น.ส.ยิ่งลักษณ์​ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณี ที่ฝ่ายค้านเสนอให้ทบทวนนโยบายประชานิยมโดยเฉพาะโครงการบ้านหลังแรก รถคันแรก ในภาวะที่เกิดประสบอุทกภัย ว่า ที่มาของทุกนโยบายต้องการกระตุ้นเศรษฐกิจ และ ให้ประชาชนทุกระดับ ทั้งการพักหนี้ รถยนต์คันแรก บ้านหลังแรก ซึ่งเป็นเม็ดเงินไม่มาก และเป็นสิ่งที่เคยสัญญากับพี่น้องประชาชน ซึ่งในส่วนของพรรคจะดูแลการบริหารใช้เม็ดเงินให้มีประสิทธิภาพให้เกิดกระตุ้นเศรษฐกิจแท้จริง ส่วนกรณีที่มีข่าวว่าน้ำในเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์มีปริมาณเกินความจุ นั้น ได้ปรึกษากับอธิบดีกรมชลประทานพบว่าแม้จะเกินระดับปกติแต่ยังสามารถรองรับได้อยู่ไม่มีปัญหา ส่วนกรณีที่มีความเป็นไปได้ว่าจะเกิดน้ำท่วมถนนพระราม 2 ซึ่งเป็นเส้นทางลงสู่ภาคใต้นั้นอาจเกิดความไม่สะดวก ขณะนี้ได้ขอให้ทางการบินไทย ดูแลเพิ่มเที่ยวบิน​และให้ราคาพิเศษ เส้นทางบินสู่ภาคใต้เหมือนกับที่เคยทำในกรณีจ.นครสวรรค์ Mthai News

ฟังคลิปเสียงข่าว สถานการณ์น้ำ ถ.นวมินทร์ หัวน้ำ อยู่ ซ.66 ทั้งขาเข้า และออก ระดับน้ำสูงกว่า 30 ซ.ม. ด้าน ซ.นวลจันทร์ น้ำสูง 40 ซ.ม. บนถนนรถน้อย ปชช. ใช้รถเมล์ เป็นส่วนใหญ่ ความคืบหน้า สถานการณ์น้ำท่วมล่าสุด บริเวณ ถ.นวมินทร์ ขณะนี้ ทั้งฝั่งข้าเข้าและขาออก หัวน้ำ อยู่บริเวณ ซ.นวมินทร์ 66 แล้ว โดยระดับน้ำสูงกว่า 30 ซ.ม. ในส่วนของแยกนวลจันทร์นั้น ระดับน้ำสูงกว่า 40 ซ.ม. โดยทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.โคกคาม ได้ตั้งจุดดูแลอำนวยความสะดวกให้กับประชาชน ที่เดินทางบริเวณดังกล่าว โดยเขียนป้ายบอกในจุดที่รถเล็กไม่สามารถผ่านได้ ส่วนการจราจรบนถนนนั้น ปริมาณรถค่อนข้างจะบางตา จากการสอบถาม พ่อค้า แม่ค้า บริเวณดังกล่าว ทราบว่า ปริมาณรถบนถนน ได้ลดลงกว่าครึ่ง และลูกค้าก็ลดลงตามไปด้วย อย่างไรก็ตาม จากการสังเกตทราบว่า ประชาชนส่วนใหญ่ นิยมเดินทางด้วย รถโดยสารประจำทาง เนื่องจาก สามารถเข้าไปในจุดที่ต้องการได้สะดวกที่สุด Link : http://www.innnews.co.th/ถ-นวมินทร์หัวน้ำอยู่ซ-66สูงกว่า30ซ-ม--320273_03.html

ฟังคลิปเสียงข่าว ถ.เสรีไทย หน้า สหยูเนี่ยน ระดับน้ำสูง 40 ซ.ม. เจ้าหน้าที่นิคมฯบางชัน เร่งเพิ่มบิ๊กแบ็ก ตลอดแนวฟุตปาธ กว่า 800 เมตร ขณะน้ำในคลองแสนแสบ ยังเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง สถานการณ์น้ำท่วม บริเวณ ถ.เสรีไทย หน้า บริษัทสหยูเนี่ยน ขณะนี้ ระดับน้ำสูงประมาณ 40 ซ.ม.แล้ว ซึ่งล่าสุด นิคมบางชัน ได้นำบิ๊กแบ๊ก มาวางเพิ่มตลอดแนวริมฟุตปาธ ด้านหน้าของ สหยูเนี่ยน เป็นระยะทางยาว กว่า 800 เมตร เพื่อป้องกันน้ำที่ ถ.เสรีไทย เอ่อเข้าท่วมพื้นที่ เนื่องจาก การพูดคุยกับทางเจ้าหน้าที่ของ บริษัทสหยูเนี่ยน ให้ข้อมูลว่า พื้นที่ของ สหยูเนี่ยน นั้น มีจำนวน 52 ไร่ และมีโรงงานอยู่ด้านใน รวม 9 โรงงาน ซึ่งขณะนี้ โรงงานบางส่วน ดำเนินกิจการได้เพียง 50% ส่วนพื้นที่ด้านหลังของ สหยูเนี่ยน อยู่ติดกับคลองแสนแสบ ที่ขณะนี้ระดับน้ำยังสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง แต่ทางบริษัทก็มีการเตรียมมาตรการรับน้ำท่วม ทั้งกระสอบทราย เครื่องสูบน้ำ ที่อยู่ด้านในกว่า 20 ตัว และติดตั้งรอบนอกโรงงาน อีก 5 ตัว เชื่อว่า น่าจะพอรับมือกับสถานการณ์น้ำท่วมได้ Link : http://www.innnews.co.th/หน้าสหยูเนี่ยน-น้ำสูง40-ซ-ม--320274_03.html

วันนี้เราจะมาให้ข้อมูลน้องๆเกี่ยวกับการจัดอันดับมหาวิทยาลัยของอังกฤษ หรือการ ranking นั่นเองค่ะ โดยอันดับนี้ได้รับการสนับสนุนข้อมูลจาก timesonline.com ซึ่งเป็นแหล่งข้อมูล UK university ranking ที่น่าเชื่อถือ โดยมีหลักการในการจัดลำดับมหาวิทยาลัยหลายอย่างเช่น ความพอใจโดยรวมของนักเรียน หรือคุณภาพของงานวิจัยจากมหาวิทยาลัยเป็นต้นค่ะ ซึ่งสำหรับสามอันดับแรกก็ได้แก่ Oxford, Cambridge และ Imperial College ค่ะ ทั้งนี้ การ ranking ถือเป็นเพียงข้อมูลคร่าวๆเพื่อเป็น guideline ในการเลือกเรียนต่อของน้องๆนะคะ เนื่องจากแต่ละสำนัก เช่น USnews, Financial Times, หรือ Businessweek ก็จะมีหลักการจัดอันดับมหาวิทยาลัยที่ไม่่เหมือนกัน ดังนั้นน้องต้องดูหลายๆ ranking ประกอบกันค่ะ   20อันดับแรกค่ะ ถ้าสนใจลำดับเพิ่มเติมก็คลิกรายละเอียดตามนี้เลยค่ะ http://extras.timesonline.co.uk/tol_gug/gooduniversityguide.php?sub=&x=16&y=7   http://www.trinitythailand.com/2010/03/top-university-ranking-in-uk/    

ฟังคลิปเสียงข่าว นายกรัฐมนตรี ไม่คิดลาออก กำลังใจยังดี อ.จุฬาฯ ฟ้องร้องบริหารน้ำผิดพลาด รอดูรายละเอียดก่อน เชื่อ นิคมฯบางชัน เอาอยู่ มอบทหารดูแลแล้ว ขณะที่ เมื่อช่วงเช้า นายกฯ เป็นประธานเปิดงาน "รัฐบาลรวมใจ ช่วยผู้ประสบภัยทั่วไทย" แบบครบวงจร ปล่อยคาราวานกว่า 800 คัน ออกช่วยเหลือประชาชน น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ไม่คิดลาออก จากกรณีที่บริหารน้ำผิดพลาด เพราะทุกวันนี้ กำลังใจยังดี และปฏิบัติหน้าที่ ที่ประชาชนมอบหมายก่อน ในส่วนของกรณีที่ อาจารย์จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ฟ้องร้อง กรณีเดียวกันนั้น เบื้องต้น ขอศึกษารายละเอียด และขอยืนยัน รัฐบาลทำงานเต็มที่ ขอความเห็นใจจากทุกฝ่าย ทั้งนี้เห็นว่า เจ้าหน้าที่ ต้องการกำลังใจ เพื่อให้ประเทศเดินไปข้างหน้า ซึ่งตนยินดีรับฟังทุกข้อเสนอแนะ เพื่อนำปัญหาให้คณะกรรมการ กยน. ดูแล ขณะที่ การระบายน้ำในพื้นที่กรุงเทพมหานคร นั้น นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ได้สั่งให้เร่งระบายน้ำและติดตั้งเครื่องสูบน้ำทุกพื้นที่ โดยเฉพาะฝั่งกรุงเทพมหานคร ฝั่งตะวันตก ได้สั่งให้ขุดลอกคู คลอง เพื่อเตรียมรองรับน้ำ ทั้งนี้ ขอความร่วมมือประชาชน ทิ้งขยะให้เป็นที่ เพื่อไม่ให้ขวางทางระบายน้ำ ส่วนการป้องกันนิคมอุตสาหกรรมบางชันนั้น เชื่อว่า จะไม่ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วม ทั้งนี้ได้มอบหมายให้ กองทัพ ดูแลแล้ว ขณะที่ เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เป็นประธานเปิดงาน "รัฐบาลรวมใจช่วยผู้ประสบภัยทั่วไทย" ที่หลังพระบรมรูปทรงม้า เพื่อระดมความช่วยเหลือแบบครบวงจรในรูปแบบขบวนคาราวานกว่า 800 คัน ในเขตกรุงเทพมหานคร ไปมอบให้ผู้ประสบภัยในพื้นที่กรุงเทพมหานคร 23 เขต โดยขบวนคาราวาน ประกอบด้วย ครัวรัฐบาล น้ำดื่ม รถเก็บขยะ เครื่องกรองน้ำ สุขาลอยน้ำ พร้อมทีมหน่วยแพทย์เคลื่อนที่ ถุงยังชีพ ทั้งนี้ นายรัฐมนตรี ขอให้อดทน เข้มแข็ง รัฐบาลพร้อมเป็นกำลังใจให้ผู้ประสบภัยสามารถฝ่าวิกฤติครั้งนี้ไปให้ได้ สำหรับการปล่อยคาราวานครั้งนี้ ถือเป็นส่วนหนึ่งในส่วนการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยในพื้นที่กรุงเทพมหานคร โดยระดมความช่วยเหลือ และรวมน้ำใจจากทุกหน่วยงาน ตามนโยบายของรัฐบาลที่อยากเห็นความช่วยเหลือจากทุกฝ่าย ลงไปช่วยเหลือประชาชนทั่วถึงและรวดเร็ว Link : http://www.innnews.co.th/นายกฯลั่นไม่ลาออกบริหารน้ำเหลวกำลังใจดี--320317_01.html

ฟังคลิปเสียงข่าว กรุงเทพมหานคร ประกาศ อพยพเพิ่มเติม 3 แขวง ในเขตบางกอกน้อย ส่วนเขตจอมทอง และเขตบางบอน ให้อพยพเฉพาะพื้นที่ ที่มีน้ำท่วมสูง กรุงเทพมหานคร ประกาศอพยพเพิ่มเติม 3 เขต ประกอบด้วย เขตบางกอกน้อย ได้แก่ แขวงบางขุนศรี แขวงบางขุนนนท์ แขวงอรุณอมรินทร์ ส่วนเขตจอมทอง ได้แก่ แขวงบางขุนเทียน เฉพาะถนนกำนันแม้น ซ.เอกชัย 8, 14 ,36 และ 28 ส่วนแขวงบางค้อ ซ.วุฒากาศ 42 และชุมชนศาลาครืนรวมใจ เขตบางบอน ได้แก่ แขวงบางบอน เฉพาะชุมชนกำนันแม้น 3 ชุมชนสวนผัก ชุมชนริมคลองพระยาราชมนตรี ชุมชนวัดน้อย ชุมชนคลองบางพรานพัฒนา ชุมชนรางไผ่ หมู่บ้านสังสิทธิ์ หมู่บ้านาสกร 2 หมู่บ้านเอสเค หมู่บ้านธนบดี หมู่บ้านทวีทอง หมู่บ้านวรารมย์ หมู่บ้านบางบอนการ์เด้นวิลล์ หมู่บ้าน 89 บางบอนวิลล์ ตลาดบางบอน และตลาดสุขสวัสดี ตลาดศิริชัย เคหะบางบอน และโรงเรียนบ้านนายเหรียญ Link : http://www.innnews.co.th/กทม-เตือนบางกอกน้อย-จอมทอง-บางบอนอพยพ--320354_03.html

กทม.ให้ผู้ประสบภัยน้ำท่วมยื่นขอรับเงินชดเชยได้ตั้งแต่ 10 พ.ย. กรุงเทพมหานครให้ผู้ประสบภัยน้ำท่วมสามารถยื่นเรื่องขอรับเงินชดเชยน้ำท่วมหลังคาละ 5,000 บาทได้ที่สำนักงานเขตตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป ศูนย์อำนวยการเฉพาะกิจป้องกันและแก้ไขปัญหาอุทกภัย กรุงเทพมหานคร แจ้งว่า ตามที่มติคณะรัฐมนตรีพิจารณาให้ความช่วยเหลือครัวเรือนผู้ประสบภัยหลังคาเรือนละ 5,000 บาท เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในการดำรงชีวิต ระหว่างที่กำลังฟื้นฟูสภาพเสียหายและยังไม่สามารถประกอบอาชีพเพื่อหารายได้มาเลี้ยงครอบครัว โดยหลักเกณฑ์การรับเงินช่วยเหลือแบ่งเป็น 2 กรณี ได้แก่ น้ำท่วมถึงบ้านพักอาศัยโดยฉับพลันและทรัพย์สินได้รับความเสียหาย และบ้านพักอาศัยถูกน้ำท่วมขังติดต่อกันไม่น้อยกว่า 7 วัน และทรัพย์สินได้รับความเสียหาย สำหรับขั้นตอนการจ่ายเงินช่วยเหลือ หน่วยงานท้องที่จะสำรวจรายชื่อและรับรองรายชื่อของผู้ประสบอุทกภัยของแต่ละพื้นที่ส่งให้ผู้อำนวยการเขตและปลัดกรุงเทพมหานครตรวจสอบ ก่อนส่งให้กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยตรวจสอบข้อมูลและความซ้ำซ้อนของข้อมูลครัวเรือน จากนั้นจะส่งเรื่องให้ธนาคารออมสินจ่ายเงินช่วยเหลือ สำหรับหลักฐานการแสดงสิทธิการขอรับเงินช่วยเหลือ กรณีบ้านพักอาศัยที่มีทะเบียนบ้าน ให้เจ้าบ้านหรือผู้ได้รับมอบอำนาจขอหนังสือรับรองจากสำนักงานเขตเพื่อเป็นหลักฐานการแสดงสิทธิ กรณีเป็นบ้านเช่าอยู่อาศัย ให้ผู้เช่าเป็นผู้ได้รับความช่วยเหลือ โดยใช้สัญญาเช่า หรือหนังสือรับรองจากเจ้าบ้าน เพื่อขอหนังสือรับรองจากสำนักงานเขต ส่วนบ้านเช่าที่มีหลายชั้น จะได้รับเงินช่วยเหลือเฉพาะชั้นที่ถูกน้ำท่วมเท่านั้น ซึ่งบ้านเช่าอาจจะแบ่งเช่าเป็นห้องหรือเป็นหลัง และมีทะเบียนบ้านหรือไม่มีทะเบียนบ้านก็ได้ โดยใช้หลักฐานเป็นบัตรประจำตัวประชาชน ทะเบียนบ้าน สัญญาเช่า หรือหนังสือรับรองการเช่าจากองค์การปกครองส่วนท้องถิ่น รูปถ่ายบ้านที่ถูกน้ำท่วม ทั้งนี้สามารถติดต่อยื่นขอสิทธิเพื่อรับเงินช่วยเหลือที่สำนักงานเขตพื้นที่ได้ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป แต่หากประชาชนไม่สะดวก สามารถติดต่อยื่นสิทธิหลังน้ำลด โดยสำนักงานเขตดอนเมืองได้ย้ายที่ทำงานไปที่สำนักงานเขตหลักสี่ชั่วคราว http://news.sanook.com/1070765/กทม.ให้ผู้ประสบภัยน้ำท่วมยื่นขอรับเงินชดเชยได้ตั้งแต่-10-พ.ย1/

น้ำทะลักซอยวิภาวดีฯ 12 เอ่อท่วมถนนถึงแยกสุทธิสาร แล้ว ประชาชนใกล้เคียงแห่สังเกตการณ์ ขณะรถเล็กยังสามารถผ่านได้ สถานการณ์น้ำบริเวณ ซ.วิภาวดีรังสิต 12 ล่าสุดในขณะนี้ น้ำที่เอ่อล้นจากคลองบางซื่อ ได้ไหลทะลักเข้าท่วม ถ.วิภาวดีรังสิต ฝั่งขาเข้าอย่างต่อเนื่อง ซึ่งพบว่า ระดับน้ำจุดต่ำสุดภายในซอยดังกล่าวอยู่ที่ประมาณ 1 เมตรแล้ว ทั้งนี้หัวน้ำจาก ซ.วิภาวดีรังสิต 12 ได้รุกคืบไปถึงสี่แยกสุทธิสารแล้วเช่นกัน โดยมีระดับน้ำอยู่ที่ประมาณ 5 ซ.ม. ในฝั่งขาเข้า ส่วนขาออก หัวน้ำยังคงอยู่ห่างจากแยกสุทธิสารประมาณ 15 ม. ประชาชนบริเวณดังกล่าวต่างออกมาดูสถานการณ์และวิพากษ์วิจารณ์กันอย่างต่อเนื่อง ขณะที่การจราจรรถเล็กยังสามารถสัญจรไปมาได้ ส่วนบรรยากาศที่บริเวณสะพานข้ามคลองบางซื่อ ขณะนี้ มีพ่อค้าแม่ค้าออกมาตั้งร้านขายอาหาร รวมถึงอุปกรณ์ที่จำเป็นต้องใช้ในช่วงสถานการณ์น้ำท่วม อาทิ เรือ รองเท้าบูท กางเกงกันน้ำ เป็นต้น  http://news.sanook.com/1070755/ถ.วิภาวดีฯ-น้ำทะลักถึงแยกสุทธิสารแล้ว1/

อัพเดทล่าสุด เส้นทางเลี่ยงน้ำท่วมทางด้านทิศเหนือของ กทม. ที่ยังใช้การได้ ทุกเส้นทางของเมื่อวันที่ 9 พ.ย. เมื่อเวลาประมาณ 18.20น. มีดังนี้        1) ดอนเมืองโทลเวย์ ขึ้นด่านดินแดง – ลงสุดทางบริเวณโรงกษาปณ์ (วันนี้ช่วงทางลงโรงกษาปณ์ มีการปรับปรุงผิวจราจร ทำให้รถติดขัดมาก แนะหากไม่มีความจำเป็นควรหลีกเลี่ยง )        2) ถ.วิภาวดีรังสิต แยกดินแดง ถึงบริเวณแยกสุทธิสาร        3) ถ.พหลโยธิน อนุสาวรีย์ชัย - ถึงบริเวณแยกสะพานควาย        4) ถ.ลาดพร้าว แยกบางกะปิ - ถึงแยกโชคชัยฯ        5) ถ.รามอินทรา ตั้งแต่ กม.5 ถึง แยกมีนบุรี        6) ถ.นวมินทร์ แยกลาดพร้าว ถึงแยกเกษตรนวมินทร์        7) ถ.ประเสริฐมนูญกิจ(เกษตรนวมินทร์ ) ตั้งแต่แยกลาดปลาเค้า ถึง ถ.นวมินทร์           เส้นทางเลี่ยงน้ำท่วมทางด้านทิศตะวันออกของ กทม. ที่ยังใช้การได้ มีดังนี้        1) ถ.เลียบท่างด่วนรามอินทราฯ ตลอดสาย        2) ถ.เสรีไทย ถึงวงแหวนตะวันออก        3) ถ.รามคำแหง ตลอดสาย        4) ถ.ศรีนครินทร์ ตลอดสาย        5) ถ.สุวินทวงศ์ ถึง ถ.ราษฎร์อุทิศ        6) ถ.มอเตอร์เวย์ ตลอดสาย        7) ถ.วงแหวนตะวันออก(ใต้) ตั้งแต่ทางต่างระดับรามอินทรา ถึงทางขึ้น-ลงสุขสวัสดิ์บางขุนเทียน        8) ถ.บางนาตราด ตลอดสาย        9) ถ.บูรพาวิถี ตลอดสาย        10) ถ.ลาดกระบัง ตลอดสาย        11) ถ.อ่อนนุช ตลอดสาย        12) ถ.สุขุมวิท ตลอดสาย           เส้นทางเลี่ยงน้ำท่วมทางด้านทิศตะวันตก-ใต้ของ กทม. ที่ยังใช้การได้ มีดังนี้        1) ถ.พระราม 2 ยังใช้การได้ตลอดสาย        2) ถ.ราชพฤกษ์ ตั้งแต่ ถ.เพชรเกษม ถึง ถ.กรุงธนบุรี           สะพานข้ามแม่น้ำเจ้าพระยา ที่ยังใช้การได้ มีดังนี้        1) สะพานพุทธฯ        2) สะพานพระปกเกล้าฯ        3) สะพานตากสิน(สาธร)        4) สะพานกรุงเทพ        5) สะพานพระราม 3        6) สะพานภูมิพลฯ(วงแหวนอุตสาหกรรม)        7) สะพานพระราม 9 สะพานแขวน(ทางด่วน)        8) สะพานทางพิเศษสายบางพลี – สุขสวัสดิ์        9) สะพานกรุงธนบุรี ระดับน้ำเริ่มลดลงแล้ว รถเล็ก http://news.sanook.com/1070630/เส้นทางเลี่ยงน้ำท่วม21เส้นทาง-อัพเดทล่าสุด/

จากวิกฤติน้ำท่วมครั้งนี้ ทำให้มหาวิทยาลัยหลายแห่งประกาศเลื่อนการเปิดเทอมภาคเรียนที่ 2 ออกไปอีกครั้ง แม้บางมหาวิทยาลัยจะไม่ได้รับผลกระทบ แต่นักศึกษาหลายคนไม่สามารถเดินทางไปเรียนได้ เพราะบ้านหรือที่อยู่อาศัยประสบภัย และเดินทางไม่สะดวก โดยกำหนดการของมหาวิทยาลัยต่างๆ มีดังนี้... มหาวิทยาลัยที่กำหนดเปิดเทอมวันที่ 14 พ.ย. 54 คือ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ มหาวิทยาลัยที่กำหนดเปิดเทอมวันที่ 15 พ.ย. 54 คือ มหาวิทยาลัยบูรพา, มหาวิทยาลัยราชภัฏบ้านสมเด็จเจ้าพระยา มหาวิทยาลัยที่กำหนดเปิดเทอมวันที่ 21 พ.ย. 54 คือ สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าคุณทหารลาดกระบัง, มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์, มหาวิทยาลัยราชภัฏธนบุรี, มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลธัญบุรี มหาวิทยาลัยที่กำหนดเปิดเทอมวันที่ 28 พ.ย. 54 คือ มหาวิทยาลัยกรุงเทพ ทั้งวิทยาเขตรังสิตและกล้วยน้ำไทย, มหาวิทยาลัยศิลปากร, มหาวิทยาลัยศรีปทุม, มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าพระนครเหนือ, มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลพระนคร, มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนสุนันทา, มหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ มหาวิทยาลัยที่กำหนดเปิดเทอมวันที่ 1 ธ.ค. 54 คือ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี, มหาวิทยาลัยราชภัฏจันทรเกษม, มหาวิทยาลัยราชภัฏพระนคร มหาวิทยาลัยที่กำหนดเปิดเทอมวันที่ 6 ธ.ค. 54 คือ มหาวิทยาลัยรามคำแหง, มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนดุสิต   มหาวิทยาลัยที่กำหนดเปิดเทอมวันที่ 13 ธ.ค. 54 คือ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย, มหาวิทยาลัยมหิดล มหาวิทยาลัยที่กำหนดเปิดเทอมวันที่ 5 ม.ค. 55 คือ มหาวิทยาลัยรังสิต มหาวิทยาลัยที่กำหนดเปิดเทอมวันที่ 9 ม.ค. 55 คือ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ส่วนมหาวิทยาลัยที่รอดูสถานการณ์และยังไม่ประกาศวันเปิดภาคเรียน คือ มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ ซึ่งก่อนหน้านี้ทางกระทรวงศึกษาธิการสั่งมอบอำนาจการสั่งเปิด-ปิดภาคเรียนที่ 2 ให้กับผู้บริหารสถานศึกษาและผู้อำนวยการสำนักงานเขตการศึกษา และได้ประกาศเลื่อนเปิดภาคเรียนใน 3 จังหวัดได้แก่ กรุงเทพมหานคร จ.ปทุมธานี จ.นนทบุรี และอีก 4 อำเภอของจังหวัดนครปฐม ได้แก่  อ.สามพราน อ.นครชัยศรี อ.บางเลน และ อ.พุทธมณฑล เป็นวันที่ 21 พ.ย. 54 และจะรอดูสถานการณ์อย่างละเอียด หากมีการเลื่อนเปิดภาคเรียน จะแจ้งให้ทราบล่วงหน้าอย่างน้อย 7 วัน เพื่อให้นักเรียนนักศึกษา ผู้ปกครอง และสถานศึกษามีเวลาในการเตรียมตัว อย่างไรก็ดี หากมหาวิทยาลัยใดมีการเปลี่ยนแปลง หรือเลื่อนการเปิดเทอมออกไปอีก ทางมหาวิทยาลัยจะแจ้งการเปลี่ยนแปลงอีกครั้งหนึ่ง http://www.thairath.co.th/content/edu/215567

จัดสรรตามความเสียหายจริง เช่น สพฐ.รับมากหน่อย 456 ล.โรงเรียนจมน้ำหลายพันแห่ง นร.เดือดร้อน 2.7 แสนคน อาชีวะรับ 1.5 ล.เน้นการอบรมอาชีพระยะสั้นแก่ผู้ประสบภัยใน 21 จังหวัด ส่วน สกอ.รับ 37 ล.เพื่อช่วยฟื้นฟูประเทศตามความถนัด วันที่ 10 พ.ย.54 น.ส.ศศิธารา พิชัยชาญณรงค์ ปลัดกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) เปิดเผยว่า ขณะนี้คณะรัฐมนตรี (ครม.) อนุมัติงบประมาณให้แก่ ศธ. จำนวน 531 ล้านบาท เพื่อนำไปใช้ดำเนินการในการฟื้นฟูสถานศึกษาและช่วยเหลือผู้ประสบภัยที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์น้ำท่วมในเบื้องต้น อาทิ สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) ได้รับงบฯ จำนวน 456 ล้านบาท ซึ่งจะนำมาใช้ในการเตรียมความพร้อมสำหรับนักเรียน และสถานศึกษาที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์น้ำท่วม อาทิ การจัดหาหนังสือเรียน อุปกรณ์การเรียน และสื่อวัสดุต่างๆ โดยมีโรงเรียนที่ได้รับผลกระทบจำนวน 1,999 โรงเรียน และมีนักเรียนที่ได้รับผลกระทบประมาณ 270,000 คน ปลัด ศธ. กล่าวต่อไปว่า ขณะที่สำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา (สอศ.) ได้รับงบฯ จำนวน 1.5 ล้านบาท โดยจะนำไปใช้ในการดำเนินการอบรมอาชีพระยะสั้นให้กับผู้ประสบอุทกภัยใน 21 จังหวัด นอกจากนี้จะจัดหาผลผลิตทางการเกษตรมาจำหน่ายในราคาถูก และจัดสอนวิธีการเพาะปลูกพืช การน้ำหมักชีวภาพ เป็นต้น และสำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา (สกอ.) ได้รับงบฯ จำนวน 37 ล้านบาท โดยจะนำไปใช้ในการดูแลรักษาสุขภาพอนามัยของผู้ประสบภัย ตลอดจนตรวจรักษา และดูแลช่วยเหลือสัตว์ที่ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วม ทั้งนี้จะมีสถาบันอุดมศึกษาต่างๆ เข้ามาช่วยดำเนินการ อาทิ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยบูรพา มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีมหานคร และมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี เป็นต้น ที่มา สยามรัฐ  

ฟังคลิปเสียงข่าว สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา สยามบรมราชกุมารี จะเสด็จฯ เป็นองค์พิธีเปิดสะพานมิตรภาพไทย-ลาวที่ 3 เชื่อม จ. นครพนม- แขวงคำม่วน สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา สยามบรมราชกุมารี เสด็จฯ เป็นองค์พิธีเปิดสะพานมิตรภาพไทย-ลาวที่ 3 เชื่อม จ. นครพนม- แขวงคำม่วน สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว โดย มี นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี พร้อมด้วยหน่วยงานจากภาครัฐ เอกชน พ่อค้า ประชาชน และแขกผู้มีเกียรติ เฝ้ารอรับเสด็จและเข้าร่วมในพิธีเป็นจำนวนมาก Link : http://www.innnews.co.th/พระเทพฯเสด็จเปิดสะพานมิตรภาพแห่งที่3--320571_22.html

ฟังคลิปเสียงข่าว ระดับน้ำ ถ.เสรีไทย ท่วมสูงต่อเนื่อง ทุกโรงงาน ป้องเต็มที่ ขณะที่ ถนนเทศบาล สาย 2 ไปจนถึง ซ.อิสรภาพ 24 น้ำผุดท่อ สูง 15-20 ซ.ม. น้ำไหลท่วมบ้านประชาชนแล้ว สถานการณ์น้ำท่วมที่ นิคมคมอุตสาหกรรมบางชัน ล่าสุด พบว่า ถ.เสรีไทย ระดับน้ำท่วมสูงขึ้นต่อเนื่อง เจ้าหน้าที่ ได้นำบิ๊กแบ็ก เสริมริมฟุตปาธ ป้องกันไม่ให้น้ำไหลทะลักเข้าท่วม รวมถึง ใช้เครื่องสูบน้ำ เตรียมพร้อมไว้ทั้งหมด โดยข้อมูลในส่วนของโรงงานนั้น แบ่งเป็น 6 โซน 93 โรงงาน งบลงทุน 2 หมื่นล้าน ปิดไปแล้ว จำนวน 16 โครงการ ส่วนใหญ่เป็นโรงงานผลิตสินค้า อุปโภคและบริโภค โรงงานแต่ละแห่งตรึงเครื่องสูบน้ำเต็มที่ ป้องไม่ให้ท่วมตัวโรงงาน เพื่อปล่อยน้ำให้ไหลลง คลองบางชัน ด้านสถานการณ์น้ำท่วมฝั่งธนบุรี ล่าสุด น้ำได้ผุดขึ้นทางท่อระบายน้ำ ไหลท่วมพื้นผิวการจราจรตั้งแต่ถนนเทศบาลสาย 2 ไปจนถึง ซ.อิสรภาพ 24 ระดับน้ำสูง ประมาณ 10-15 ซ.ม. กินพื้นผิวการจราจร ฝั่งที่จะมุ่งหน้าไป 4 แยกบ้านแขก ทั้งนี้มีบ้านประชาชนที่อยู่ในพื้นที่ต่ำ น้ำได้ไหลเข้าท่วมขังแล้ว พร้อมกันนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจ ได้มีการนำกรวยยางและแผงเหล็กติดป้ายเตือนว่า น้ำท่วมขังโปรดระมัดระวัง ไว้ในพื้นที่ เพื่อความปลอดภัย รถที่จะสัญจรผ่านต้องชลอความ เร็วและใช้ความระมัดระวัง เร่งสกัดน้ำซ.วิภาฯ12หวั่นทะลักถนนวิภาวดี ถนนวิภาวดี 12 ทางเจ้าหน้าที่ได้นำกระสอบทรายมากั้นไม่ให้น้ำทะลักต่อไปถนนวิภาวดี ระดับน้ำในตอนนี้คลองระบายน้ำวิภาวดีนั้นเริ่มเต็มแล้ว ส่วนคลองบางซื่อ ไหลทะลักเข้ามาอย่างต่อเนื่อง โดยระดับน้ำอยู่ที่ 9 ซ.ม. ซึ่งระดับน้ำลดลง ในส่วนของ ซ.วิภาวดี 12 น้ำได้ไหลมาอย่างต่อเนื่อง ระดับน้ำลดลงกว่าเมื่อวาน แต่น้ำได้ไหลมาจากคลองบางซื่อ โดยหมู่บ้านที่อาศัยนั้นจะมีลักษณะเป็นบ้านเดี่ยว ถนนวิภาวดี เป็นอีกจุดที่ต้องเฝ้าระวังว่า น้ำจะไหลเข้าไปสุทธิสารโผล่ดินแดง แต่เชื่อว่า น้ำยังเข้าไม่ถึงเพราะระดับน้ำยังทรงตัว ปากคลองบางซื่อ ห่างออกไปประมาณ 600 เมตร น้ำจากวิภาวดี ก็ใกล้ถึงสุทธิสาร แต่ตอนนี้ก็ยังไม่ถึง ชาวบ้าน ได้นำเรือขึ้นมาขายจำนวนมาก คลองบางซื่อ ก็จะไหลไปแยก คลองระบายน้ำยังรับได้ ไม่ล้นตลิ่งแต่อย่างใด เครื่องระบายน้ำในคลองบางซื่อ จนท. ได้เร่งสูบน้ำทั้ง 2 ฝั่ง ทั้งวิภาดีขาเข้า และน้ำที่มาจากบางเขน เพื่อเร่งผลักดันน้ำ ลงสู่ทะเลโดยเร็วที่สุด น้ำจ่อ!พระราม2ห่าง100-เร่งกู้ทล.304ลงใต้ นายพีรนัฐ ฐิจิพงศ์ อาสาสมัคร ร่วมกตัญญู สน.บางบอน เปิดเผย สถานการณ์น้ำท่วมบริเวณ ถนนกัลปพฤกษ์ ระดับน้ำยังเพิ่มสูงต่อเนื่อง ตั้งแต่แยกบางบอน ต่อเนื่องไปจนถึง บางขุนเทียน น้ำเอ่อข้ามทางรถไฟแล้ว น้ำมุ่งหน้าถนนกาญจนา รถกระบะวิ่งได้อย่างเดียว ต่อเนื่องไปตามถนนกาญจนาภิเษก มุ่งหน้าถนนเอกชัย ปั๊มน้ำมัน ปตท. และคาล์เท็กซ์ ถูกน้ำท่วมทั้งหมด ปิดให้บริการหมดแล้ว ขณะที่ ถ.พระราม 2 ยังไม่มีปัญหา แต่น้ำเริ่มเข้าใกล้มากขึ้น โดยช่วงวงแหวนรอบนอก สะพานข้ามทางรถไฟ ที่เป็นช่วงโค้งเริ่มมีน้ำเอ่อเข้าท่วม คาดว่าอีกประมาณ 100 เมตร น้ำจากตะวันตก จะไปถึงพระราม 2 ล่าสุด ทางเจ้าหน้าที่ได้มีการ เตรียมกู้เส้นทางสำรอง 304 (บางบัวทอง สุพรรณบุรี เข้านครปฐม ) โดยจะกู้ให้แล้วเสร็จ ภายในวันนี้ รวมระยะทาง 27 กม. อย่างไรก็ตาม ในส่วนของ ถนนเพชรเกษม ตลาดบางแค น้ำสูงถึงเอว รถเล็กไม่สามรารถเดินทางได้ รถยกสูง โฟว์วิว รถสูง สามารถเดินทางได้ แต่ต้องชะลอความเร็วและใช้ความระมัดระวัง น้ำเอ่อท่อ ปาก ซ.พระราม2 ที่ 3,5,7 แล้ว ความคืบหน้าสถานการณ์น้ำที่บริเวณ ถ.พระราม 2 เช้าวันนี้ พบว่า น้ำได้เข้าสู่บนถนนพระราม 2 แล้ว โดยเฉพาะบริเวณปากซอย 3 , 5 และ 7 ที่น้ำได้เอ่อขึ้นตามท่อริม ถ.พระราม 2 และได้ท่วมบนพื้นผิวการจราจรในบริเวณดังกล่าว แต่อย่างไรก็ตาม น้ำที่เอ่อขึ้นยังมีระดับความสูงไม่มากนัก รถยนต์ยังสามารถสัญจรได้ แต่เป็นสัญญาณบ่งชี้ว่า ขณะนี้น้ำได้มาถึง ถ.พระราม 2 เป็นที่เรียบร้อยแล้ว เช่นเดียวกับ บริเวณสถานีรถไฟบางบอน ที่น้ำในเขตบางบอน ได้ข้ามผ่านรางรถไฟ เข้าสู่ ถ.บางขุนเทียน เขตบางขุนเทียน และมุ่งหน้าสู่ ถ.พระราม 2 เพราะล่าสุดในขณะนี้ น้ำที่ท่วมบน ถ.บางขุนเทียน ได้ข้ามคลองสี่บาท ซึ่งเป็นคลองที่กั้นไม่ให้น้ำบนถนนบางขุนเทียน ไหลไปสู่ ถ.พระราม 2 และในขณะนี้อีกไม่ถึง 10 เมตร น้ำก็จะไปถึง ถ.พระราม 2 น้ำรอบนิคมฯบางชัน สูงขึ้นต่อเนื่อง น้ำในพื้นที่ ถ.เสรีไทย ช่วงนิคมอุตสาหกรรมบางชัน ระดับน้ำยังคงเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง เท่าที่ตรวจสอบ ขณะนี้หัวน้ำ จะอยู่บริเวณปาก ซ.เสรีไทย 54 ระดับน้ำที่หัวน้ำ ประมาณ 10 -15 ซ.ม. ส่วนระดับสูงสุดจะอยู่ที่ ประมาณกว่า 40 ซ.ม.แล้ว ซึ่งขณะนี้จากการสังเกต พบว่า วันนี้มีเพียงรถกระบะยกสูง รถบรรทุก และรถโดยสารประจำทางเท่านั้น ที่ผ่านในช่วงทางนี้ ขณะที่ ระดับน้ำในคลองหลอแหล ซึ่งอยู่ด้านข้างนิคมอุตสาหกรรมบางชัน ขณะนี้ระดับน้ำยังคงเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง และได้เอ่อเข้าท่วมทั้งในพื้นที่ ชุมชนเกาะจวน โรงเรียนทรงวิทย์ศึกษา และลานสาธารณะ ในละแวกใกล้เคียงอย่างต่อเนื่อง นิคมฯบางชัน นำบิ๊กแบ็กตั้งแนวป้องกั้นน้ำริมถนนเสรีไทย นิคมอุตสาหกรรมบางชัน นำถุงบิ๊กแบ๊กมาวางเพิ่มเป็นแนวคันกั้นน้ำบนริมฟุตปาธ ถ.เสรีไทย ฝั่งบริษัท เนสท์เล่ เป็นระยะทางกว่า 100 เมตร เพื่อป้องกันน้ำท่วมพื้นที่ หลังระดับน้ำบน ถ.เสรีไทย เพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ขณะที่เจ้าหน้าที่ทหาร ที่เข้ามาช่วยเรื่องการป้องกันและเฝ้าระวังน้ำท่วมภายในนิคมอุตสาหกรรมบางชัน ขณะนี้ ยังคงช่วยการกรอกหินคลุกลงในถุงบิ๊กแบ็ก เพื่อนำไปวางเป็นแนวคันกั้นน้ำบน ถ.เสรีไทย ตลอดแนวนิคมอุตสาหกรรมบางชัน เพื่อป้องกันไม่ให้น้ำเข้าท่วมพื้นที่ต่างๆ ในโรงงานนิคมอุตสาหกรรมบางชัน ซึ่งขณะนี้ โรงงานต่างๆ ก็ยังคงเร่งเสริมแนวคันป้องกันน้ำท่วม พร้อมกับเฝ้าระวังระดับน้ำอยู่ตลอด 24 ช.ม. น้ำเอ่อท่วมทางเข้าศปภ.อีกสูง20ซม.แล้ว สถานการณ์น้ำล่าสุดที่ ศูนย์ปฏิบัติการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย หรือ ศปภ. ภายใน กระทรวงพลังงาน ขณะนี้ ถนนทางเข้า ศปภ. ในซอยวิภาวดีรังสิต 11 ได้เกิดน้ำท่วมขังอีก โดยมีระดับความสูงประมาณ 10-20 เซนติเมตร ซึ่งห่างจากประตูทางเข้า 20 เมตร เท่านั้น ส่วนน้ำในถนนวิภาวดีรังสิต มีระดับสูง แต่พบว่าได้มีระดับลดลงจากเมื่อวานที่ผ่านมา ด้านบรรยากาศทั่วไป เริ่มคึกคัก เจ้าหน้าที่ ทยอยเดินทางมาปฏิบัติหน้าที่แล้ว ขณะเดียวกัน สื่อมวลชน ทยอยเดินทางมาเกาะติดความเคลื่อนไหวอย่างใกล้ชิด อย่างไรก็ตาม การเดินทางมายัง ศปภ. ยังคงเป็นไปด้วยความยากลำบาก บก.จร.แจ้งปิดจราจรสายหลัก11พ.ย. 1.ถ.วิภาวดี ตั้งแต่แยกอนุสรณ์สถาน ถึงแยกสะพานลอยสุทธิสาร 2.ถ.พหลโยธิน ตั้งแต่แยกอนุสรณ์สถาน ถึงแยกกำแพงเพชร 3.ถ.แจ้งวัฒนะ ตั้งแต่แยกพงศฺเพชรถึงแยกเกษตร 4.ถ.รามอินทรา ตั้งแต่วงเวียนบางเขน ถึง ใต้ทางด่วนรามอินทรา กม.5 5.ถ.งามวงศ์วาน ตั้งแต่แยกพงศ์เพชร ถึงแยกเกษตร 6.ถ.ประเสริฐมนูญกิจ(เกษตรนวมินทร์) ตั้งแต่แยกเกษตร ถึงแยกลาดปราเคล้า 7.ถ.รัชดาภิเษก ตั้งแต่ทางต่างระดับรัชวิภา ถึงแยกสุทธิสาร 8.ถ.นวมินทร์ ตั้งแต่แยกรามอินทรา กม.8ถึง ซ.นวมินทร์ 147 9.ถ.สุวินทร์วงศ์ ตั้งแต่แยกพาณิชย์การมีนบุรี ถึงแยกถ.ราษฏร์อุทิศ ปิดการจราจรถนนสายหลักทิศตะวันตก 1.ถนนเพชรเกษม ตั้งแต่พุทธมณทลสาย 4 ถึง ซ.เพชรเกษม 18 2.ถ.กาญจนาภิเษก ตั้งแต่แยกสะพานคลองมหาสวัสดิ์ สะพานคลองบางไผ่ 3.ถ.ราชพกฤษ์ ตั้งแต่แยกสะพานคลองมหาสวัสดิ์ ถึง ถ.เพชรเกษม 4.ถ.จรัญสนิทวงศ์ ตั้งแต่ ซ.จรัญสนิทวงศ์ 77 ถึง 89 และ ซ.จรัญ 43 ถึงคลองบางกอกน้อย 5.ถ.บรมราชชนี ตั้งแต่เชิงสะพานพระปิ่นเกล้า ถึงพุทธมณฑลสาย 4 6.ถ.สิรินธร ตั้งแต่แยกบางพลัด ถึงทางต่างระดับสิรินธร 7.ถ.อรุณอัมรินทร์ ตั้งแต่ แยกอรุณอัมรินทร์ ถึง รพ.ศิริราช น้ำเชิงสะพานข้ามคลองบางซื่อเริ่มลด สำหรับสถานการณ์ล่าสุดที่บริเวณ ถ.พหลโยธิน หัวน้ำยังคงอยู่ที่สะพานข้ามคลองบางซื่อ แต่จากการสังเกตก็พบว่า ระดับน้ำในบริเวณนี้นั้น ลดลง โดยจากการสอบถาม เจ้าหน้าที่ตำรวจจราจรกลาง เผยว่า น้ำได้เริ่มลดระดับลงตั้งแต่เมื่อวานที่ผ่านมา แต่ในปริมาณที่ไม่มากนัก โดยช่วงเช้าวันนี้ก็ลดลงไปอีก ประมาณ 2 - 3 ซ.ม. แต่ทั้งนี้ในช่วง ถ.พหลโยธิน ขาออกนั้น ก็ยังคงต้องให้รถเล็กหลีกเลี่ยงเส้นทาง ด้วยการเลี้ยวซ้ายเข้า ถ.กำแพงเพชร เนื่องจาก หากตรงไปหน้าตลาดนัดจตุจักร น้ำยังสูงอยู่ ขณะที่ เครื่องสูบน้ำในบริเวณบ่อสูบน้ำพหลโยธินตอนคลองบางซื่อนั้น ที่มีอยู่จำนวน 4 เครื่อง ก็ยังคงเดินเครื่องอย่างเต็มกำลัง เพื่อเร่งสูบน้ำออกจาก ถ.พหลโยธิน ลงสู่คลองบางซื่อ อย่างไรก็ตาม บริเวณสถานีรถไฟฟ้า สะพานควาย ก็ยังคงมีรถ จีเอ็มซี ของกองทัพบกและรถขนาดใหญ่ของภาคเอกชน คอยวิ่งให้บริการรับส่งประชาชน ไปยังเส้นทางต่าง ๆ ด้วย ซ.วิภาวดี 12 น้ำท่วมขังเล็กน้อย สถานการณ์ บริเวณข้ามคลองบางซื่อ ถ.วิภาวดีรังสิต ในเช้าวันนี้ หัวน้ำยังอยู่ที่เชิงสะพาน ระดับน้ำในคลองบางซื่อ ยังทรงตัว ซึ่งทางสำนักการระบายน้ำ กทม. ก็เร่งสูบน้ำที่ท่วมขังอ ยู่บริเวณ ถ.วิภาวดีรังสิต ลงคลองบางซื่อเช่นเดิม ส่วนสถานการณ์ บริเวณชุมชนริมคลองบางซื่อ วิภาวดีรังสิต ซ.12 นั้น เช้าวันนี้พบว่า มีน้ำเจิ่งนองเพียงเล็กน้อย อยู่บริเวณด้านหน้าซอยเท่านั้น เนื่องจากพบว่า เมื่อวานที่ผ่านมา สำนักงานเขตดินแดง และเจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.สุทธิสาร เข้ามาเจรจากับประชาชนที่อาศัยอยู่ภายในซอย เพื่อสร้างแนวกระสอบทรายกั้นน้ำไหลทะลักมาจากคลองลางซื่อ และไหลออกมาท่วม ถ.วิภาวดีรังสิต ฝั่งขาเข้า จนรุกคืบไปถึง แยกสุทธิสาร นอกจากนี้ ยังมีการสร้างสะพานไม้ เพื่อการสัญจรไปมาให้กับประชาชนภายในซอยอีกด้วย ส่วนประชาชนทั่วไป ออกมารอรถของเจ้าหน้าที่ทหารและภาคเอกชน และรถโดยสาร ที่ยังคงให้บริการบางสาย เพื่อเดินทางไปทำงาน ขณะที่ก็มีประชาชนบางส่วน ออกมาดูสถานการณ์กันตั้งแต่เช้าเช่นกัน ห้าแยกลาดพร้าวน้ำทรงตัวปชช.จับตาคลองบางซื่อ สถานการณ์น้ำล่าสุดบริเวณคลองบางซื่อ ช่วง ถ.พหลโยธิน น้ำยังคงทรงตัวอยู่ในระดับสูง ซึ่งในบริเวณนี้ ก็ยังคงมีประชาชน เจ้าหน้าที่อาคารชุด และหน่วยงานต่างๆ ย่านสะพานควาย เดินทางมาสังเกตการณ์ระดับน้ำภายในคลองแห่งนี้อยู่อย่างต่อเนื่อง ขณะที่บรรยากาศภายในองค์การตลาดเพื่อการเกษตรกร (ตลาด อ.ต.ก.) ค่อนข้างเงียบเหงา แม้ว่าร้านค้าส่วนใหญ่จะเปิดทำการขายตามปกติ แต่ก็มีประชาชนเดินทางมาจับจ่ายซื้อหาซื้อสินค้าค่อนข้างบางตา ทั้งนี้ ระดับน้ำที่ท่วมขังบริเวณด้านหนังตลาด และและด้านข้างอาคารสำนักงานก็ได้ลดลงไปประมาณ 2 - 5 ซ.ม. ส่วนบริเวณแยกกำแพงเพชร ซึ่งเป็นที่ตั้งของเต็นท์อำนวยการของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ที่คอยอำนวยความสะดวกให้กับประชาชนในเรื่องการให้บริการรับ - ส่งไปยังสถานที่ต่างๆ นั้น ระดับน้ำก็ได้ลดลงเล็กน้อย ประมาณ 2 - 3 ซ.ม. อย่างไรก็ตาม ระดับน้ำบริเวณห้าแยกลาดพร้าว ยังคงทรงตัวอยู่ที่ประมาณ 60 - 70 ซ.ม. ปภ. พบ ตายน้ำท่วมแล้ว533 สูญหาย2 ศูนย์ปฏิบัติการรองรับเหตุ ฉุกเฉิน. กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย กระทรวงมหาดไทย สรุปสถานการณ์สาธารณภัย ประจําวันที่ 11 พ.ย. 2554 มีพื้นที่ประสบอุทกภัย 23 จังหวัด 129 อําเภอ 1,018 ตําบล 7,210 หมู่บ้าน ราษฎรได้รับความเดือดร้อน 1,315,870 ครัวเรือน 3,486,493 คน ได้แก่ จ.นครสวรรค์ อุทัยธานี ชัยนาท สิงห์บุรี อ่างทอง พระนครศรีอยุธยา ลพบุรี สระบุรี สุพรรณบุรี นครปฐม ปทุมธานี นนทบุรี สมุทรสาคร สมุทรปราการ กรุงเทพมหานคร อุบลราชธานี ศรีสะเกษ ร้อยเอ็ด มหาสารคาม กาฬสินธุ์ ฉะเชิงเทรา นครนายก และ ปราจีนบุรี โดยมีผู้เสียชีวิต 533 ราย สูญหาย 2 คน จากสถานการณ์อุทกภัย ตั้งแต่วันที่ 25 กรกฎาคม 54 จนถึงปัจจุบัน จากอิทธิพลของพายุโซนร้อน "นกเตน" และน้ำล้นตลิ่ง มีพื้นที่ ที่ได้รับผลกระทบ และประกาศเป็นพื้นที่ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉิน รวมทั้งสิ้น 64 จังหวัด ทั้งนี้ มีจังหวัดที่สถานการณ์คลี่คลายแล้ว และอยู่ระหว่างฟื้นฟู 41 จังหวัด ผอ.ดอนเมือง บอก น้ำลด ชาวบ้านดีใจ นายภูมิพัฒน์ ดำรงเกียรติศักดิ์ ผู้อำนวยการสำนักงานเขตดอนเมือง เปิดเผย สถานการณ์น้ำในพื้นที่เขตดอนเมือง โดยระบุว่า ขณะนี้ระดับน้ำโดยรวมในพื้นที่ของสำนักงานเขตดอนเมืองนั้น ได้ลดระดับลงบ้างแล้วแต่ไม่มาก ซึ่งก็ส่งผลต่อสภาพจิตใจของประชาชนในพื้นที่และส่วนใหญ่ก็ดีใจ เมื่อทราบว่าระดับน้ำได้ลดลง ขณะเดียวกันในส่วนของจุดที่ยังน่าเป็นห่วงมาก เนื่องจากเป็นพื้นที่ลุ่มต่ำกว่าจุดอื่น และระดับน้ำยังท่วมสูง คือ บริเวณด้านวิภาวดี-รังสิต สน.ดอนเมือง ถ.เทิดราชัน ตลอดจนชุมชนอยู่ใกล้กับคลองเปรมประชากร ทั้งหมด เนื่องจาก หากระดับน้ำเอ่อล้นตลิ่ง ก็จะไหลเข้าท่วมพื้นที่โดยรอบ ส่วนจุดที่คลี่คลายลงอย่างเห็นได้ชัดประกอบด้วย สถานีรถไฟ เคหะทุ่งสองห้อง ซึ่งจุดนี้จะแห้งก่อนจุดอื่น หากระดับน้ำลดลง อย่างไรก็ตาม ผอ.เขตดอนเมือง ยังกล่าวด้วยว่า ในส่วนของการเยียวยาเบื้องต้นนั้น ก็จะเป็นการนำถุงยังชีพ และน้ำดื่ม อาหารสำเร็จรูป ไปมอบให้กับประชาชนที่ยังไม่ยอมออกจากพื้นที่ ตลอดจนจัดที่พักพิงชั่วคราวให้ ส่วนมาตรการในระยะยาวนั้น ต้องรอดูนโยบายของรัฐบาลควบคู่ไปด้วย โดยเบื้องต้น ได้มีการรวบรวมข้อมูลของประชาชน ที่ได้รับความเดือนร้อนไว้แล้ว คลองแสนแสบซ.มหาดไทยน้ำสูงห่างตลิ่ง10ซม. สถานการณ์น้ำในคลองแสนแสบบริเวณสะพานมหาดไทย ซ.รามคำแหง 65 ในช่วงที่ผ่านมา พบว่ามีน้ำสูง ห่างจากขอบตลิ่ง ประมาณ 10 ซ.ม. บางจุดพบมีน้ำซึมขึ้นตามทางเท้า ที่เกิดจากคลื่นน้ำเมื่อเรือวิ่งผ่าน ทั้งนี้ ทางครอบครัวขนส่ง ซึ่งเป็นผู้ให้บริการเรือด่วนคลองแสนแสบ ได้นำเรือโดยสาร 4 ลำ มาจอดบริเวณใต้สะพาน เพื่อร่วมผลักดันน้ำให้ไหลเร็วและแรงขึ้น รองรับปริมาณน้ำจากคลองแสนแสบตอนบน ที่ไหลเข้ามาเป็นระยะ นิคมฯบางชันนำบิ๊กแบ็กตั้งแนวป้องเสรีไทย นิคมอุตสาหกรรมบางชัน นำถุงบิ๊กแบ๊ก มาวางเพิ่มเป็นแนวคันกั้นน้ำบนริมฟุตปาธ ถนนเสรีไทย ฝั่งบริษัท เนสท์เล่ เป็นระยะทางกว่า 100 เมตร เพื่อป้องกันน้ำท่วมพื้นที่ หลังระดับน้ำบน ถ.เสรีไทย เพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ขณะที่เจ้าหน้าที่ทหาร ที่เข้ามาช่วยเรื่องการป้องกันและเฝ้าระวังน้ำท่วมภายในนิคมอุตสาหกรรมบางชัน ขณะนี้ ยังคงช่วยการกรอกหินคลุกลงในถุงบิ๊กแบ็ก เพื่อนำไปวางเป็นแนวคันกั้นน้ำบน ถ.เสรีไทย ตลอดแนวนิคมอุตสาหกรรมบางชัน เพื่อป้องกันไม่ให้น้ำเข้าท่วมพื้นที่ต่างๆ ในโรงงานนิคมอุตสาหกรรมบางชัน ซึ่งขณะนี้ โรงงานต่างๆ ก็ยังคงเร่งเสริมแนวคันป้องกันน้ำท่วม พร้อมกับเฝ้าระวังระดับน้ำอยู่ตลอด 24 ช.ม. ชาววิภาฯ12 ขอเขตดินแดง ทำสะพานไม้เพิ่ม นายทอง คำเอี่ยม อายุ 58 ปี ประชาชนริมคลองบางซื่อ ซ.วิภาวีรังสิต 12 เปิดเผยว่า ภายหลังจากที่ สำนักงานเขตดินแดงและเจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.สุทธิสาร ทำการกั้นกระสอบทราย บริเวณด้านหน้าซอย เพื่อชะลอน้ำไม่ให้ไหลออกมาท่วมขัง บริเวณ ถ.วิภาวดีรังสิต ฝั่งขาเข้า มุ่งหน้าแยกสุทธิสารนั้น ระดับน้ำภายในซอยยังคงเท่าเดิม ในจุดที่น้ำสูงสุดอยู่ที่ประมาณ 1 เมตร ประชาชนบางครัวเรือน ต้องออกมาอาศัยใช้ชีวิต บริเวณใต้ทางยกระดับ ส่วนสะพานไม้ที่พัง เจ้าหน้าที่สำนักเขต ได้มีการทำขึ้น เพื่อให้ประชาชนสัญจรไปมา ก็ช่วยอำนวยความสะดวกให้กับประชาชนบ้างเล็กน้อย ทั้งนี้ อยากให้ทางสำนักงานเขตดินแดง ดำเนินการต่อสะพานไม้เพิ่มเติม เนื่องจาก สะพานยังเข้าไปไม่ถึงบางครัวเรือน อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ ประชาชนภายใน ซ.วิภาวดีรังสิต 12 ที่ได้รับผลกระทบ เริ่มเข้าใจวิธีการบริหารจัดการน้ำของเจ้าหน้าที่ และยอมรับสภาพปัญหาน้ำท่วมในขณะนี้แล้ว น้ำบึงกระเทียมเพิ่ม2ซม.-เร่งดันลงแสนแสบ นายธเนศ วีระศิริ เลขาธิการวิศวกรรมสถานในประเทศไทยในพระบรมราชูปถัมภ์ กล่าวถึง กรณีการใช้เรือดันน้ำ เพื่อผลักน้ำในคลองแสนแสบว่า หลังจากใช้เรือผลักดันน้ำแล้ว เมื่อวานนี้ สามารถลดระดับน้ำในบึงกระเทียมลงได้ถึง 9 ซ.ม. แต่เมื่อช่วงเช้านี้มีระดับน้ำในบึงกระเทียม กลับเพิ่มขึ้นมาอีก 2 ซ.ม. ทั้งนี้ นายธเนศ ระบุว่า สาเหตุที่ต้องจับตาและให้ความสำคัญกับบึง กระเทียม เนื่องจาก บึงกระเทียม อยู่ใกล้กับ นิคมอุตสาหกรรมบางชัน หากน้ำเหนือไหลเข้ามามาก และไม่สามารถระบายน้ำในบึงกระเทียมได้ทัน ก็จะส่งผลให้น้ำเอ่อเข้าในพื้นที่ของโรงงานต่าง ๆ อย่างไรก็ตาม จากการสังเกตระดับน้ำในคลองแสนแสบ ช่วงประตูระบายน้ำ E11 ที่อยู่ใกล้กับ บริษัท โตโยอิ๊งค์ (ประเทศไทย) จำกัด ขณะนี้ ระดับน้ำเพิ่มขึ้นมาที่ 1 เมตรแล้ว กทม.เผยคลองมหาสวัสดิ์ ปริมาณยังมีมาก ศูนย์อำนวยการเฉพาะกิจป้องกันและแก้ไขปัญหาอุทกภัย วาตภัย และดินโคลนถล่ม กรุงเทพมหานคร รายงานสถานการณ์น้ำประจำวัน โดยปริมาณน้ำท้ายเขื่อนเจ้าพระยา จากกรมอุทกศาสตร์ วัดได้ 2,715 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ลดลงจากเมื่อวาน 50 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ขณะที่ภาพรวมสถานการณ์น้ำใน กทม. ระดับน้ำในคลองมหาสวัสดิ์ อยู่ในระดับสูง และน้ำจากศาลายา จ.นครปฐม ยังคงหลากเข้าพื้นที่ใน กทม. เข้าท่วมพื้นที่ฝั่งธนบุรี ตลอดเวลา ส่วนระดับน้ำในคลองหกวาสายล่าง ระดับลดลง แต่ยังอยู่ในระดับสูงอยู่ ส่วนคลองลาดพร้าว ที่รับน้ำมาจากคลองหกวาสายล่าง น้ำยังคงตัวในระดับสูง ระดับน้ำในพื้นที่ กทม. ลดลงเล็กน้อย แต่ยังคงล้นตลิ่ง ส่วนระดับน้ำในคลองเปรมประชากร ทางตอนเหนือ บริเวณดอนเมือง ลดลงเล็กน้อ ยแต่ระดับน้ำยังคงล้นตลิ่ง ตอนล่างในเขตของบางซื่อ ระดับน้ำปริ่มตลิ่ง อย่างไรก็ตามขณะนี้ ยังมีประชาชนในพื้นที่ใกล้เคียง สน.ดอนเมือง รื้อแนวกระสอบทรายบิ๊กแบ็กกว้างประมาณ 5 เมตร จึงเป็นเหตุให้น้ำยังคงทะลักลงคลองเปรมประชากร อย่างต่อเนื่อง น้ำผุด 7 จุด ท่วม ถ.รัชดา สูง 20 ซ.ม. สำหรับสถานการณ์น้ำล่าสุดที่ บริเวณถนนรัชดาภิเษกนั้น หัวน้ำยังคงอยู่ที่เชิงสะพานข้ามคลองบางซื่อ โดยระดับน้ำในบริเวณนี้ ก็ยังมีระดับตั้งแต่ 30-60 ซ.ม. ทั้งนี้ จากการสอบถามเจ้าหน้าที่ตำรวจ ที่คอยดูแลให้การช่วยเหลือประชาชนอยู่ในบริเวณนี้ กล่าวว่า วันนี้ ระดับน้ำบน ถ.รัชดาภิเษก และในคลองบางซื่อนั้น ลดลงไปเล็กน้อย ประมาณ 3-4 ซ.ม. ขณะที่ บริเวณ ถ.รัชดาภิเษก ขาเข้า หลังลงจากสะพานข้ามคลองบางซื่อ ด้านหน้าบริษัทจรัญประกันภัย ซึ่งอยู่ตรงข้ามโรงแรมเจ้าพระปาร์คนั้น ได้มีน้ำผุดขึ้นมาจากท่อระบายน้ำ จำนวน 7 จุด ทำให้น้ำเอ่อท่วมพื้นผิวการจราจรเป็นวงกว้าง และกำลังแผ่ขยายลงไปอย่างต่อเนื่อง โดยในช่องทางด้านซ้ายนั้น ระดับน้ำ อยู่ที่ประมาณ 10-20 ซ.ม. แล้ว อย่างไรก็ตาม บนสะพานข้ามคลองบางซื่อ ก็ได้มีเต็นท์อำนวยการของเขตดินแดง ที่ร่วมกับ กองพันทหารราบที่ 1 กรมทหารราบที่ 11 รักษาพระองค์ มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง และหน่วยแพทย์เคลื่อนที่ จากโรงพยาบาลกลาง คอยอำนวยความสะดวกให้แก่ประชาชน ทั้งในเรื่องการเดินทางไปยังเส้นทางต่าง ๆ ที่รถเล็กไม่สามารถสัญจรไปมาได้ และการปฐมพยาบาลเบื้องต้น หากเจ็บไข้ได้ป่วยด้วย กทม.จ่อประกาศภัยพิบัติบึงกุ่ม-บางบอน ขณะนี้ กรุงเทพมหานคร มีพื้นที่ประสบภัยน้ำท่วมตามประกาศกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ซึ่งประกาศพื้นที่ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉินเฉพาะหน้าในพื้นที่กรุงเทพมหานคร รวมทั้งสิ้น 32 เขต ประกอบด้วย เขตบางซื่อ ดุสิต พระนคร สัมพันธวงศ์ สาทร บางคอแหลม ยานนาวา คลองเตย บางพลัดบางกอกน้อย ธนบุรี คลองสาน ราษฎร์บูรณะ คลองสามวา มีนบุรี หนองจาก ลาดกระบัง ดอนเมือง คันนายาว จตุจักร ตลิ่งชัน บางเขน บางแค ภาษีเจริญ ลาดพร้าว วังทองหลาง สายไหม หนองแขม หลักสี่ ทวีวัฒนา ดินแดง และบางกอกใหญ่ นอกจากนี้ กทม. ยังอยู่ระหว่างเสนอให้ออกประกาศเป็นพื้นที่ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉินเฉพาะหน้าในพื้นที่ กทม. อีก 2 เขต ได้แก่ เขตบึ่งกุ่ม และบางบอน Link : http://www.innnews.co.th/ถ-เสรีไทยบางชันน้ำสูง4แยกบ้านแขกท่วมแล้ว--320479_03.html

  ที่รัฐสภา นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ ส.ส.กรุงเทพมหานคร พรรคเพื่อไทย ได้อภิปรายในการประชุมร่วมรัฐสภาเพื่อแก้ไขปัญหาน้ำท่วม ตอนหนึ่งถึงการทำงานแก้ปัญหาน้ำท่วมที่ล้มเหลวของผู้ว่ากรุงเทพมหานครว่า หากผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร จัดการปัญหาน้ำท่วมไม่ได้ ก็ควรจะลาออกไป และถ้าหากตนเป็นผู้ว่าฯ จะสั่งการให้มีการสังเกตการณ์สถานการณ์น้ำท่วมตั้งแต่ภาคเหนือลงมา เพื่อเตรียมแผนตั้งรับ และจะเร่งระบายน้ำออกจากกรุงเทพมหานครตั้งแต่ 2 เดือนที่แล้ว เพราะอาจจะแก้ไขปัญหาได้ดีกว่านี้ อย่างไรก็ดีในระหว่างที่นายจิรายุ อภิปรายอยู่นั้น นายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ ส.ส.กรุงเทพมหานคร พรรคประชาธิปัตย์ ก็ได้ลุกขึ้นประท้วงตอบโต้ โดยกล่าวว่าไม่ควรกล่าวถึงผู้ว่าฯ กทม. ซึ่งเป็นบุคคลที่สาม ที่ไม่สามารถกล่าวชี้แจงได้ และระบุว่า ถ้าหากผู้ว่าฯ กทม.จำเป็นต้องลาออก นายกรัฐมนตรีก็ควรจะลาออกเช่นกัน เพราะไม่สามารถจัดการน้ำได้ปล่อยให้ 4จังหวัดต้องจมไปกับน้ำ Mthai News

 นายเทพไท เสนพงศ์ ส.ส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีที่รัฐบาลทุ่มเทงบประมาณ เพื่อเร่งกู้ถนนทางหลวงสาย 340 ระยะทาง 20 กิโลเมตรว่า ถือเป็นวิธีคิดแบบตำน้ำพริกละลายแม่น้ำ ทำให้รัฐบาลต้องสูญเสียงบประมาณในการกู้ถนนสายดังกล่าวไปเป็นจำนวนมาก ถือว่าไม่มีความคุ้มค่าในการลงทุน ถ้ารัฐบาลต้องการหาเส้นทางให้ประชาชนเดินทางไปสู่ภาคใต้ เพื่อเชื่อมต่อกับภาคกลางและกทม.ได้ รัฐบาลก็ควรใช้งบประมาณในการกู้ถนนสาย 340 นี้ ไปป้องกันถนนสายพระรามที่ 2 จะคุ้มค่าและดีกว่าเพราะแนวทางการกอบกู้ กับการป้องกันมีความยากและง่ายต่างกัน ทั้งนี้ นายเทพไทยังเสนอว่า การใช้งบประมาณเพื่อป้องกันในเส้นพระรามที่ 2 นอกจากจะใช้งบประมาณไม่มากแล้ว ยังทำให้การเดินทางในถนนสายนี้ร่นระยะเวลา น้อยกว่าเส้น 340 ถึง 1 เท่าตัวจะเป็นการเพิ่มภาระให้ประชาชนผู้ใช้รถใช้ถนน ที่ต้องสูญเสียทุนทรัพย์ในการเติมน้ำมันเชิ้อเพลิงเพิ่มขึ้นอีกในภาวะที่ควรประหยัดเงินทุนของทุกฝ่าย เชื่อว่าการป้องกันถนนสายพระรามที่ 2 ไม่ให้ถูกน้ำท่วมจะไม่ยากและใช้เวลาไม่นานมากนักเพราะถนนสายดังกล่าวอยู้ใกล้ทะเลอ่าวไทย สามารถที่จะระบายน้ำลงทะเลได้รวดเร็วกว่าเส้น 340 นอกจากนี้ หากรัฐบาลทอดทิ้งถนนพระราม 2 ก็ควรที่จะพิจารณาเร่งกู้ถนนสายหลักเดิม ที่ใช้สัญจรลงภาคใต้คือ ถนนสายบรมราชชนนีเชื่อมต่อกับถนนเพชรเกษมจะดีกว่า เพราะเป็นถนนสายหลักที่ประชาชน และผู้ประกอบการขนส่งใช้สัญจรและรู้เส้นทางดี โดยใช้กันเป็นจำนวนมาก อีกทั้งร่นระยะทางมากกว่าถนนสาย 340 แต่ถ้ารัฐบาลจะหาช่องทางในการใช้งบประมาณแผ่นดิน เพื่อหาเศษหาเลย จากโครงการกู้ถนนสายนี้ท่ามกลางเสียงคัดค้านของสังคมและผู้ใช้รถใช้ถนนจริงก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง Mthai News

  ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ประกาศให้ 22 ชุมชนในแขวงสะพานสูง เขตสะพานสูง รวมถึง ซ.นวมินทร์ 42, 68 และ ซ.เสรีไทย 57 แขวงคลองกุ่ม เขตบึงกุ่ม และ ซ.นวมินทร์ 163 แขวงนวลจันทร์ เขตบึงกุ่ม เป็นพื้นที่เฝ้าระวัง Mthai News

กองบังคับการตำรวจจราจร เปิดเผยถึงสถานการณ์น้ำท่วมขังในพื้นที่ต่างๆ รวมทั้งสิ้น 37 จุด ประกอบด้วย สถานการณ์น้ำท่วมขังในพื้นที่ สน.บางซื่อ   มีดังนี้ 1. แยกลาดพร้าว มีระดับน้ำท่วมสูง 65 ซม. 2. หลังกรมการขนส่งทางบก มีระดับน้ำท่วมสูง 50 ซม. 3. ถนนกำแพงเพชร 3 มีระดับน้ำท่วมสูง 35 ซม. 4. ถนนกำแพงเพชร 2 (เก่า) มีระดับน้ำท่วมสูง 30 ซม. 5. ถนนพหลฯ ช่องคู่ขนาน มีระดับน้ำท่วมสูง 35 ซม. สำหรับช่องทางด่วน น้ำท่วมสูง 45 ซม. 6. วิภาวดีรังสิต ซอย 3 มีระดับน้ำท่วมสูง 40 ซม. 7. ซอยอินทรา 29 มีระดับน้ำท่วมสูง 55 ซม. 8. ซอยวิภาวดี 5 ซอยแยก มีระดับน้ำท่วมสูง 30 ซม. 9. พหลโยธิน 18 กลางซอย มีระดับน้ำท่วมสูง 55 ซม. กำแพงเพชร สน.ย่อยจตุจักร มีระดับน้ำท่วมสูง 55 ซม. 10.หน้าอาคารวังเด็ก วิภาวดี มีระดับน้ำท่วมสูง 30 ซม. และช่วงนี้หัวน้ำยังอยู่ที่สะพานคลองบางซื่อ สถานการณ์น้ำท่วมขังในพื้นที่ สน.ทุ่งสองห้อง  มีดังนี้ 1. ทางเข้าแฟลตส่วนกลางสน.ทุ่งสองห้อง มีระดับน้ำท่วมสูง 80 ซม. 2. บริเวณ สน.ทุ่งสองห้อง มีระดับน้ำท่วมสูง 80 ซม. 3. หมู่บ้านชินเขต ซอย 2 มีระดับน้ำท่วมสูง 40 ซม. 4. การเคหะบางบัว มีระดับน้ำท่วมสูง 30 ซม. 5. ถนนแจ้งวัฒนะ ขาเข้า – ขาอก มีระดับน้ำท่วมสูง 80 ซม. 6. ถนนงามวงศ์วาน ขาเข้า จาก แยกพงษ์เพชร – ชินเขต 2 มีระดับน้ำท่วมสูง 80 ซม. 7. ถนนกำแพงเพชร 6 จาก โรงแรมมิราเคิล – หลักสี่ ระดับน้ำท่วมสูง 40 ซม. ซอยแจ้งวัฒนะ 14 มีระดับน้ำท่วมสูง 135 ซม. 8. หมู่บ้านเมืองทอง – เกษตรนิเวศน์ มีระดับน้ำท่วมสูง 110 ซม. 9. ถนนแจ้งวัฒนะ ซอย 5 มีระดับน้ำท่วมสูง 60 ซม. 10.หมู่บ้านชวนชื่น บางเขน มีระดับน้ำท่วมสูง 80 ซม. 11.การเคหะทุ่งสองห้อง มีระดับน้ำท่วมสูง 80 ซม. 12.ซอยแจ้งวัฒนะ 10 (โกสุมนิเวศน์) มีระดับน้ำท่วมสูง 80 ซม. 13.น้ำในคลองเปรม มีระดับน้ำท่วมสูง 130 ซม. สถานการณ์น้ำท่วมขังในพื้นที่ สน.โชคชัย มีดังนี้ 1. หมู่บ้านเสนานิเวศน์ 1 มีระดับน้ำท่วมสูง 75 ซม. 2. ถนนลาดพร้าว – วังหิน (หน้าวัดใหม่เสนา) มีระดับน้ำท่วมสูง 67 ซม. 3. คลองลาดพร้าว น้ำสูงกว่าตลิ่ง 45 ซม. 4. หมู่บ้านอมรพันธ์ 9 มีระดับน้ำท่วมสูง 52 ซม. 5. ถนนสุคนธสวัสดิ์ มีระดับน้ำท่วมสูง 42 ซม. 6. แยกโรงไม้ มีระดับน้ำท่วมสูง 20 ซม. 7. โชคชัย 4 ซอย 39 มีระดับน้ำท่วมสูง 43 ซม สถานการณ์น้ำท่วมขังในพื้นที่ สน.ลาดพร้าว  มีดังนี้ 1. ถนนนวมินทร์ แยกนวมินทร์ มีระดับน้ำท่วมสูง 25 ซม. ระยะทางยาว 200 เมตร 2. ถนนคลองลำเจียก มีระดับน้ำท่วมสูง 27 ซม. 3. ซอยลาดพร้าว 130 , 136 , 138 , มีระดับน้ำท่วมสูง 15- 20 ซม. 4. ซอยโยธินพัฒนา 3 15 ซม. 5. โรงเรียนคลองลําเจียก 15 ซม. 6. ถนนศรีบูรพา จุดกลับรถใต้สะพานแสนแสบ 20 ซม. 7. ซอยแจ่มจันทร์ ด้านถนนประเสริฐฯ 20 ซม. Mthai News

การประปานครหลวง หรือ กปน. มีข้อเสนอแนะผู้ใช้น้ำที่ประสบปัญหาน้ำท่วม ดังนี้ 1. กรณีที่พักอาศัยของท่าน มีถังพักน้ำใต้ดินและถูกน้ำท่วม ควร หยุดใช้น้ำจากถังพักน้ำชั่วคราว แล้วเปลี่ยนไปใช้น้ำประปาจากท่อภายในที่ต่อตรงจากหลังมาตรวัดน้ำแทน เนื่องจากน้ำที่ท่วมขัง อาจไหลลงไปปะปน หรือซึมเข้าไปในถังพักน้ำ ทำให้น้ำมีสภาพไม่เหมาะสมต่อการใช้ หากน้ำยังท่วมไม่ถึงถังพักน้ำของท่าน ควร เตรียมป้องกันถังพักน้ำไว้ล่วงหน้า 2. ควรระมัดระวังไม่ใช้เครื่องสูบน้ำ (ปั๊มน้ำ) จากระบบท่อที่จมอยู่ ใต้น้ำเพราะหากมีท่อแตกรั่วซึ่งมองไม่เห็น เครื่องสูบน้ำ (ปั๊มน้ำ) จะดูดสิ่งสกปรกเข้าสู่ระบบท่อได้ 3. กรณีก๊อกจมอยู่ในน้ำ สามารถใช้สายยางที่สะอาดต่อจากก๊อก แล้วยกแขวนให้สูงขึ้น จะสามารถใช้น้ำได้ตามปกติ 4. น้ำประปาที่ กปน.ผลิตและสูบจ่ายเข้าสู่ระบบท่อประปา ได้ผ่าน การตรวจสอบจากนักวิทยาศาสตร์ของ กปน. และสถาบันที่เชื่อถือได้  โดยเฉพาะในช่วงวิกฤตน้ำท่วม หน่วยงานด้านสาธารณสุข อาทิ กรมอนามัย กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข และ  คณะสาธารณสุขศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล ได้ทำการตรวจสอบคุณภาพน้ำดิบและน้ำประปา   และยืนยันว่าน้ำประปาอยู่ในเกณฑ์มาตรฐานน้ำดื่มขององค์การอนามัยโลก ไม่เป็นอันตรายเพราะไม่มีสารพิษและเชื้อโรค 5. ขณะนี้ กปน. ได้เพิ่มปริมาณคลอรีนเพื่อฆ่าเชื้อโรค จึงอาจมี กลิ่นคลอรีนในน้ำประปาที่บ้าน ท่านสามารถลดกลิ่นคลอรีนได้โดยรองน้ำประปาใส่ภาชนะเปิดฝาและตั้งทิ้งไว้ประมาณ 30 นาที กลิ่นคลอรีนจะระเหยไป หรืออาจนำไปต้มก่อนดื่ม 6. กรณีจำเป็นต้องอพยพออกจากที่พักอาศัย โปรดปิดประตูน้ำ (วาล์ว) ที่มาตรวัดน้ำเพื่อป้องกันกรณีท่อรั่วภายในบ้าน ทำให้สูญเสียน้ำประปาโดยไม่จำเป็น 7. ท่านสามารถแจ้งและขอรับคำแนะนำเพิ่มเติมได้ที่ “ศูนย์บริการ ประชาชน” โทร.1125 ตลอด 24 ชั่วโมง Mthai News