ก็คงมีการพูดคุยเรื่องน้ำท่วมแบบเต็ม ๆ อยู่แล้ว พร้อมทั้งยืนยันว่า การงดประชุมที่ผ่านมา ไม่ได้รับใบสั่งจากใคร และจะสั่งการได้อย่างไร เพราะญัตติน้ำท่วม ถึงอย่างไรก็ยังอยู่ในรัฐสภา ชูวิทย์นุ่งกางเกงขาสั้น หอบกะละมังเข้าประชุมสภาฯ นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ หัวหน้าพรรครักประเทศไทย เดินทางเข้าร่วมประชุมรัฐสภาในวันนี้ ด้วยการแต่งตัว สวมกางเกงขาสั้น พร้อมกับถือกะละมัง อาหารกล่อง รวมไปถึงน้ำดื่ม เพื่อเป็นการแสดงให้เห็นว่าขณะนี้ประชาชนได้รับความเดือดร้อนอย่างแท้จริง ซึ่งการแต่งตัวเดินทางมาในวันนี้ เป็นการแสดงให้รู้ว่ารัฐบาลควรดำเนินการในการช่วยเหลืออย่างเต็มที่ ซึ่งตนเองมีความพร้อมเต็มที่ในการเข้าร่วมประชุมเพื่อซักฟอกรัฐบาลแล้ว รวมไปถึงอยากให้ ส.ส. และสภา เป็นตัวแทนในการติดตามการทำงานของรัฐบาลอย่างเข้มงวด อย่างไรก็ตาม การเดินทางมาเข้าประชุมของ นายชูวิทย์ วันนี้ ได้สร้างสีสันและความสนใจให้กับสื่อมวลชนเป็นจำนวนมาก นายกฯเปิดอภิปรายร่าง พ.ร.บ.งบประมาณ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี กล่าวเปิดในการพิจารณาและอภิปรายร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่าย ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2555 ว่า เศรษฐกิจในปี พ.ศ. 2555 ยังคงได้รับผลกระทบต่อเนื่อง จากความเสียหายอย่างรุนแรงจากอุทกภัยปลายปี พ.ศ. 2554 แต่เมื่อปัญหาดังกล่าวเบาบางแล้ว จะมีการปรับปรุงฟื้นฟูโครงสร้างพื้นฐานทางกายภาพและการผลิต รวมทั้งมีมาตรการเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบจากปัญหาอุทกภัยอย่างเร่งด่วน ทั้งในภาครัฐและภาคเอกชน นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรี ยังกล่าวอีกว่า จากการดำเนินมาตรการเร่งด่วน ซึ่งมุ่งเน้นการเพิ่มรายได้ของประชาชน และศักยภาพการแข่งขันของประเทศ ประกอบกับ เสถียรทางเศรษฐกิจภายในและภายนอกประเทศ ที่อยู่ในเกณฑ์ดีทำให้คาดได้ว่า เศรษฐกิจไทย ในปี พ.ศ. 2555 ยังสามารถขยายตัวได้ ประมาณร้อยละ 4.5-5.5 และอัตราเงินเฟ้อ ประมาณร้อยละ 3.0-4.0 ขณะที่ นายกรัฐมนตรี ชี้แจงว่ารัฐบาลตั้งงบประมาณ 2.38 ล้านล้านบาท บริหารจัดการน้ำ และเยียวยาฟื้นฟู 120,000 ล้านบาท นายกรัฐมนตรี ยังกล่าวว่า ในงบประมาณ พ.ศ. 2555 รัฐบาลประมาณการว่า จะสามารถจัดเก็บรายได้สุทธิ ทั้งสิ้นประมาณ 266,900 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 12.1 จากปีก่อน และเมื่อหักการจัดสรรภาษีมูลค่าเพิ่มให้ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ตาม พ.ร.บ.กำหนดแผนและขั้นตอนการกระจายอำนาจ ให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น พ.ศ.2552 จำนวน 86,900 ล้านบาทแล้ว คงเหลือเป็นรายได้สุทธิ ที่จัดสรรมาเป็นรายจ่ายของรัฐบาล จำนวน 1980,000 ล้านบาท หรือ ร้อยละ 16.8 ของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ สำหรับรายจ่ายเยียวยาฟื้นฟู และป้องกันความเสียหายจากวุฒิสภา อย่าง บูรณาการนั้น รัฐบาล ได้จัดสรรจำนวนเงิน ไว้ที่ 120,000 ล้านบาท อภิสิทธิ์ห่วงงบน้ำท่วมส่อโกงขอรบ.โปร่งใส นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ในฐานะผู้นำฝ่ายค้าน ขึ้นอภิปรายร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปี 2555 ว่า การจัดทำงบประมาณรายจ่ายของรัฐบาลในขณะนี้ ถือว่ามีความน่ากังวล เนื่องจากการประเมินตัวเลขรายได้ของรัฐบาลไม่มีความสอดคล้องกับภาวะเศรษฐกิจในปัจจุบัน ผลกระทบจากวิกฤติเนื่องในยุโรป รวมไปถึงปัญหาอุทกภัยที่เกิดขึ้นภายในประเทศ เนื่องจากยังใช้ตัวเลขในการประมาณอัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจ (จีดีพี) เป็นตัวเลขเดิมที่คาดการณ์ว่าจะขยายตัวอยู่ที่ร้อยละ 3.5 - 4 ขณะที่ทางธนาคารแห่งประเทศไทย ได้มีการปรับการประมาณการลดลงมาแล้วเหลือ 2.6 ในปี 2554 รวมทั้งยังได้ปรับลดลงไปจนถึงปี 2555 ซึ่งจะทำให้การจัดเก็บรายได้ของรัฐบาลลดลงอย่างแน่นอน ซึ่งขัดกับการประมาณการรายได้ของรัฐบาลในปี 2555 ที่คาดว่าจะจัดเก็บรายได้ ได้สูงสุดกว่า 2,000,000 ล้านบาท นอกจากนี้ การดำเนินมาตรการลดหย่อนภาษีต่างๆ ยังจะทำให้รัฐเสียรายได้เป็นจำนวนมาก ซึ่งจะทำให้การขาดดุลเกินกว่า 400,000 ล้านบาท อย่างแน่นอน Link : http://www.innnews.co.th/ส-ส-ทยอยประชุมสภาถกร่าง-พ-ร-บ-งบฯ-55--320024_01.html

กองบังคับการตำรวจจราจร หรือ บก.จร. แจ้งปิดการจราจร ถ.วิภาวดีรังสิต และ ถ.พหลโยธิน เพิ่มเติม ถนนพหลโยธินขาเข้า-ขาออก ขยายพื้นที่ปิดการจราจรถึงสะพานข้ามคลองบางซื่อ หรือ แยกกำแพงเพชร เนื่องจากระดับน้ำสูง 50-130 เซนติเมตร พร้อมแนะนำเส้นทางเลี่ยงใช้ ถนนประดิพัทธ์ ไป ถนนพระราม 6 หรือ ถนนสุทธิสารวินิจฉัย ไป ถนนวิภาวดีรังสิต หรือ กลับรถไปอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ หรือ ใช้ทางลัด ซ.พหลโยธิน 2 ไป ถนนวิภาวดีรังสิต ขณะที่ถนนวิภาวดีรังสิต ขาเข้า-ขาออก ขยายพื้นที่ปิดการจราจรถึงสะพานข้ามคลองบางซื่อ บริเวณตึกชัยดีแทค เนื่องจากระดับน้ำสูง 50-120 เซนติเมตรแนะเส้นทางเลี่ยงใช้ ถนนสุทธิสารวินิจฉัยไป ถนนพหลโยธิน หรือ ถนนสุทธิสารวินิจฉัย ไป ถนนรัชดาภิเษก หรือ กลับรถไปดินแดง ส่วนถนนรัชดาภิเษก ขาเข้า-ขาออก ขยายพื้นที่ปิดการจราจร ตั้งแต่ทางต่างระดับรัชวิภา ถึงแยกสุทธิสาร ถนนลาดพร้าว ขาเข้า-ขาออก ขยายพื้นที่ปิดการจราจรตั้งแต่ห้าแยกลาดพร้าว ถึงสะพานข้ามคลองลาดพร้าว บริเวณลาดพร้าว ซ.48 ถนนนวมินทร์ ขาเข้า- ขาออก ขยายพื้นที่ปิดการจราจร ตั้งแต่ ถ.รามอินทรา กิโลเมตร 8 ถึง ถนนนวมินทร์ ซ.147 ขณะที่ถนนรามอินทรา ขาเข้า-ขาออก ปิดการจราจร ตั้งแต่แยกวงเวียนบางเขน ถึง รามอินทรา กิโลเมตร 5 หรือ ใต้ทางด่วนรามอินทรา -อาจณรงค์ ถนนประเสริฐมนูญกิจ หรือ เกษตร-นวมินทร์ ขาเข้า - ขาออก ปิดการจราจรตั้งแต่แยกเกษตร ถึงแยกลาดปลาเค้า ถนนแจ้งวัฒนะขาเข้า-ขาออก ปิด ตั้งแต่วงเวียนบางเขน ถึงแยกคลองประปา และ ถนนงามวงศ์วาน ขาเข้า-ขาออก ปิดตั้งแต่แยกพงษ์เพชร ถึงแยกเกษตร http://news.sanook.com/1070471/บก.จร.แจ้งขยายพื้นที่ปิดการจราจรในเส้นทาง-ถ.วิภาวดีรังสิต-พหลฯ/

สถานการณ์น้ำในถนนเสรีไทย ยังมีน้ำท่วมขังแผ่ไปรื่อยๆ และมีแนวโน้มขยายไปทางแยกนิด้า และสวยสยาม มากขึ้น สถานการณ์น้ำในพื้นที่ถนนเสรีไทย จากแยกมีนบุรีมุ่งหน้านิคมอุตสาหกรรมบางชัน ทั้งฝั่งขาเข้า - ขาออก ยังคงมีระดับน้ำท่วมขังในแบบขยายวงกว้างออกไปเรื่อยๆ ขณะนี้หัวน้ำมาถึงบริเวณทางเข้านิคมอุตสาหกรรมบางชัน ซอย 1 แล้ว ระดับน้ำสูงสุดอยู่ที่ประมาณ 40 เซนติเมตร นอกจากนี้ จากการสำรวจในพื้นที่ถนนเสรีไทยที่มุ่งหน้าไปยังแยกนิด้าพบว่าในหลายจุดเริ่มมีน้ำท่วมขังในลักษณะเอ่อขึ้นมาจากท่อระบายน้ำ เช่น แยกเข้าสวนสยาม มีน้ำเอ่อจากท่อระบายน้ำ ท่วมถึงกลางแยกในฝั่งขาออก ระดับน้ำประมาณ 5 - 10 เซนติเมตร รถยนต์ยังสามารถผ่านได้ บริเวณช่วงปากซอยเสรีไทย 54 ก่อนขึ้นสะพานข้ามคลองหลอแหล ระดับน้ำขยายวงกว้างเกือบเต็ม 2 ช่องจราจร มีระดับความสูงประมาณ 15 - 20 เซนติเมตร รถยนต์ที่ผ่านมาในเส้นทางนี้ต้องใช้ช่องทางขวาสุด โดยในจุดที่มีน้ำท่วมขัง ตำรวจจราจรจะนำป้ายเตือน http://news.sanook.com/1070429/น้ำถ.เสรีไทยเริ่มขยายไปนิด้า-สวนสยาม/

    นายวรศาสน์ อภัยพงษ์ รักษาราชการแทนอธิบดีกรมควบคุมมลพิษ กล่าวถึงการจัดการแก้ไขปัญหาขยะมูลฝอยในพื้นที่ประสบภัยว่า ตามที่คาดการณ์ไว้ปริมาณขยะที่เกิดขึ้นจะมีจำนวน 3.5 ล้านตัน และปัญหาที่เกิดขึ้นอยู่คือขยะไม่ได้รับการจัดเก็บ ทำให้ตกค้างเน่าเสียอยู่ในชุมชนต่างๆ ทั้งนี้การจัดการภาพรวมช่วงเกิดอุทกภัยประชาชนต้องนำขยะในใส่ถุงดำ/ถุงพลาสติก วางไว้ที่สูงเช่น รั้วบ้าน เสาไฟฟ้า เพื่อรอการเก็บ เมื่อน้ำลดต้องมีการจัดบิ๊ก คลีนนิ่งเดย์ เพื่อช่วยกันเก็บรวบรวมและคัดแยกขยะที่จะนำไปใช้ประโยชน์ รวมทั้งขยะอันตรายเพื่อให้มีการกำจัดขยะอย่างถูกวิธี อย่างไรก็ตามยอมรับว่าหน่วยงานภาครัฐยังไม่มีแผนรองรับฉุกเฉินในเรื่องการจัดการขยะ จึงเป็นบทเรียนที่เราจะต้องนำไปหารือร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง นอกจากนี้ยังพบปัญหาวิกฤตน้ำเน่าจากน้ำท่วมขังชุมชน ใน 4 เขต คือ จตุจักร ดอนเมือง บางพลัด และเขตหลักสี่ ดังนี้ ผลการตรวจสอบคุณภาพน้ำหน้าสนามบินดอนเมือง (เขตดอนเมือง) หน้าโรงพยาบาลจุฬาภรณ์ (เขตหลักสี่) หน้าสถานที่ดับเพลิงลาดยาว, บริเวณทางต่างระดับถนนรัชโยธิน (เขตจตุจักร) และวัดไก่เตี้ย (เขตตลิ่งชั้น) พบว่า ค่าออกซิเจนละลายในน้ำต่ำกว่า 2 มิลลิกรัมต่อลิตร ซึ่งถือว่าเป็นน้ำที่มีคุณภาพต่ำ และเสื่อมโทรมมาก จึงสั่งเตือนให้ประชาชน ห้ามนำน้ำในบริเวณดังกล่าวมาอุปโภค บริโภคอย่างเด็ดขาด และถ้าหากต้องลุยน้ำให้ทำความสะอาดร่างกายทันที Mthai News

  ผู้สื่อข่าว Mthai News รายงานสถานการณ์ น้ำท่วมจากบริเวณถนนพหลโยธิน ว่า ขณะนี้ระดับน้ำได้เอ่อท่วมถึงบริเวณบันไดขั้นที่ 1 สถานีรถไฟฟ้าใต้ดิน สถานีจตุจักร ประตู 2 แล้ว ขณะที่ ถ.พหลโยธิน ขาเข้า-ขาออก มวลน้ำยังอยู่ที่แยกกำแพงเพชร โดยน้ำยังไม่ข้ามคลองบางซื่อ แต่เจ้าหน้าที่ยังคงปิดการจราจร ผู้ใช้เส้นทางสามารถเลี่ยงไปใช้ ถ.ประดิพัทธิ์ ไป ถ.พระราม 6 หรือ ถ.สุทธิสารวินิจฉัย ไป ถ.วิภาวดีรังสิต แทนได้ ขณะเดียวกัน ตั้งแต่บริเวณหน้าโรงภาพยนต์เมเจอร์รัชโยธิน ผ่านแยกรัชโยธิน ต่อเนื่องผ่านห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัลลาดพร้าว เข้า 5 แยกลาดพร้าว ตลอดไปจน แยกกำแพงเพชร และบริเวณสวนจตุจักรนั้น มีระดับน้ำท่วมขังสูง และยังคงสูงต่อเนื่องรถเล็กไม่สามารถสัญจรได้ ประชาชนส่วนใหญ่จึงจำเป็นต้องอาศัยรถประจำทาง และรถบรรทุกขนาดใหญ่ โดยเฉพาะรถทหารในการสัญจรแทน นอกจากนี้จากการสังเกตของผู้สื่อข่าว พบว่า บริเวณประตูรั้วราวเหล็ก รวมถึงป้ายรถประจำทางบริเวณรัชโยธิน รวมทั้งพื้นที่ใกล้เคียงมีข้อความระบุว่า “ยิ่งลัก ดีแต่พูด” ด้วย Mthai News

ฟังคลิปเสียงข่าว ผู้ตรวจราชการกระทรวงศึกษาธิการ รับมอบถุงยังชีพร่วมใจช่วยภัยน้ำท่วม เพื่อช่วยโรงเรียน ศูนย์ประสานงานกระทรวงศึกษาธิการร่วมใจช่วยภัยน้ำท่วม สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา เขต 4 (ปทุมธานี –สระบุรี) นายเสน่ห์ ขาวโต ผู้ตรวจราชการกระทรวงศึกษาธิการ รับมอบถุงยังชีพ จำนวน 2 คันรถหกล้อ และเงินบริจาค จำนวน 100,000 บาท ซึ่งได้รับบริจาคจากสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาเขต 23 นำโดยผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา เขต 23 และถุงยังชีพจากโรงเรียนนางรอง สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาเขต 32 จำนวน 350 ชุด เพื่อมอบให้โรงเรียน บุคลากรและผู้ประสบอุทกภัยในศูนย์พักพิงในโรงเรียนในสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาเขต 4 (ปทุมธานี-สระบุรี)โดยนายพิทยา ไชยมงคล ผู้อำนวยการฯเป็นผู้พิจารณามอบให้โรงเรียนและบุคลากรในสังกัดต่อไป Link : http://www.innnews.co.th/ผู้ตรวจฯศธ-รับมอบถุงยังชีพช่วยโรงเรียน--320171_06.html

ผู้อำนวยการเขตบางขุนเทียน ยัน น้ำเริ่มเข้าท่วมพื้นที่แล้ว ชี้หากท่วม เยอะสุด 50 ซ.ม. นายพงษ์ศักดิ์ พันธุ์สวาสดิ์ ผู้อำนวยการเขตบางขุนเทียน เปิดเผยว่าขณะนี้ น้ำที่ท่วมจากเขตบางบอน ได้เข้าสู่เขตบางขุนเทียนเรียบร้อยแล้ว โดยน้ำที่ได้ข้ามผ่านทางรถไฟ ซึ่งเป็นเส้นแบ่งเขตระหว่างเขตบางบอนและเขตบางขุนเทียน โดยน้ำที่เริ่มเข้ามาในเขตบางขุนเทียน ในขณะนี้ กินพื้นที่ประมาณ 20 เมตร จากรางรถไฟ อย่างไรก็ตาม หากน้ำเข้ามาในเขตบางขุนเทียนอย่างเต็มที่ คาดว่า ระดับน้ำจะมีความสูงอยู่ที่ประมาณ 30-50 เซนติเมตร ซึ่งเป็นระดับที่ใกล้เคียงกับเขตบางบอน ที่ประสบกับสถานการณ์น้ำท่วมมาก่อนหน้านี้ ทั้งนี้ ผู้อำนวยการเขตบางขุนเทียน กล่าวด้วยว่า ทางเขตจะไม่ไปปิดกั้นหรือกีดขวางทางน้ำ โดยจะปล่อยให้น้ำไหลไปตามธรรมชาติเพราะพื้นที่ในเขตบางขุนเทียนอยู่ใกล้ทะเล จึงง่ายต่อการระบายน้ำขณะเดียวกัน ทางสำนักงานเขตได้เตรียมศูนย์อพยพไว้จำนวน 19 แห่ง ซึ่งส่วนใหญ่เป็นโรงเรียนในสังกัดในเขตกรุงเทพมหานคร เพื่อรองรับประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนจากน้ำท่วม โดยศูนย์อพยพ 1 แห่ง รองรับประชาชนได้ประมาณ 400-500 คน Link : http://www.innnews.co.th/ผอ-บางขุนเทียนยันน้ำเริ่มเข้าท่วมพื้นที่--320168_05.html

  บริเวณริมแม่น้ำเจ้าพระยาฝั่งธนบุรี แนวริมแม่น้ำส่วนใหญ่ไม่มีปัญหา กรณีน้ำรั่วซึมท่วมเข้าในพื้นที่ ได้ทำการล้อมเข้าระบบสูบ จะมีน้ำท่วมบ้างในช่วงเวลาน้ำขึ้น ส่วนใหญ่ควบคุมได้ ส่วนพื้นที่เขตบางพลัด สถานการณ์น้ำปัจจุบันยังไม่สามารถควบคุมได้ ขณะที่ฝั่งพระนคร แนวริมแม่น้ำส่วนใหญ่สามารถควบคุมได้ มีเข้ามาบ้างและไหลเข้าระบบ ไม่มีผลกระทบกับพื้นที่  หากคาดการณ์ในระดับน้ำเจ้าพระยาที่ปากคลองตลาดประมาณ 2.00 – 2.10 เมตร รทก. จะทำให้น้ำที่ไหลเข้ามาในถนนบริเวณท่าพระจันทร์เข้าสู่ระบบรถเล็กสามารถผ่านได้  และสูบน้ำลงแม่น้ำเจ้าพระยา ส่วนถนนทรงวาดมีน้ำไหลเข้ามาทางเข้า-ออกอาคารของเอกชนไม่สามารถกั้นน้ำได้ ทำให้น้ำไหลลงสู่ถนนทรงวาด รถเล็กสัญจรผ่านไม่ได้เป็นบางช่วง และถนนสามเสน ช่วงซอย 5 มีน้ำท่วมขัง ส่วนซอย 21 และ 23  มีน้ำเข้ามาท่วมแต่ไหลลงระบบได้ และบริเวณองค์การสะพานปลา วัดลาดบัวขาวมีปัญหาน้ำเข้ามาในถนนเจริญกรุงใช้วิธีการสูบน้ำเข้าสู่ระบบแล้วสูบน้ำออก และบริเวณใต้สะพานพระราม 7 มีน้ำท่วมขัง เป็นบางช่วงแต่ไหลเข้าสู่ระบบได้ สำหรับสถานการณ์ในพื้นที่และคลองสายต่างๆ พบว่า ด้านกรุงเทพตะวันออก แนวริมคลองแสนแสบน้ำเริ่มสูงขึ้นช่วงบางชัน สะพานสูง ขณะที่น้ำทางตอนเหนือบริเวณเขตหลักสี่และดอนเมือง ระดับน้ำในคันบิ๊กแบ๊กด้าน ถ.วิภาวดี ลดลงประมาณ 25 ซม. ด้านคลังสินค้า ลดลงประมาณ 15 ซม.ระดับน้ำจากคลังสินค้าถึงวัดหลักสี่ ลดลงประมาณ 5-10 ซม. เป็นช่วง ๆ และระดับน้ำบริเวณหลักหกช่วงนอกแนวคันกั้นน้ำ ลดลงประมาณ 15 ซม. ในส่วนของระดับน้ำช่วง ถ.วิภาวดีรังสิต จากคลองบางซื่อถึงแยกสุทธิสารมีน้ำล้นจากคูน้ำท่วมผิวจราจรฝั่งขาเข้า สูง 10-15 ซม. ยาวประมาณ 100 ม. ส่วนระดับน้ำในคูน้ำ ถ.วิภาวดีรังสิตจากแยกถนนสุทธิสารถึงหน้ากรมการรักษาดินแดงมีระดับสูง ทั้งนี้ กทม.คาดการณ์ว่าภายใน 24 ชั่วโมง ระดับน้ำในคูน้ำวิภาวดี จากแยกถนนสุทธิสารถึงโรงพยาบาลผ่านศึกอาจจะมีระดับสูงขึ้น เนื่องจากการปล่อยน้ำจากคลองบางซื่อผ่านคูน้ำไปลงคลองสามเสน สำหรับระดับน้ำในคลองมหาสวัสดิ์ สูงกว่าผนังกั้นน้ำบริเวณใกล้ ประตูระบายน้ำคลองทวีวัฒนา ประมาณ 5-15 ซม. ทำให้น้ำล้นเข้ามาท่วมในพื้นที่บางช่วง ส่วน ถ.บางบอน 3 และบางบอน 5 น้ำเริ่มท่วมขังเป็นช่วงๆ  ถ.เลียบคลองภาษีเจริญฝั่งใต้ในซอยแยกเริ่มมีน้ำท่วมขังเป็นบางซอยแล้ว และถ.บางบอน 1 น้ำท่วม สูงประมาณ 20-30 น. เกือบตลอดสาย ด้าน ถ.วุฒากาศ ตั้งแต่สามแยกมะลิทองถึงวุฒากาศ 14 มีน้ำท่วม สูงประมาณ 10-15 ซม ถ.กัลปพฤกษ์เริ่มมีน้ำท่วมขอบผิวจราจร ซ.เอกชัย ฝั่งทิศตะวันตกมีน้ำท่วมขังเกือบทุกซอย สูงประมาณ 10-20 ซม. ถ.กาญจนาภิเษก ตัด ถ.เอกชัยมีน้ำท่วม ตลอดสาย ถ.บรมราชชนนี ระดับน้ำลดลงประมาณ 8-10 ซม. และถ.พระราม 2 ฝั่งขาเข้ามีน้ำเอ่อท่วมบางซอย Mthai News

กทพ. ยกเว้นการเก็บค่าผ่านทางพิเศษทุก 6 สายทาง จนถึงวันที่ 20 พ.ย. 54          สืบเนื่องจากการเกิดอุทกภัยในจังหวัดต่าง  ๆ ส่งผลให้เกิดน้ำท่วมระดับสูงบนถนนสายสำคัญหลายสาย ทำให้ไม่สามารถใช้สัญจรไปมาได้  ทางพิเศษจึงเป็นทางเลือกหลักในการเดินทาง วานนี้ (8 พฤศจิกายน) การทางพิเศษแห่งประเทศไทย (กทพ.) กระทรวงคมนาคม จึงได้ออกประกาศเพิ่มและขยายเวลาการยกเว้นการเก็บค่าผ่านทางพิเศษ มีรายละเอียดดังนี้          1.  ยกเว้นการเก็บค่าผ่านทางพิเศษทางพิเศษเฉลิมมหานคร  ทางพิเศษศรีรัช  ทางพิเศษอุดรรัถยา ตั้งแต่วันที่ 9 พฤศจิกายน 2554 เวลา 00.01 น.  ถึงวันที่ 20 พฤศจิกายน 2554 เวลา 24.00 น.          2.  ขยายเวลายกเว้นการเก็บค่าผ่านทางพิเศษ 3 สายทางเดิม คือ ทางพิเศษฉลองรัช  ทางพิเศษบูรพาวิถี  และทางพิเศษกาญจนาภิเษก (บางพลี-สุขสวัสดิ์) ที่มีกำหนดสิ้นสุดในวันที่ 14 พฤศจิกายน 2554 เวลา 24.00 น. ให้เลื่อนไปเป็นวันที่ 20 พฤศจิกายน 2554 เวลา 24.00 น.  ข่าวน้ำท่วม บริจาคผู้ประสบภัยน้ำท่วม คลิกเลยค่ะ  อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก การทางพิเศษแห่งประเทศไทย [7 พฤศจิกายน] กทพ. เว้นค่าทางด่วน 3 เส้นทางถึง 14 พ.ย.นี้          กทพ. ขยายเวลายกเว้นค่าทางด่วน สายฉลองรัตน์ สายบูรพาวิถี และสายกาญจนาภิเษก ไปจนถึง 14 พ.ย.นี้          จากปัญหาน้ำท่วมเมืองกรุงในหลายพื้นที่ ทำให้การทางพิเศษแห่งประเทศไทย (กทพ.) ตัดสินใจยกเว้นค่าผ่านทางพิเศษ 3 สาย คือ สายฉลองรัตน์ สายบูรพาวิถี และสายกาญจนาภิเษก ต่อไปจนถึง 14 พฤศจิกายนนี้ เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชนในการสัญจร จากปัญหาน้ำท่วมในหลายพื้นที่ของ กทม. และปริมณฑล ซึ่งยังไม่มีวี่แววคลี่คลายในเร็ววันนี้          ทั้งนี้ ทาง กทพ. ยังขอความร่วมมือจากประชาชนไม่ให้จอดรถทุกชนิดบนทางด่วน เพื่อความสะดวกในการสัญจรไปมา หากผู้ใดฝ่าฝืนจะดำเนินการเคลื่อนย้ายรถในทันที หากประชาชนต้องการหาพื้นที่ในการจอดรถเพื่อหนีน้ำท่วม สามารถสอบถามข้อมูลการให้บริการที่จอดรถฟรีได้ที่ ศูนย์ประสานงานการปฏิบัตการช่วยเหลือผู้ประสบภัย ของ กทพ. สายด่วน 1543 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง Kapook.com

กรมทรัพยากรน้ำบาดาล กระทรวงทรัพยากรฯ เตรียมขุดเจาะน้ำบาดาลแจกฟรี หลังจากเกิดภาวะขาดแคลนน้ำดื่ม ยืนยัน มั่นใจในคุณภาพว่าสะอาด             หลังจากที่เกิดภาวะน้ำท่วม ทำให้นิคมอุตสาหกรรมหลายแห่งเสียหาย รวมถึงประชาชนได้รับความลำบากไม่สามารถออกไปหาอาหารและน้ำดื่มได้ รวมถึงคุณภาพน้ำประปาที่ไม่ดีเหมือนเดิม ทำให้ วานนี้ (8 พฤศจิกายน) นายปราณีต ร้อยบาง อธิบดีกรมทรัพยากรน้ำบาดาล กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) เปิดเผยว่า เตรียมขุดน้ำบาดาลจำนวน 8 บ่อ 7 จุด ในกรุงเทพฯ และยืนยันว่าน้ำบาดาลที่ขุดขึ้นมามีความสะอาด ปลอดภัย ได้มาตรฐานองค์การอนามัยโลก (WHO) โดยจะขุดเจาะในความลึก 200-300 เมตร กรองโดยธรรมชาติ ปราศจากเชื้อโรค นำมาบรรจุใส่ขวด ซึ่งน้ำทั้งหมดนี้จะแจกฟรีทั้งหมด   ทั้งนี้ สถานที่ที่จะขุดน้ำบาดาลทั้ง 7 จุด จะขุดใกล้กับบริเวณที่มีศูนย์อพยพใหญ่ ประกอบด้วย            1. ศูนย์ราชการ แจ้งวัฒนะ            2. สำนักงานแคทเทเลคอม            3. สภากาชาดไทย            4. โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์            5. จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย            6. สนามกีฬาศุภชลาศัย            7. ราชมังคลากีฬาสถาน   ส่วนสถานที่แจกน้ำบาดาลมีอยู่ 10 จุด ประกอบด้วย            1. สวนจตุจักร            2. วัดสามัคคีธํรรม            3. การเคหะคลองจั่น            4. โรงเรียนประภาสวิทยา            5. ท้องฟ้าจำลอง            6. วัดลาดบัวขาว            7. วิทยาลัยเทคนิคราชสิทธิ์            8. วัดวชิรธรรมสาธิต            9. โรงเรียนพูลเจริญวิทยาคม            10. วัดตำหรุ มติชน

ภาพประกอบจากทวิตเตอร์ @Jeepvoicetv ไม่เกี่ยวข้องกับข่าว นายยงยุทธ ทองสุข รองปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม คณะกรรมการป้องกันน้ำท่วมนิคมอุตสาหกรรมบางชัน เปิดเผยถึงสถานการณ์น้ำล่าสุดในเช้าวันนี้ว่า น้ำจากทางทิศเหนือฝั่งถนนรามอินทรา ซึ่งไหลจากมีนบุรี คลองสามวา ได้ไหลมาเต็มลงคลองกระเทียม ทางทิศเหนือของโรงงาน บริเวณถนนหม่อมเจ้าสง่างามสุประดิษฐ์ สูงขึ้นถึง 1.19 เมตร ขณะที่ฝั่งคลองแสนแสบ ระดับน้ำเมื่อคืนนี้ เวลา 22.30 น. มีระดับน้ำสูงขึ้น 1 เมตร จากที่ช่วงเย็นของเมื่อวานอยู่ที่ระดับ 98-99 ซม. ทำให้เจ้าหน้าที่ต้องประกาศเตรียมใช้แผนฉุกเฉินขั้นที่ 1 คือ ถ้าน้ำในคลองเเสนเสบสูง 1 เมตร จะประกาศให้ผู้ประกอบการยกของขึ้นที่สูง แต่สถานการณ์น้ำช่วง 08.00น. ที่ผ่านมา การผันน้ำเเละสูบน้ำออกทำได้ดีขึ้น ทำให้ระดับน้ำลดลงมาอยู่ที่ 98 ซม. ทั้งนี้ ทางผู้ประกอบการโรงงานอุตสาหกรรม มีการเตรียมกั้นกระสอบทรายสูงระดับ 2.1 เมตร เผื่อเอาไว้แล้ว ถ้าน้ำฝั่งคลองกระเทียมสูงระดับ 1-1.19 เมตร ก็ยังพอรับได้ แต่ต้องเร่งส่งน้ำจากคลองกระเทียมฝั่งถนนหม่อมเจ้าฯ ลงคลองแสนแสบให้เร็วขึ้น ซึ่งประมาณ 09.00 น. ของวันนี้ จะมีการประเมินสถานการณ์อีกครั้ง นายธเนศ วีระศิริ เลขาธิการวิศวกรรมสถานแห่งประเทศไทยในพระบรมราชูปถัมภ์ ผู้ดูแลระบบป้องกันน้ำนิคมอุตสาหกรรมบางชัน กล่าวว่า สถานการณ์น้ำฝั่งคลองกระเทียมขณะนี้น่ากังวล และเป็นตัวชี้วัดว่าระดับน้ำที่สูงขึ้น จะไหลเข้าโรงงานหรือไม่ เพราะน้ำจากทางเหนือมาเติมตลอด ทำให้น้ำสูงขึ้น จาก 1.04 เมตร เมื่อวันที่ 8 พ.ย. เพิ่มเป็น 1.13 เมตร เมื่อวันที่ 9 พ.ย. เเละเช้านี้ เพิ่มเป็น 1.19 เมตร เพิ่มขึ้นถึง 6 ซม. ทำให้ต้องเฝ้าดู และตรวจสอบว่าระดับน้ำที่จะวัดได้ในช่วงสายวันนี้ อยู่ในระดับที่จะเข้าโรงงานหรือไม่ อย่างไรก็ตาม ระดับน้ำฝั่งถนนเสรีไทย บริเวณสามเเยกบางชัน เเละด้านหน้าบริษัทสหยูเนียน ที่มีเเนวบิ๊กแบ็ควางยาวประมาณ 200 เมตร ระดับน้ำยังเพิ่มขึ้นอีกเล็กน้อย ทำให้การจรจรติดขัดบ้าง เเต่ยังสามารถสัญจรไปมาได้ตามปกติ Mthai News

ภาพประกอบเป็นน้ำท่วม หน้าเมเจอร์รัชโยฯ Mthai News : ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สถานการณ์น้ำท่วม ในพื้นที่ของ บางขุนเทียน บางบอน ระดับน้ำสูง 15-20 ซ.ม. ส่วนใหญ่ท่วมพื้นผิวการจราจร ซึ่งขณะนี้ยังมีหลายหมู่บ้านที่ยังไม่อพยพอาทิหมู่บ้าน DK เคหะบางบอน ระดับน้ำสูงประมาณ 15-20 ซ.ม. ทั้งนี้ทาง สน.ท่าข้าม ได้มีการรวบรวมรายชื่อ คนแก่ คนพิการ คนป่วย ที่มีความเสี่ยงสูง จัดเก็บไว้เป็นระบบ เพื่อให้ง่ายต่อการให้ความช่วยเหลือ นอกจากนี้ ทางพื้นที่ ท่าข้าม ได้ตั้งเป็นศูนย์พักพิงชั่วคราวหลายแห่ง อาทิ ร.ร.ท่าข้าม ถ้ามีน้ำท่วมสูงก็จะมีการนำประชาชน มาที่ศูนย์ฯ ในส่วนของ พื้นที่ สน.ท่าข้าม ซึ่งมีแนวติดถนนพระราม 2 ทั้ง 2 ฝั่ง ยังพบว่าสถานการณ์ยังปกติ ไม่มีปัญหาน้ำท่วมปริมาณน้ำจ่อพระราม 2 ถนนบางขุนเทียน บางบอน ประมาณ 1 กม. ระดับน้ำทรงตัวประมาณ 15-20 ซ.ม. โดยทางสน.ท่าข้ามมั่นใจ ไม่ถึงวันนี้อย่างแน่นอน ส่วนการเตรียมแผนอพยพนั้น ทางเจ้าหน้าที่ ได้มีการเตรียมแผนประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนทราบ โดยมีการประสานผู้นำชุมชนเพื่อเตรียมตัวอพยพไว้ด้วย ทั้งนี้คงต้องลุ้นว่า น้ำท่วมวันนี้จะมาถึงถนนพระราม 2 หรือไม่ อย่างที่ผู้ว่ากรุงเทพมหานคร คาดไว้ก่อนหน้านี้ Mthai News