หน้าแรก เกี่ยวกับเรา ข้อมูลประเทศที่น่ารู้ สถาบันเอเจนย์ ข่าวและกิจกรรม ทุนการศึกษา บความน่ารู้ แลกเปลี่ยนประสบการณ์
เว็บไซต์เพื่อการศึกษาต่อต่างประเทศ ทุนการศึกษาต่อต่างประเทศ เรียนต่างประเทศ
สนใจเรียน IELTS, TOEIC คลิ๊กเลย
ทุนเรียนต่อปริญญาตรีที่สหรัฐอเมริกากับ Key Education
 ปริญญาตรี: มีทุนการศึกษาจำนวน $9,000 ต่อปีสำหรับนักศึกษาที่มีผล GPA 3.0/4.0 และมีความสามารถทางด้านภาษาอังกฤษตรงตามที่กำหนด(สามารถขอต่อเนื่องได้ หากมีผล GPA 3.0/4.0 ในขณะที่ศึกษาอยู่ที่ UNH)  New Haven เป็นเมืองที่มีชื่อเสียงซึ่งเป็นที่รู้จักกันเป็นอย่างดีในฐานะของศูนย์กลางด้านการศึกษาและวัฒนธรรมของประเทศ ที่นี่เป็นเมืองที่ตั้งของ University of New Haven และ Yale University จึงมีบรรยากาศของเมืองมหาวิทยาลัย ที่มีกิจกรรมทางสังคมและวัฒนธรรมต่าง ๆ มากมายสำหรับนักเรียนนักศึกษาโดยเฉพาะวิทยาเขตของมหาวิทยาลัยขนาด 178 ไร่ ประกอบไปด้วยอาคาร 27 อาคาร พร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกทางด้านห้องปฏิบัติการและห้องสมุด รวมถึงอุปกรณ์และเทคโนโลยีทางคอมพิวเตอร์ อาคารกรีฑาและหอพักนักศึกษาภายในวิทยาเขต สถานที่เพื่อการเล่นสกีในช่วงฤดูหนาว และชายหาดสำหรับฤดูร้อนก็อยู่ห่างออกไปเพียงไม่กี่นาที นอกจากนี้ นักศึกษายังจะได้เพลิดเพลินกับการเดินทางในช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์ไปยังเมือง New York City, Boston, Philadephia และ Washington, D.C  University of New Haven เปิดสอนหลักสูตรที่มีความเป็นเลิศทางด้านวิชาการ ทั้งในสายศิลปศาสตร์และวิทยาศาสตร์ รวมทั้งการเรียนในด้านวิชาชีพเฉพาะทาง ด้วยการผสมผสานการเรียนรู้จากการปฏิบัติจริง เข้ากับเนื้อหาหลักสูตรทีมีความชัดเจน จึงกล่าวได้ว่าแหล่งข้อมูลเพื่อการเรียนรู้ บริการจัดหางาน โอกาสในการเข้าร่วมโครงการความร่วมมือทางด้านการศึกษา และหลักสูตรที่เปิดสอนทั้งสำหรับผู้ใหญ่และคนที่ทำงานแล้ว ได้ร่วมกันเป็นส่วนหนึ่งของชุมชนการศึกษาที่ UNH  UNH ได้สร้างบรรยากาศของการเป็นผู้อยู่อาศัยร่วมกัน ที่ส่งเสริมการเรียนรู้นอกห้องเรียน การเรียนรู้ในหลักสูตรร่วม การเจริญเติบโตและพัฒนาการ ซึ่งล้วนแล้วแต่เป็นสิ่งที่ก่อให้เกิดความรู้สึกของความเป็นชุมชนได้ สนใจสมัครเรียนหรือ สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ตัวแทนประจำประเทศไทย Key Education 02 6567130 หรือ Info@keydeucation.co.th www.keyeducation.co.th
ทุนโครงการแลกเปลี่ยน Work & Travel USA 2012
เปิดรับสมัครแล้ว!!! @We Care You More! สอบชิงทุนโครงการแลกเปลี่ยนวัฒนธรรม Spring Work and Travel 2012 - USA By Liberty Abroad ทุนประเภท A ทุนค่าโครงการแบบ Full Placement 39,000 บาท จำนวน 3 ทุน ทุนประเภท B ทุนค่าโครงการแบบ Indy Placement 10,000 บาท จำนวน 3 ทุน ทุนประเภท C ทุนค่าโครงการ 7,000 บาท จำนวน 10 ทุน ทุนประเภท D ทุนค่าโครงการ 5,000 บาท จำนวน 100 ทุน สมัครตั้งแต่วันนี้ ถึง วันที่ 9 ตุลาคม 2554 ศูนย์สอบทั้ง 4 ภาค - ภาคเหนือ อ. เมือง จังหวัดเชียงใหม่  - ภาคกลาง กรุงเทพฯ - ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ อ. เมือง ขอนแก่น  - ภาคใต้ อ. หาดใหญ่ สงขลา  สอบพร้อมกันทั่วประเทศ วันที่ 22 ตุลาคม 2554 เวลา 9.00-12.00 น. ค่าสมัคร 300 บาท สำหรับทุนประเภท A และ 100 บาทต่อการเพิ่มสิทธิ์ในการคัดเลือกทุนประเภท B, C, D หรือ น้อง ๆ ที่ต้องการสมัครเลย ค่าโครงการแบบ Full Placement 39,000 บาท, แบบIndy Placement 22,500 บาท (ไม่รวมค่า VISA และ SEVIS) เราบริการด้วยคุณภาพมาตรฐานสากล ด้วยระบบฐานข้อมูลออนไลน์ตามมาตรฐานของระบบรักษาความปลอดภัยสะดวก สบาย และง่ายในการส่งเอกสารดำเนินการ และรวดเร็ว ไม่ต้องเสียเวลาเดินทางมาที่สำนักงาน ขั้นตอนทุกอย่างสามารถตรวจสอบได้ตามมาตรฐาน   สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม Call Center: 053-276792, 053-276829 Hotline: 087-3032891, 085-4882884 Website: www.libertyabroad.com Email: info@libertyabroad.com
ทุนศึกษาระดับปริญญาเอกสาขาคอมพิวเตอร์ ที่สถาบันเทคโนโลยีนานาชาติสิรินธร ม.ธรรมศาสตร์ (SIIT)
 ประกาศให้ทุนศึกษาระดับปริญญาเอกสาขาคอมพิวเตอร์ ที่ SIIT ม.ธรรมศาสตร์ เพื่อทำงานวิจัยด้าน Numerical Analysis/Scientific Computing เพื่อรับเข้าภาคการศึกษาที่ 1/2555 (เริ่มเรียน มิ.ย. 2555)  สถาบันเทคโนโลยีนานาชาติสิริธร(SIIT) (http://www.siit.tu.ac.th/) ม.ธรรมศาสตร์ เป็น สถาบันเทคโนโลยีนานาชาติด้านวิศวกรรมชั้นนำ แห่งแรกของประเทศไทย ภายใต้การดูแลของ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ และใช้ภาษาอังกฤษเป็นสื่อการเรียนการสอน ได้รับปริญญาบัตรของ ม ธรรมศาสตร์ เมื่อสำเร็จการศึกษา เปิดรับสมัครนักศึกษาเข้ารับทุนเรียนต่อ ดังต่อไปนี้ + สำหรับผู้ที่สำเร็จปริญญาโท วศ.บ. หรือ วท.บ. สาขาคอมพิวเตอร์, เทคโนโลยีสารสนเทศ (ไอที), คณิตศาสตร์, คณิตศาสตร์ประยุกต์, หรือสาขาที่เกี่ยวข้อง รับทุนเข้าเรียนปริญญาเอก โดยเป็นการเรียนแบบทำวิทยานิพนธ์ ทางด้าน Numerical Analysis/Scientific Computing ของสถาบันเทคโนโลยีนานาชาติสิรินธร (SIIT) มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์  คุณสมบัติด้านการศึกษา + จบการศึกษาสาขา วิศวกรรมบัณฑิตหรือวิทยาศาสตรบัณฑิต ด้านคอมพิวเตอร์, เทคโนโลยีสารสนเทศ, คณิตศาสตร์, คณิตศาสตร์ประยุกต์, หรือ สาขาใกล้เคียง, + เกรดเฉลี่ยของ ป.โท สูงกว่า 3.25 + พื้นฐานการเขียนโปรแกรมและความรู้ทางคณิตศาสตร์ดี ถึงดีมาก  + เรียนรู้สิ่งใหม่ได้เร็ว  + หากเคยมีผลงานวิจัยตีพิมพ์แล้ว จะได้รับการพิจารณาเป็นพิเศษ ทุนการศึกษาให้ปล่าว + ไม่มีภาระผูกพันใดๆหลังสำเร็จการศึกษา  + ทุนรวมค่าลงทะเบียนทุกอย่าง (ไม่มีค่าใช้จ่ายใดๆเพิ่มเติมอีกแล้ว) ทุกเทอมตลอด 5 ปี นอกจากนี้ ยังสามารถทำงานช่วยสอน (TA) ซึ่งจะได้รายได้เพิ่มสำหรับใช้จ่ายส่วนตัว ประมาณ 12000 บาท/เดือน (ทำงาน 6 ชม./สัปดาห์) สำหรับผู้สมัครที่ไม่ได้รับทุน สามารถทำงานช่วยสอนได้เช่นกัน (อัตรา ประมาณ 12000 บาท/เดือน เหมือนกัน) การสมัคร หากสนใจและมีคุณสมบัติครบถ้วน กรุณา download แบบฟอร์มใบสมัคร ได้ที่ http://www.siit.tu.ac.th/graduate_general_en.htm#application กรอกข้อมูลให้ครบถ้วน และแนบเอกสารที่เกี่ยวข้อง และส่งมาตามที่อยู่ด้านล่างนี้ ก่อนสัปดาห์สุดท้ายของเดือนเมษายน 2555, ใบสมัครที่ส่งมาก่อนจะมีสิทธิเข้ารับสัมภาษณ์ก่อน (และจะปิดรับสมัครทันทีเมื่อได้จำนวนนักศึกษาตามต้องการ)  (จดหมาย recommendation letter ค่อยนำมาส่งในวันสัมภาษณ์ก็ได้ (หากกรรมการนัดสัมภาษณ์))  ดร.กันต์ ศรีจันท์ทองศิริ (สมัครทุน) ภาควิชาเทคโนโลยีสารสนเทศ คอมพิวเตอร์ และการสื่อสาร สถาบันเทคโนโลยีนานาชาติสิรินธร ศูนย์บางกะดี  131 หมู่ 5 ถ.ติวานนท์  ต.บางกะดี อ. เมือง  ปทุมธานี  12000  อีเมล์หรือสอบถามเพิ่มเติมได้ที่ gun@siit.tu.ac.th 02-5013505 ต่อ 2016 (BKD campus)  รายละเอียดเพิ่มเติมด้านหลักสูตรและคุณสมบัติผู้สมัคร ตรวจสอบได้ที่ http://www.siit.tu.ac.th/graduate_general_en.htm รายละเอียดเพิ่มเติมด้านงานวิจัยสามารถดูได้ที่ http://www2.siit.tu.ac.th/gun/ รายละเอียดอื่นๆสามารถดูได้ที่ http://www.siit.tu.ac.th/professor_en.php?id=293 หากนักศึกษาอยากทำวิจัยหัวข้ออื่นที่เกี่ยวข้องกับทาง Numerical Analysis/Scientific Computing นอกเหนือจากที่เขียนไว้ใน website ก็สามารถทำได้เช่นกันครับ
High School Exchange Program รุ่นที่ 19 ปี 2012/2013
 ศูนย์ฯ โออีจี (Overseas Ed Group) เปิดรับสมัครคัดเลือกเยาวชนไทย เพื่อรับทุนโครงการแลกเปลี่ยนเยาวชน ประเทศสหรัฐอเมริกา ประเทศเยอรมนี ประเทศเบลเยี่ยม ประเทศอิตาลี ประเทศฝรั่งเศส รุ่นที่ 19 ประจำปีการศึกษา 2555/2556  เป็นเวลากว่า 20 ปีที่โออีจีเปิดรับสมัครสอบเพื่อคัดเลือกน้องๆ เยาวชนไทยที่มีคุณสมบัติเหมาะสมและมีความสามารถให้ได้รับทุนสำหรับโครงการแลกเปลี่ยนเยาวชนประเทศสหรัฐอเมริกาโดยได้รับการสนับสนุนจากองค์กรในประเทศสหรัฐอเมริกา มอบทุนการศึกษา ให้น้องๆ นักเรียนแลกเปลี่ยนเป็นประจำทุกปี ด้วยความเชื่อที่ว่า โอกาสในการศึกษาเป็นสิ่งสำคัญ โออีจี จึงจัดมอบทุนการศึกษาให้กับน้องๆ นักเรียนแลกเปลี่ยน ทั้งทุนเต็มจำนวน และทุนสนับสนุนบางส่วน เพื่อเป็นการกระจายโอกาสให้กับน้องๆ นักเรียนที่มีความสามารถ มีความมุ่งมั่นและตั้งใจจริงที่จะไปใช้ชีวิตนักเรียนแลกเปลี่ยน เพื่อที่น้องๆ จะได้มีโอกาสเข้าร่วมโครงการมากขึ้น โดยทุนการศึกษาที่มอบให้จะไม่มีข้อผูกมัดใดๆ ทั้งสิ้นเลย สำหรับคุณสมบัติในการคัดเลือกน้องๆ เข้ารับทุนในครั้งนี้ ต้องมีคุณสมบัติดังนี้  -กำลังศึกษาอยู่ระหว่างชั้น ม.3 - ม.5 (ซึ่งหมายถึงน้องๆ ที่กำลังขึ้นม.3 แต่ยังไม่จบ ม.5 นะคะ)  -ต้องมีอายุไม่ต่ำกว่า 14 ปี แต่ไม่เกิน 18 ปี -มีเกรดเฉลี่ยทุกเทอม ไม่ต่ำกว่า 2.5  -มีเกรดเฉลี่ยวิชาอังกฤษ ไม่ต่ำกว่า 2.0  -ควรมีพื้นฐานภาษาอังกฤษบ้าง เพื่อใช้ในการติดต่อพูดคุย แต่น้องๆ ก็ไม่ต้องกังวลจนเกินไป เพราะชาวต่างชาติเข้าใจดีว่าเรามาเพื่อฝึกภาษา ขอแค่ให้น้องๆ มีความพยายาม และกล้าแสดงออกแล้วน้องๆ จะได้รับประโยชน์จากโครงการนี้อีกเยอะ  -มีความประพฤติดี และมีความรับผิดชอบ  -มองโลกในแง่ดี และพร้อมเปิดรับวัฒนธรรมใหม่ๆ  -ปรับตัวเข้ากับผู้อื่นได้ง่าย  สำหรับประเภททุนการศึกษา  -ทุนเต็มจำนวน 335,000 บาท จำนวน 2 ทุน  (สงวนสิทธิ์ให้ผู้สมัครโครงการแลกเปลี่ยนฯ ประเทศสหรัฐอเมริกาเท่านั้นนะคะ)  -ทุน 100,000 บาท จำนวน 2ทุน  (สงวนสิทธิ์ให้ผู้สมัครโครงการแลกเปลี่ยนฯ ประเทศสหรัฐอเมริกาเท่านั้นนะคะ)  -ทุนโรงเรียน 50,000 บาท จำนวน 8 ทุน  -ทุน 30,000 บาท จำนวน 15 ทุน  -ทุน 10,000 บาท จำนวน 15 ทุน  สำหรับทุนโรงเรียน  ในแต่ละปี ทางโออีจี จะพิจาณามอบทุน 50,000 บาท ให้กับโรงเรียนระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย ที่ตั้งอยู่ในจังหวัดที่แตกต่างกันไปค่ะ โดยในปีนี้ ทางโออีจีจะพิจาณามอบทุนให้กับน้องๆ นักเรียนที่มีคุณสมบัติตามเกณฑ์การได้รับทุน ของทาง โออีจี ที่สมัครสอบจากโรงเรียนดังต่อไปนี้ โรงเรียนละ1-2 ทุน เป็นกรณีพิเศษค่ะ ได้แก่ โรงเรียนหอวัง กรุงเทพ โรงเรียนสามเสนวิทยาลัย กรุงเทพ โรงเรียนสุนารีวิทยา นครราชสีมา โรงเบญจะมะมหาราช อุบลราชธานี โรงเรียนธิดานุเคราะห์ สงขลา โรงเรียนสามัคคีวิทยาคม เชียงราย  สำหรับน้องๆ ที่สนใจโครงการนักเรียนแลกแปลี่ยนของประเทศอื่นๆ ในแถบทวีปยุโรปที่ไม่ได้ใช้ภาษาอังกฤษในการติดต่อสื่อสาร พี่ๆ ทีมงานโออีจีขอแนะนำว่าน้องๆ ควรศึกษารายละเอียดเพิ่มเติม โดยเฉพาะเรื่องของภาษาที่จะใช้ให้ดี ก่อนเข้าร่วมโครงการในประเทศนั้นๆ ด้วยนะคะ สนใจสมัครเข้าร่วมโครงการติดต่อได้ที่ บริษัท โอเวอร์ซีส์ เอ็ด กรุ๊ป จำกัด (Overseas Ed Group) 130-132 อาคารสินธร ทาวเวอร์ 2 ชั้น 9 ถนนวิทยุ แขวงลุมพินี เขตปทุมวัน กรุงเทพฯ 10330 โทรศัพท์ 0-2263-3661-9 หรือ www.oeg.co.th สามารถสมัครได้ตั้งบัดนี้ - 31 ตุลาคม 2554
ทุนศึกษาต่อป.โท-เอก วิศวกรรมเคมี ม.เกษตรศาสตร์
 ภาควิชาวิศวกรรมเคมี ม.เกษตรศาสตร์ เปิดรับนิสิตระดับบัณฑิตศึกษา (พร้อมทุนการศึกษา)  ประจำภาคปลาย ปีการศึกษา 2554  สมัครด้วยตนเอง ถึงวันที่  11 สิงหาคม 2554 สมัครทางไปรษณีย์/Internet ถึงวันที่  5 สิงหาคม 2554 คุณสมบัติของผู้สมัครและรายละเอียดเพิ่มเติมเฉพาะสาขาวิชา 1. ผู้สมัครต้องสำเร็จปริญญาวิศวกรรมศาสตรบัณฑิต (มหาบัณฑิต) สาขาวิชาวิศวกรรมเคมี หรือสาขาอื่นที่เกี่ยวข้อง หรือสำเร็จปริญญาวิทยาศาสตรบัณฑิต (มหาบัณฑิต) เช่น เคมีเทคนิค, เคมีอุตสาหกรรม, เคมี, เทคโนโลยีชีวภาพ เป็นต้น และสามารถศึกษาวิจัยได้เต็มเวลาตลอดทั้งหลักสูตร 2. ผู้สมัครต้องระบุชื่ออาจารย์ของภาควิชา 5 ชื่อ เรียงตามลำดับที่ผู้สมัครสนใจสมัครเป็นนิสิตในที่ปรึกษาวิทยานิพนธ์ รวมทั้งระบุหัวข้อวิจัยด้วย (ดาวน์โหลดแบบฟอร์มได้ที่ http://www.che.eng.ku.ac.th) 3. ผู้สมัครสามารถดูรายละเอียดงานวิจัยของคณาจารย์ภาควิชาวิศวกรรมเคมีสำหรับนิสิตเข้าใหม่ ได้ที่ประกาศ ณ ภาควิชาฯ (อาคาร 1 ชั้น 3 คณะวิศวกรรมศาสตร์) หรือ http://www.che.eng.ku.ac.th ข้อมูลทุนการศึกษา             ดูรายละเอียดได้ที่ http://www.che.eng.ku.ac.th รายละเอียดการสอบ วิชาที่สอบ วัน เวลา สถานที่สอบ สัมภาษณ์ 12 กันยายน 2554 09.00 น. เป็นต้นไป ห้องประชุมภาควิชาวิศวกรรม เคมีคณะวิศวกรรมศาสตร์  อาคาร 1 ชั้น 3      ข้อมูลเพิ่มเติม ภาควิชาฯ ได้รับการคัดเลือกให้เป็นหนึ่งในหน่วยงานร่วมของศูนย์ความเป็นเลิศแห่งชาติ(National Center of Excellence) ด้านปิโตรเลียม ปิโตรเคมีและวัสดุขั้นสูง โดยได้รับการสนับสนุนครุภัณฑ์และทุนการศึกษาวิจัยจากรัฐบาลไทย (ผ่านสำนักงานคณะกรรมการอุดมศึกษา) ซึ่งจะทำการเรียนการสอนและงานวิจัยที่มีคุณภาพทัดเทียมนานาชาติ และมีความร่วมมือทางวิชาการกับภาคอุตสาหกรรมและต่างประเทศ การสอนในรายวิชาหลักจะเป็นภาษาอังกฤษ ส่วนวิทยานิพนธ์อาจเลือกใช้ภาษาอังกฤษ หรือภาษาไทยได้ คณาจารย์ของภาควิชาหลายคนได้รับทุนสำหรับนิสิตภายใต้โครงการกาญจนาภิเษกของสำนักงานกองทุนสนับสนุนการวิจัย (สกว.) และทุนในโครงการมหาวิทยาลัยวิจัยแห่งชาติด้วย   หากมีข้อสงสัยโปรดติดต่อภาควิชา  0-2942-8555 ต่อ 1202-1204
ทุนศึกษาต่อภาควิชาวิศวกรรมเคมี ม.เกษตรศาสตร์
 ภาควิชาวิศวกรรมเคมี ม.เกษตรศาสตร์ เปิดรับนิสิตระดับบัณฑิตศึกษา (พร้อมทุนการศึกษา)  ประจำภาคปลาย ปีการศึกษา 2554  สมัครด้วยตนเอง ถึงวันที่  11 สิงหาคม 2554 สมัครทางไปรษณีย์/Internet ถึงวันที่  5 สิงหาคม 2554 คุณสมบัติของผู้สมัครและรายละเอียดเพิ่มเติมเฉพาะสาขาวิชา 1. ผู้สมัครต้องสำเร็จปริญญาวิศวกรรมศาสตรบัณฑิต (มหาบัณฑิต) สาขาวิชาวิศวกรรมเคมี หรือสาขาอื่นที่เกี่ยวข้อง หรือสำเร็จปริญญาวิทยาศาสตรบัณฑิต (มหาบัณฑิต) เช่น เคมีเทคนิค, เคมีอุตสาหกรรม, เคมี, เทคโนโลยีชีวภาพ เป็นต้น และสามารถศึกษาวิจัยได้เต็มเวลาตลอดทั้งหลักสูตร 2. ผู้สมัครต้องระบุชื่ออาจารย์ของภาควิชา 5 ชื่อ เรียงตามลำดับที่ผู้สมัครสนใจสมัครเป็นนิสิตในที่ปรึกษาวิทยานิพนธ์ รวมทั้งระบุหัวข้อวิจัยด้วย (ดาวน์โหลดแบบฟอร์มได้ที่ http://www.che.eng.ku.ac.th) 3. ผู้สมัครสามารถดูรายละเอียดงานวิจัยของคณาจารย์ภาควิชาวิศวกรรมเคมีสำหรับนิสิตเข้าใหม่ ได้ที่ประกาศ ณ ภาควิชาฯ (อาคาร 1 ชั้น 3 คณะวิศวกรรมศาสตร์) หรือ http://www.che.eng.ku.ac.th ข้อมูลทุนการศึกษา             ดูรายละเอียดได้ที่ http://www.che.eng.ku.ac.th รายละเอียดการสอบ วิชาที่สอบ วัน เวลา สถานที่สอบ สัมภาษณ์ 12 กันยายน 2554 09.00 น. เป็นต้นไป ห้องประชุมภาควิชาวิศวกรรม เคมีคณะวิศวกรรมศาสตร์ อาคาร 1 ชั้น 3      ข้อมูลเพิ่มเติม ภาควิชาฯ ได้รับการคัดเลือกให้เป็นหนึ่งในหน่วยงานร่วมของศูนย์ความเป็นเลิศแห่งชาติ(National Center of Excellence) ด้านปิโตรเลียม ปิโตรเคมีและวัสดุขั้นสูง โดยได้รับการสนับสนุนครุภัณฑ์และทุนการศึกษาวิจัยจากรัฐบาลไทย (ผ่านสำนักงานคณะกรรมการอุดมศึกษา) ซึ่งจะทำการเรียนการสอนและงานวิจัยที่มีคุณภาพทัดเทียมนานาชาติ และมีความร่วมมือทางวิชาการกับภาคอุตสาหกรรมและต่างประเทศ การสอนในรายวิชาหลักจะเป็นภาษาอังกฤษ ส่วนวิทยานิพนธ์อาจเลือกใช้ภาษาอังกฤษ หรือภาษาไทยได้ คณาจารย์ของภาควิชาหลายคนได้รับทุนสำหรับนิสิตภายใต้โครงการกาญจนาภิเษกของสำนักงานกองทุนสนับสนุนการวิจัย (สกว.) และทุนในโครงการมหาวิทยาลัยวิจัยแห่งชาติด้วย   หากมีข้อสงสัยโปรดติดต่อภาควิชา  0-2942-8555 ต่อ 1202-1204
ทุนผู้ช่วยวิจัยโครงการปริญญาเอกกาญจนาภิเษก (คปก.) รุ่นที่ 14
ทุนผู้ช่วยวิจัยโครงการปริญญาเอกกาญจนาภิเษก (คปก.) รุ่นที่ 14  ด่วน!! (ภายใน ตุลาคม 2554) ด่วน...รับสมัครผู้สนใจ  สมัครรับทุนผู้ช่วยวิจัยโครงการปริญญาเอกกาญจนาภิเษก (คปก.) รุ่นที่14  ทำวิจัยหัวข้อวิทยานิพนธ์เรื่อง "Effects of the fern extracts and their anti-oxidative compounds on human stem cells proliferation and differentiation” ณ คณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์  โดยส่วนหนึ่งของงานไปทำวิจัย ณ กรุงโซล ประเทศเกาหลีใต้           คุณสมบัติของนักศึกษาที่จะขอรับทุน “ผู้ช่วยวิจัย” คปก. (ตามเกณฑ์การรับสมัครของสกว.http://rgj.trf.or.th/download/rgj31studentstandard13.pdf) 1.      ผู้มีวุฒิปริญญาตรี (สาขาเภสัชศาสตร์หรือวิทยาศาสตร์) จะต้องได้เกียรตินิยมอันดับหนึ่ง หรือเกียรตินิยมอันดับสองและอยู่ใน 25% แรกของชั้น 2.      ผู้มีวุฒิปริญญาโท จะต้องมีผลงานวิจัยตีพิมพ์ หรือเสนอในที่ประชุมวิชาการ และมีผลการเรียนระดับปริญญาตรีและปริญญาโทในระดับดีมาก (* เป็นทุนที่ไม่มีข้อผูกมัด ซึ่งให้ทั้งค่าใช้จ่ายรายเดือน ค่าลงทะเบียนเรียน และค่าไปทำวิจัยในต่างประเทศ ฯลฯ   ดูรายละเอียดทุนและหลักเกณฑ์ในการให้ทุนได้ที่http://rgj.trf.or.th/thai/thai.asp)   ผู้ที่สนใจ/หรือต้องการข้อมูลเพิ่มเติมสามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่  ดร.สิรีวรรณ  แก้วสุวรรณ โทร.074-288893, 074-428220 หรือ E-mail: songsri.k@psu.ac.th,ksongsri@yahoo.com
Internship Program ฝึกงาน/ฝึกวิชาชีพ ณ.สหรัฐอเมริกา
 น้องๆที่กำลังศึกษาในภาคปกติ หรือจบการศึกษา สามารถสนทนาภาษาอังกฤษในระดับสื่อสารได้ ไม่จำเป็นต้องมีประสบการณ์ทำงาน โดยน้องๆต้องสอบสัมภาษณ์และสอบวัดระดับภาษาอังกฤษ เพียงแค่เข้าใจศัพท์เฉพาะในสาขาที่ตนจะไปศึกษาวิชาชีพ / มีความเป็นผู้ใหญ่, มีความรับผิดชอบและมุ่งมั่นในการเรียนรู้ สามารถเข้าร่วมโครงการฝึกวิชาชีพในอเมริกา (Internship) ระยะเวลา 6 - 18 เดือน ถ้าน้องๆสนใจเข้าร่วมโครงการ ลองส่ง resume มาสมัครดูนะคะ ... ตัวอย่างการเขียน Resume... ตำแหน่งงานที่เปิดรับสมัคร  SHAMIN HOTELS HILTON GARDEN INN RICHMOND AIRPORT (arrive in in April or early May) Positions: Front desk  HYATT REGENCY ST. LOUIS RIVERFRONT, ST. LOUIS, MO (arrive in April) Positions: Front desk  Hotel Galvez. GALVESTON, TX (arrive in April/June) Positions: food and beverage / Front desk positions Marriot, Renaissance St. Louis Grand Hotel, ST. LOUIS, MO Positions: Stewarding / Food & Beverage Rotation / Housekeeping / Front Desk Day’s Inn, St. Louis MO Positions: Front Desk สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ : ฝ่ายประชาสัมพันธ์ อาคารยุวทูต (YES) ชั้น.2 เลขที่ 9/19 หมู่ 9 ถนนคลองลำเจียก แขวงคลองกุ่ม เขตบึงกุ่ม กทม. 10230 โทร 0 2508 0099 ต่อ 1207, 1214 แฟกซ์ 0 2943 9570-1 Web : http://www.yesthailand.org  Email : info@yesthailand.org เว็บไซต์ http://www.yesthailand.org/news.asp?ID=176
I-TIM แจกทุน
 รายละเอียดเพิ่มเติมที่ http://www.i-tim.ac.th ทุนการศึกษาสำหรับปีการศึกษา   ทุนการศึกษาสำหรับนักศึกษาที่เรียนดี จำนวน 1 ทุน ผู้ได้รับทุนจะได้รับสิทธิ์ในการลดค่าธรรมเนียมการเรียน ร้อยละ 25 ของค่าเล่าเรียนหลักสูตร 2 ปี คณะ กรรมการทุนการศึกษาของโรงเรียนได้สำรองทุนการศึกษาไว้สำหรับนักศึกษาที่มี คุณสมบัติเพียบพร้อม โดยทางสถาบันไอทิมขอสงวนสิทธิ์ในการปรับเปลี่ยนสัญญา คุณสมบัติของผู้สมัคร ผู้สมัครต้องเลือกเรียนหลักสูตร 2 ปี ต้องเป็นผู้สำเร็จการศึกษาระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 หรือเทียบเท่าขึ้นไป สัญชาติไทย อายุไม่เกิน 30 ปี ผู้สมัครจะต้องเป็นผู้ที่มีผลการเรียนดี คะแนนเฉลี่ยสะสมไม่ต่ำกว่า 3.00 หรือร้อยละ 85 ขึ้นไป มีความประพฤติและอัธยาศัยดี ทุนการศึกษาสำหรับนักศึกษาที่ขาดแคลนทุนทรัพย์ จำนวน 1 ทุน ผู้ได้รับทุนจะได้รับสิทธิ์ในการลดค่าธรรมเนียมการเรียน ร้อยละ 50 ของค่าเล่าเรียนหลักสูตร 2 ปี คณะ กรรมการทุนการศึกษาของโรงเรียน ได้สำรองทุนการศึกษาไว้สำหรับนักศึกษาที่มีคุณสมบัติเพียบพร้อม สถาบันไอทิมขอสงวนสิทธิ์ในการปรับเปลี่ยนสัญญา คุณสมบัติของผู้สมัคร ผู้สมัครต้องเลือกเรียนหลักสูตร 2 ปี ต้องเป็นผู้สำเร็จการศึกษาระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 หรือเทียบเท่าขึ้นไป สัญชาติไทย อายุไม่เกิน 30 ปี ผู้สมัครจะต้องเป็นผู้ที่มีผลการเรียนดี คะแนนเฉลี่ยสะสมไม่ต่ำกว่า 3.00 หรือร้อยละ 85 ขึ้นไป มีความประพฤติและอัธยาศัยดี มีความจำเป็นด้านการเงิน เงื่อนไขการขอรับทุนการศึกษา ทั้ง 2 ประเภท ผู้รับทุนจะต้องเอาใจใส่ศึกษาเล่าเรียนให้จบหลักสูตรภายในเวลาที่โรงเรียนกำหนด หาก “ผู้รับทุน” เรียนไม่จบไม่ว่าจะด้วยเหตุผลใดก็ตามผู้รับทุนจะต้องยินยอมชดใช้ค่าปรับเป็นจำนวน 2 เท่าของเงินทุน ที่โรงเรียนให้ไป ผู้รับทุนจะต้องให้ความร่วมมือและสนับสนุนกิจกรรมต่างๆ ของโรงเรียนเป็นอย่างดี ทั้งในระหว่าง การศึกษาและจบการศึกษาแล้วเป็นเวลา 2 ปี กำหนดการเปิดรับสมัครและสอบชิงทุนการศึกษา ทั้ง 2 ประเภท เปิดรับสมัครขอรับทุนการศึกษาได้ ตั้งแต่เวลา 08.30-17.00 น. ณห้องประชาสัมพันธ์สถาบันไอทิม (ยกเว้นวันอาทิตย์และวันหยุดนักขัตฤกษ์) ทุนนักศึกษาเรียนดีสำหรับนักศึกษาใหม่ มีหนังสือรับรองความประพฤติจากอาจารย์ผู้สอนในสถานศึกษาเดิมมาแสดงอย่าง น้อย 3 ฉบับ สำหรับนักศึกษาปี 2 มีคะแนนความประพฤติในปีที่ 1 เหลือไม่ต่ำกว่า 130 คะแนน ทุนนักศึกษาขาดแคลนทุนทรัพย์สำหรับนักศึกษาใหม่ มีหนังสือรับรองความประพฤติจากอาจารย์ผู้สอน ในสถานศึกษาเดิมมาและกำนันหรือผู้ใหญ่บ้านมาแสดง อย่างน้อย 3 ฉบับ สำหรับนักศึกษาปี 2 มีคะแนนความประพฤติในปีที่ 1 เหลือไม่ต่ำกว่า 130 คะแนน เอกสารประกอบการสมัครขอรับทุน ทั้ง 2 ประเภท สำเนาวุฒิการศึกษา 1 ฉบับ (พร้อมฉบับบจริง) สำเนาบัตรประชาชน 1 ฉบับ สำเนาทะเบียนบ้าน 1 ฉบับ รูปถ่ายหน้าตรงไม่สวมหมวก ขนาด 2 x 2 นิ้ว จำนวน 2 รูป หนังสือรับรองความรู้ ความสามารถและความประพฤติจากอาจารย์ผู้สอนหรืออาจารย์ที่ปรึกษา(ถ้ามี) ผลการสอบ TOEFL หรือ TOEIC (ถ้ามี) ส่งใบสมัครหรือสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ โรงเรียนการจัดการโรงแรมและการท่องเที่ยวนานาชาติ (ไอทิม) ฝ่ายประชาสัมพันธ์และส่งเสริมการศึกษา โทรศัพท์ : 02-732-0170-3, 02-732-1491-4 ต่อ 201-207
มหาวิทยาลัย แคนเบอร์ร่า(The University of Canberra – Australia’s Capital University)
 International Scholarship AUD$2000 ทุนการศึกษา อนุปริญญา ปริญญาตรี และปริญญาโท มหาวิทยาลัยแคนเบอร์ร่าเป็นมหาวิทยาลัยรัฐบาลซึ่งก็ตั้งมาตั้งปี  ค.ศ 1968 เป็นมหาวิทยาลัยที่เปิดสอนทั้งในระดับปริญญาตรี ปริญญาโท และ ปริญญาเอก มหาวิทยาลัยมีสถาบันสอนภาษา(University of Canberra English Learning Institute, UCELI) เพื่อเตรียมความพร้อมก่อนเข้าเรียนในระดับต่างๆ และยังเป็นศูนย์สอบ IELTS แห่งเดียวในเมือง แคนเบอร์ร่า ซึ่งตั้งอยู่ภายในรั้วมหาวิทยาลัย   หลักสูตร Diploma ของ University of Canberra College (UCC)  เป็นหลักสูตรสำหรับนักศึกษาที่ต้องการศึกษาต่อในระดับปริญญาตรี ซึ่งใช้เวลาเพียง 2 ปีครึ้งโดยหลักสูตรนี้เปิดสอนเฉพาะ นักศึกษาที่สนใจทางด้าน  •  Communication •  Business  •  Information Technology  •  International Studies - นักเรียนที่มีผลภาษา IELTS 5.5  เรียน หลักสูตร Diploma 3 เทอม หรือ 9 เดือน - นักเรียน ที่ มีผลภาษา IELTS 6.0 เรียน หลักสูตร Diploma  2 เทอม หรือ 6 เดือน   เมื่อจบหลักสูตร Diploma แล้วสามารถเข้าเรียนในระดับปริญญาตรี ปี 2  www.canberra.edu.au/college มหาวิทยาลัยยังได้เปิดโอกาสให้นักศึกษาที่ต้องการเรียน ปริญญาตรี 2 สาขาควบ หรือ Double Degree ซึ่งส่วนใหญ่ก็จะมีระยะเวลาในการเรียน 4-5 ปี  สำหรับหลักสูตรที่เปิดสอนในระดับปริญญาตรี โท และ เอก เปิดสอนดังนี้ - Business and Government - Arts and Design - Education - Health  - Information Sciences and Engineering  - Law - Applied Science นักศึกษาสามารถศึกษารายละเอียดแต่ละคณะวิชาได้ที่ www.canberra.edu.auนักศึกษาที่สนใจศึกต่อในระดับปริญญาเอกสามารถศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่www.canberra.edu.au/research-students ที่พักอาศัย (Accommodation) มหาวิทยาลัยมีหอพักในบริเวณรั้วมหาวิทยาลัย เพื่ออำนวยความสะดวกแก่นักศึกษาต่างชาติ โดยสามารถดูรายละเอียดได้ที่ www.canberrauv.com.au ภายในหอพักมีความเพียบพร้อมด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกให้กับนักศึกษา พร้อมการรักษาความปลอดภัยตลอด 24 ชั่วโมง  หรือ ถ้านักศึกษาต้องการพักกับครอบครัว (Homestay) ทางมหาวิทยาลัยอำนวยความสะดวกในการจัดหาที่พักให้ด้วย สภาพอากาศโดยทั่วไปของกรุงแคนเบอร์ร่าเป็นภูมิอากาศแบบภาคพื้นทวีป อากาศจะแตกต่างกันไปตามฤดูกาล ซึ่งมี 4 ฤดู ฤดูร้อนจะร้อนและแห้งมากอุณหภูมิจะอยู่ที่ประมาณ 28 องศาเซลเซียส ส่วนฤดูหนาวก็จะหนาวเย็นอุณหภูมิประมาณ 10-15 องศาเซลเซียส หรืออาจจะต่ำกว่า 0 องศาในเวลากลางคืน  สนใจข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับมหาวิทยาลัย สามารถติดต่อสอบถามได้ที่ คุณสาวิตรี กิตติสาร , Country Manager University of Canberra  Email: ucthai@truemail.co.th   Mobile phone:  081 551 2678, 083 612 8885 www.canberra.edu.au
ไอคิวเด็กไทยแค่90 ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยโลกที่100
กรมสุขภาพจิตเตรียมวัดไอคิวเด็กไทย ประถม-มัธยม ใช้แบบทดสอบเกณฑ์มาตรฐานโลกเพื่อนำมาเป็นข้อมูลผลักดันไอคิวเด็กไทยให้สูงขึ้น หลังพบค่าเฉลี่ยอยู่ที่ 91 จุด ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยโลกที่อยู่ระดับ 100 จุด คาด ม.ค.ปี 54 รู้ผล นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ พร้อมด้วย นพ.อภิชัย มงคล อธิบดีกรมสุขภาพจิต และผู้บริหารกรมสุขภาพจิต ร่วมแถลงโครงการ “สมองเด็กไทย…รอไม่ไหวแล้ว” เพื่อมุ่งพัฒนาไอคิวเด็กไทย โดยนายจุรินทร์กล่าวว่า จากผลสำรวจไอคิวเด็กไทยล่าสุด เมื่อปี 2552 พบว่า ไอคิวเด็กไทยอยู่ที่ 91 จุด ขณะที่มาตรฐานสากลอยู่ที่ 90-110 จุด ถือเป็นสัญญาณที่น่าเป็นห่วง ซึ่งสาเหตุสำคัญเกิดจากการขาดสารไอโอดีน ที่ผ่านมากระทรวงสาธารณสุขจึงได้ออกประกาศกำหนดให้ เกลือ น้ำเกลือปรุงอาหาร น้ำปลา และซอสปรุงรส เป็นผลิตภัณฑ์ที่ต้องใส่ไอโอดีน โดยให้มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2554 เป็นต้นไป นอกจากนี้ยังมีการกำหนดให้แจกไอโอดีนเม็ดแก่หญิงตั้งครรภ์ทั่วประเทศ คาดว่ามีประมาณ 800,000-1,000,000 คนต่อปี การกำหนดให้เด็กแรกเกิดทุกคนเข้ารับการตรวจฮอร์โมนไธรอยด์ ซึ่งหากพบว่ารายใดมีปัญหาจะได้แก้ไขได้ทันที รวมถึงการให้หนังสือเล่มแรกแก่เด็กแรกเกิดหรือบุ๊กสตาร์ท นายจุรินทร์กล่าวว่า นอกจากนี้ตนยังได้มอบหมายให้กรมสุขภาพจิตทำการสำรวจไอคิวคนไทยทั่วประเทศจำนวน 92,000 คน ซึ่งเป็นการสำรวจครั้งแรกของไทยที่ใช้แบบทดสอบตามเกณฑ์มาตรฐานสากล สำรวจลงลึกเป็นรายจังหวัด คาดว่าจะใช้เวลาสำรวจ 1 เดือน ทั้งนี้เพื่อให้ได้ข้อมูลเพื่อนำมาพัฒนาไอคิวคนไทยต่อไปในอนาคต โดยจะมีการตั้งเป้าจำนวนไอคิวที่จะขยับเพิ่มขึ้นภายใน 5 ปี นพ.อภิชัยกล่าวว่า การสำรวจครั้งนี้จะใช้แบบทดสอบ Standard Progressive Matrices Pararell (SPM.) ซึ่งเป็นเครื่องมือทดสอบไอคิวระดับโลก ให้เวลาทำแบบทดสอบ 40 นาที โดยจะสำรวจในเด็กชั้นประถมและมัธยมในทุกจังหวัด เก็บข้อมูลในวันที่ 13-24 ธ.ค.นี้ และจะทราบผลในเดือน ม.ค.2554 ซึ่งการสำรวจของไทยครั้งนี้ยังถือเป็นการสำรวจไอคิวครั้งใหญ่ที่สุดในโลก เพราะมีการสำรวจโดยใช้จำนวนคนมากที่สุดถึงเกือบ 1 แสนคน จากเดิมซึ่งมีบางประเทศทำอยู่ที่ 60,000 คนเท่านั้น นพ.อภิชัยกล่าวว่า ภาพรวมค่าเฉลี่ยไอคิวประชากรโลกอยู่ที่ 100 จุด โดยประเทศจีนและญี่ปุ่นเป็นประเทศที่มีประชากรมีค่าเฉลี่ยไอคิวสูงที่สุด โดยเฉพาะเมืองเซี่ยงไฮ้เป็นเมืองที่มีค่าเฉลี่ยไอคิวสูงที่สุดในโลก โดยเห็นได้จากที่คนญี่ปุ่นมีค่าไอโอดีนในปัสสาวะมากกว่าค่าปกติถึง 20 เท่า ด้าน นพ.ยงยุทธ์ วงศ์ภิรมย์ศานติ์ หัวหน้ากลุ่มที่ปรึกษากรมสุขภาพจิต กล่าวว่า การสำรวจครั้งนี้เป็นการเก็บข้อมูลรายจังหวัด ทำให้ได้ข้อมูลตามความเป็นจริงว่า เด็กในจังหวัดใดมีไอคิวเท่าไหร่ เนื่องจากในแต่ละจังหวัดมีฐานไอคิวต่างกัน โดยผลสำรวจที่ได้จะนำมาวางแผนพัฒนาไอคิวเด็กไทยต่อไป โดยเฉพาะในเรื่องระบบการสอนจากเดิมที่เราสอนเด็กไทยบนพื้นฐานไอคิวที่ 90 จุด แต่จากนี้จะเป็นปรับการสอนเด็กไทยบนพื้นฐานไอคิว 100 จุด เป็นต้น ขณะที่ นพ.อุดม เพชรสังหาร รองประธานคณะกรรมการบริหารบริษัท รักลูกกรุ๊ป จำกัด กล่าวว่า บ้านเราจำเป็นต้องพัฒนาคน หากไม่เพิ่มศักยภาพเด็กไทยก็จะไปไม่รอด การให้ไอโอดีนเป็นเพียงแค่การสร้างฮาร์ดแวร์ให้กับเด็กไทย แต่มีเพียงแค่ฮาร์ดแวร์คงไม่ได้ ซึ่งต้องใส่ซอฟต์แวร์ลงไปด้วย โดยผ่านการเล่น การเรียน เป็นต้น ซึ่งเรื่องนี้เรารอไม่ได้ เพราะขณะนี้ประเทศไทยกำลังเจอปัญหา 2 ด้าน คือ เรามีเด็กเกิดน้อยลง ขณะเดียวกันจำนวนผู้สูงอายุก็เพิ่มมากขึ้น หากเราไม่พัฒนาเด็กให้ดี ในอนาคตเราจะเป็นผู้สูงอายุที่มีลูกหลานที่ไม่มีศักยภาพแบกรับ. ที่มา http://www.thaipost.net/
ไทยคว้าแชมป์หุ่นยนต์กู้ภัยโลก 6 สมัยซ้อน
 ต่างชาติทึ่งเด็กไทยโชว์ฟอร์มสุดยอด สร้างชื่อหุ่นยนต์กู้ภัยโลกอีกครั้ง iRAP_Judy จากพระนครเหนือฯ รักษาแชมป์โลกสมัยที่ 6 ให้ไทยสำเร็จ ทีมจากราชมงคลพระนคร และราชมงคลรัตนโกสินทร์ คว้าอันดับ 3 และ 4 ตุรกี วันที่ 10 ก.ค.54 ทีมหุ่นยนต์กู้ภัยไทย iRAP_Judy จากมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าพระนครเหนือ (มจพ.) สร้างชื่อก้องโลกอีกครั้ง รักษาแชมป์โลกหุ่นยนต์กู้ภัยให้ประเทศไทยได้สำเร็จเป็นสมัยที่ 6 ในการแข่งขัน World RoboCup Rescue 2011 ที่เมืองอิสตันบูล ประเทศตุรกี ด้วยผลงานโดดเด่นโดนใจผู้ชมทั้งสนาม ทำคะแนนนำตลอดตั้งแต่รอบคัดเลือกจนถึงรอบชิงชนะเลิศ ชนะทีมจากประเทศผู้นำด้านเทคโนโลยีอย่างสหรัฐอเมริกา ญี่ปุ่น ออสเตรเลีย และเยอรมัน โดยมีทีม Stabilize และทีม SUCCESS ครองอันดับสามและสี่ตามลำดับ ส่วนทีมจากอิหร่านได้อันดับสองและอันดับห้า ต่างชาติยกนิ้วชื่นชมในความสามารถเยาวชนไทย กำหนดเดินทางกลับถึงเมืองไทย วันที่ 12 ก.ค.54 เวลา 13.15 น. นางวีนัส  อัศวสิทธิถาวร  ผู้อำนวยการสำนักงานสื่อสารองค์กร เอสซีจี ในฐานะผู้สนับสนุนการแข่งขันหุ่นยนต์กู้ภัย ร่วมกับสมาคมวิชาการหุ่นยนต์แห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า ทีมเยาวชนไทย iRAP_Judy จากมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าพระนครเหนือ สามารถคว้าแชมป์โลกหุ่นยนต์กู้ภัยได้อย่างสมศักดิ์ศรี นับเป็นการรักษาแชมป์โลกให้ประเทศไทยได้สำเร็จเป็นสมัยที่ 6 ในเวทีหุ่นยนต์กู้ภัยระดับโลก ทำคะแนนนำทิ้งห่างทีมอื่น ๆ ตลอดทุกรอบการแข่งขัน โดยในการแข่งขันรอบรองชนะเลิศและชิงชนะเลิศรวม 3 สนาม ทีม iRAP_ Judy สามารถค้นหาผู้ประสบภัยได้รวม 25 ราย มีคะแนนรวมสูงสุด 835 คะแนน ส่วนอันดับ 2 เป็นทีม MRL จากอิหร่าน มีคะแนนรวม 430 คะแนน อันดับสามทีม Stabilize จากมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลพระนคร มีคะแนนรวม 405 คะแนน อันดับสี่ ทีม SUCCESS จากมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลรัตนโกสินทร์ มีคะแนนรวม 395 คะแนน  และทีม YRA จากอิหร่านได้อันดับที่ห้า เอสซีจี รู้สึกยินดีและชื่นชมในความสามารถของเด็กไทยอย่างยิ่ง ความสำเร็จในครั้งนี้ทำให้ต่างชาติทึ่งและยอมรับในศักยภาพและความสามารถของเยาวชนไทยมากขึ้น ผศ.ดร.จักรกฤษณ์ ศุทธากรณ์ ที่ปรึกษาอาวุโส สมาคมวิชาการหุ่นยนต์แห่งประเทศไทย กล่าวว่า  การแข่งขันรอบรองชนะเลิศและชิงขนะเลิศในวันนี้ แสดงให้เห็นถึงศักยภาพของเยาวชนไทยอย่างแท้จริง โดยในรอบรองชนะเลิศมีทีมที่ผ่านเข้ารอบจำนวน 8 ทีม ได้แก่ ทีม iRAP_Judy จากมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าพระนครเหนือ ทีม SUCCESS จากมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลรัตนโกสินทร์ ทีม Stabilize จากมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลพระนคร ทีม MRL และทีม YRA จากอิหร่าน ทีม SEU-REDSON จากจีน ทีม CASualty จากออสเตรเลีย และทีม UP จากเม็กซิโก ซึ่งแต่ละทีมจะต้องลงแข่งขันเก็บคะแนนทีมละ 2 สนาม เพื่อคัดเลือก 5 ทีมที่มีคะแนนสูงสุดผ่านเข้าสู่รอบชิงชนะเลิศ  โดยทีม iRAP_Judy ซึ่งทำคะแนนนำมาตลอด ยังคงรักษาตำแหน่งผู้นำไว้ได้อย่างเหนียวแน่น ทำคะแนนสูงสุดลอยลำเข้าสู่รอบชิงชนะเลิศ พร้อมด้วยทีม SUCCESS และทีม Stabilize จากประเทศไทย ส่วนอีก 2 ทีมเป็นทีมจากประเทศอิหร่าน คือ ทีม MRL และทีม YRA โดยในรอบชิงชนะเลิศ ทีม iRAP_Judy ยังคงสร้างผลงานโดดเด่นโดนใจผู้ชมทั้งสนาม ทำคะแนนนำสูงสุดและคว้าแชมป์หุ่นยนต์กู้ภัยโลกสมัยที่ 6 ได้เป็นผลสำเร็จ ซึ่งการเป็นแชมป์หุ่นยนต์กู้ภัยโลกเป็นสิ่งที่ท้าทาย แต่การรักษาแชมป์โลกสมัยที่ 6 เป็นสิ่งที่ยากยิ่งกว่า เพราะคู่แข่งจากประเทศอื่นๆ มีความสามารถและความพร้อมสูง ทั้งยังเป็นประเทศผู้นำเทคโนโลยี และทีมเหล่านี้ได้ให้ความสนใจบันทึกภาพและข้อมูลทีมไทยเพื่อนำไปศึกษาด้วย ทางสมาคมฯ รู้สึกภูมิใจในความสามารถเด็กไทยอย่างมาก และจะต่อยอดการพัฒนาหุ่นยนต์ไปประยุกต์ใช้ให้เหมาะสมกับการใช้งานด้านต่าง ๆ ในอนาคตต่อไป นายวาทิต  ภูสุวรรณ หรือน้องแน่น หัวหน้าทีม iRAP_Judy นักศึกษาคณะวิศวกรรมศาสตร์  มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าพระนครเหนือ กล่าวด้วยความภาคภูมิใจภายหลังได้รับชัยชนะว่า พวกเราทุ่มเทและเตรียมความพร้อมก่อนแข่งขันมากกว่า 6 เดือน โดยทีมงานได้แบ่งหน้าที่ความรับผิดชอบกันเป็นอย่างดี ทำให้สามารถทำงานภายในเวลาอันสั้นได้อย่างมีประสิทธิภาพ การแข่งขันครั้งนี้ไม่ได้มุ่งหวังชัยชนะเพียงอย่างเดียว สิ่งสำคัญคือ ประสบการณ์ที่หาไม่ได้ในห้องเรียน และความรู้เพิ่มเติมที่ได้จากการแลกเปลี่ยนกับทีมต่างชาติ  หลังจากนี้ก็จะมีรุ่นน้องมาสานต่อองค์ความรู้และพัฒนาสมรรถถนะหุ่นยนต์ให้ดีและมีความสมบูรณ์มากยิ่งขึ้น ด้าน นายกัญจนัศ แสนบุญศิริ ผู้รับผิดชอบบังคับหุ่นยนต์และงานเครื่องกล ทีม iRAP_Judy นักศึกษาคณะวิศวกรรมศาสตร์  มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าพระนครเหนือ  เล่าถึงความสำเร็จในครั้งนี้ว่า รู้สึกดีใจมากที่สามารถรักษาแชมป์โลกหุ่นยนต์กู้ภัยสมัยที่ 6 ให้กับประเทศไทยได้สำเร็จ จากผลงานในสามวันที่ผ่านมา ทีมเรามีคะแนนนำทิ้งห่างจากทีมอันดับที่สอง และทีมอื่น ๆ ค่อนข้างมากในทุกรอบ ทำให้ไม่เกิดความกดดันในการบังคับหุ่นยนต์เท่าใดนัก แต่ทีมเราก็ไม่ประมาท เราทุกคนในทีมมีความมุ่งมั่นตั้งใจ และพยายามอย่างสุดความสามารถเพื่อรักษาตำแหน่งแชมป์โลกหุ่นยนต์กู้ภัยสมัยที่ 6 ให้กับประเทศไทย พอเราทำได้สำเร็จก็รู้สึกดีใจและภูมิใจมาก ———————— World RoboCup เป็นการแข่งขันหุ่นยนต์ระดับโลก จัดขึ้นอย่างต่อเนื่องเป็นปีที่ 15 แบ่งการแข่งขันออกเป็น 4 ประเภท ได้แก่ ฟุตบอลหุ่นยนต์ (RoboCup Soccer) หุ่นยนต์กู้ภัย (RoboCup Rescue)  หุ่นยนต์ทำงานบ้าน (RoboCup@Home) และหุ่นยนต์ระดับเยาวชนอายุไม่เกิน 18 ปี (RoboCup Junior)  โดยปีนี้ การแข่งขัน World RoboCup 2011  จัดขึ้นระหว่างวันที่ 7 - 10 กรกฎาคม 2554  ที่เมืองอิสตันบูล ประเทศตุรกี  มีผู้สมัครเข้าแข่งขันรวมทุกประเภทกว่า 3,000 คน จาก 43 ประเทศทั่วโลก  และมีผู้เข้าแข่งขันในประเภทหุ่นยนต์กู้ภัย 17 ทีม  จาก 13 ประเทศ ทั่วโลก ได้แก่ ญี่ปุ่น เยอรมนี ออสเตรเลีย อิหร่าน จีน เม็กซิโก กรีซ อินเดีย ปากีสถาน สหรัฐอเมริกา อังกฤษ ตุรกี และไทย   โดยเอสซีจีสนับสนุน ทีม iRAP_Judy มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าพระนครเหนือ (แชมป์ประเทศไทย Thailand Rescue Robot Championship ปี 2553) เข้าร่วมการแข่งขัน  นอกจากนี้ ยังมีทีมเยาวชนไทยอีก 2 ทีมที่ส่งหุ่นยนต์เข้าร่วมการแข่งขันครั้งนี้ ได้แก่ ทีม SUCCESS จากมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลรัตนโกสินทร์ และ ทีม Stabilize จากมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลพระนคร Thailand Rescue Robot Championship โครงการแข่งขันหุ่นยนต์กู้ภัย เป็นหนึ่งในกิจกรรมเพื่อสังคม ที่เอสซีจีริเริ่มขึ้นเป็นครั้งแรกในประเทศไทย ตั้งแต่ปี 2547 มีเป้าหมายในการสนับสนุน และส่งเสริมให้เยาวชนไทยพัฒนาความรู้ทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี รวมถึงสร้างโอกาสให้เยาวชนได้แสดงออกซึ่งความสามารถด้านนวัตกรรมที่เป็นประโยชน์ต่อสังคมและประเทศชาติ ที่ผ่านมาเอสซีจีได้สนับสนุนทีมหุ่นยนต์กู้ภัยเข้าร่วมแข่งขันระดับโลกมาโดยตลอด และตัวแทนเยาวชนจากประเทศไทยสามารถคว้าแชมป์โลกหุ่นยนต์กู้ภัยมาได้ถึง 5 สมัยซ้อน ข้อมูลการศึกษาดีๆ จาก : http://www.siamrath.co.th
‘อภิสิทธิ์’แนะรัฐบาลใหม่ปฏิรูปการศึกษา
 นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี กล่าวปาฐกถาพิเศษในการประชุมประจำปี 2554 ของสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) เรื่อง “แผนฯ 11 สู่การพัฒนาที่ยั่งยืน” ว่า การจัดทำแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบับที่ 11 ผ่านการรับฟังความคิดเห็นของประชาชนทั้งประเทศ โดยใช้ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง เพื่อให้เกิดการพัฒนาที่ยั่งยืน แต่ยังมีปัญหาที่เป็นเรื่องท้าทายรัฐบาลใหม่และประเทศ ซึ่งต้องช่วยกันผลักดันให้แผนดังกล่าวประสบความสำเร็จ   สำหรับอุปสรรคดังกล่าว ประกอบด้วย การเตรียมพร้อมเข้าสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนในปี 2558 ซึ่งเศรษฐกิจไทยจะได้รับผลกระทบ และอาจมีผลต่อการพัฒนาเศรษฐกิจ รวมทั้งปัญหาการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ ซึ่งกระทบต่อขีดความสามารถด้านการผลิตสินค้าเกษตร   นอกจากนั้น สังคมไทยยังก้าวสู่สังคมผู้สูงอายุ โดยประชากรในวัยแรงงานลดลง และที่สำคัญคือ ปัญหาความเหลื่อมล้ำในสังคม ซึ่งต้องหาแนวทางแก้ไข โดยการสร้างความเท่าเทียมกัน ทั้งในเรื่องของรายได้และการศึกษา ซึ่งเป็นปัญหาที่ท้าทายการทำงานของรัฐบาลใหม่เป็นอย่างมาก โดยในอดีตการกระจายรายได้จะใช้วิธีจัดเก็บภาษีจากคนมีรายได้สูง เพื่อนำมาช่วยเหลือคนมีรายได้น้อย แต่ยังไม่เพียงพอ รวมทั้งปัญหาด้านการเมือง   “ในช่วง 5 ปีที่ผ่านมาภายใต้แผนฯ 10 ไทยประสบปัญหาการเมืองอย่างรุนแรง แต่ด้วยความแข็งแกร่งของเศรษฐกิจไทย จึงผ่านปัญหาเหล่านั้นมาได้ แต่ยังส่งผลกระทบต่อการพัฒนาด้านเศรษฐกิจทั้งในระยะกลาง และระยะยาว ส่วนในอีก 2 ปีข้างหน้าในการขับเคลื่อนแผนฯ 11 ควรเร่งสร้างโอกาสและพัฒนาคุณภาพของคนโดยการปฏิรูปการศึกษา โดยมีเป้าหมายเรื่องการพัฒนาคุณภาพของเยาวชน ซึ่งต้องเริ่มตั้งแต่สถาบันครอบครัว และผลักดันให้การศึกษาเชื่อมโยงกับเศรษฐกิจและสังคมได้อย่างกลมกลืน โดยเน้นพัฒนาเยาวชนให้มีทักษะที่สอดคล้องกับความต้องการของตลาดแรงงาน”นาย อภิสิทธิ์ กล่าว   อย่างไรก็ตาม หากในช่วง 5 ปีข้างหน้า การเมืองของไทยยังเป็นเหมือนในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา จะส่งผลกระทบให้แผนฯ 11 ไม่บรรลุเป้าหมาย ซึ่งหลังจากมีกระบวนการทางประชาธิปไตย ผมหวังว่าทุกอย่างจะเข้าสู่ระบบรัฐสภา ทุกฝ่ายต้องร่วมมือกันช่วยให้รัฐบาลใหม่สามารถทำงานได้อย่างมีเอกภาพและมี กำลัง เพื่อให้แผนฯ 11 บรรลุเป้าหมาย”นายอภิสิทธิ์ กล่าว
เผยไอคิวเด็กนักเรียนไทยเฉลี่ย98.59 ต่ำกว่ามาตรฐานสากล
 กรมสุขภาพจิต เผย ไอคิวเด็กนักเรียนไทย ต่ำกว่ามาตรฐานสากล เฉลี่ย 98.59 หลังทำการเก็บตัวอย่างกว่า 7 หมื่นคนทั่วประเทศ ถือเป็นการสำรวจครั้งใหญ่ที่สุดในโลก ค่าเฉลี่ยไอคิวระดับจังหวัดพบ นนทบุรีไอคิวสูงสุด ขณะที่ นราธิวาสไอคิวต่ำสุด ด้าน อีสาน 17 จังหวัดติดอันดับไอคิวต่ำกว่าปกติ พร้อมแนะ 7 วิธีพัฒนาสติปัญญาเด็กไทย เน้นการเลี้ยงดูเหมาะสมและการมีโภชนาการที่ดี   ที่กรมสุขภาพจิต เมื่อวันที่ 7 ก.ค. นพ.อภิชัย มงคล อธิบดีกรมสุขภาพจิต กระทรวงสาธารณสุข แถลงถึงผลสำรวจสถานการณ์ระดับสติปัญญา (ไอคิว) เด็กนักเรียนไทยทั่วประเทศ ว่า จากการสำรวจเด็กนักเรียนอายุ 6–15 ปี ที่กำลังศึกษาอยู่ในระดับประถมศึกษาปีที่ 1 – 6 และมัธยมศึกษาปีที่ 1 – 3 ในโรงเรียนสังกัดสำนักงานคณะกรรมการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชน สำนักงานคณะกรรมการอุดมศึกษา (สาธิตและราชภัฎ) และสังกัดกรุงเทพมหานคร ทั้ง 76 จังหวัดทั่วประเทศ จำนวน 72,780 คน ซึ่งเป็นการสำรวจไอคิวครั้งที่ใหญ่ที่สุดในโลกตามวิธีมาตรฐานสากล โดยใช้เครื่องมือเดียวกับของนานาประเทศ ได้แก่ แบบทดสอบสติปัญญา Standard Progressive Matrices (SPM parallel version; updated 2003) เก็บข้อมูลภาคสนาม โดย นักจิตวิทยาคลินิกและพยาบาลจิตเวช ในช่วงเดือน ธ.ค. 2553 – ม.ค. 2554 พบว่า เด็กนักเรียนไทยมีไอคิวเฉลี่ยเท่ากับ 98.59 ถือว่าเป็นค่าระดับสติปัญญาที่อยู่ในเกณฑ์ปกติแต่ค่อนไปทางต่ำ   นพ.อภิชัย กล่าวต่อว่า ค่ากลางของมาตรฐานสากลในปัจจุบันไอคิวเท่ากับ100 เมื่อดูลักษณะภาพรวมของประเทศพบว่า มีเด็กเกือบครึ่งหนึ่ง 48.5 % ที่มีปัญหาไอคิวอยู่ในเกณฑ์ต่ำ กว่า 100 ทั้งนี้มีเด็กที่มีไอคิวต่ำกว่าเกณฑ์ปกติ คือ ต่ำกว่า 90 ประมาณ 28 . 4% และมีนักเรียนที่มีความบกพร่องทางสติปัญญาต่ำกว่า 70 อยู่ถึง 6 . 5 % ซึ่งเมื่อเทียบกับมาตรฐานสากลไม่ควรเกิน 2% สรุปได้ว่า โดยภาพรวมไอคิวของเด็กนักเรียนไทยมีค่าเฉลี่ยต่ำกว่ามาตรฐานสากลและมีการ กระจายตัวในลักษณะที่มีเด็กนักเรียนที่มีไอคิวต่ำกว่าค่าปกติมากกว่ามาตรฐาน สากล และพบว่าเด็กที่ไอคิวต่ำก็จะต่ำมาก ในขณะเดียวกันเด็กนักเรียนที่มีไอคิวสูงก็จะมีแนวโน้มสูงมาก ส่วนค่าเฉลี่ยระดับสติปัญญาเมื่อเทียบตามภาคเมื่อเรียงลำดับจากมากไปน้อย ได้แก่ กรุงเทพมหานคร ไอคิว เฉลี่ย 104.5 ภาคกลางไอคิวเฉลี่ย 101.29 ภาคเหนือไอคิวเฉลี่ย100.11 ภาคใต้ไอคิวเฉลี่ย 96.85 และภาคตะวันออกเฉียงเหนือไอคิว เฉลี่ย 95.99   อธิบดีกรมสุขภาพจิต กล่าวด้วยว่า เมื่อพิจารณารายจังหวัด พบว่า จังหวัดที่มีไอคิวสูงกว่า 100 มีจำนวน 18 จังหวัด คือ นนทบุรีไอคิวเฉลี่ย 108.91 ระยอง 107.52 ลำปาง 106.62 กรุงเทพฯ 104.50 ชลบุรี 103.92 สมุทรสาคร 103.73 ตราด 103.51 ปทุมธานี 103.34 พะเยา 103.32 ประจวบคีรีขันธ์ 103.17 นครปฐม 103 . 09 ราชบี 102 . 72 สิงห์บุรี 102 . 67 ภูเก็ต 102 . 66 สมุทรสงคราม 102 . 48 นครสวรรค์ 102 . 29 แพร่ 101 . 83 เชียงใหม่ 101 . 35 สำหรับจ.นนทบุรีที่เด็กนักเรียนมีไอคิวเฉลี่ยสูงสุดนั้นน่าจะมาจากระบบการ ศึกษาในพื้นที่ที่ทางจังหวัดมีการทุ่มเทเรื่องนี้มาก และองค์ประกอบอื่นๆ ด้วย
เปิดรับทุนพัฒนาและส่งเสริมผู้มีความสามารถพิเศษจำนวนมาก
 สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (สสวท.) กระทรวงศึกษาธิการ เป็นหน่วยงานของรัฐซึ่งมีพันธกิจหลักในการพัฒนาและส่งเสริมผู้มีความสามารถ พิเศษทางด้านวิทยาศาสตร์ คณิตศาสตร์และเทคโนโลยี มีความประสงค์เปิดรับสมัครนักเรียนที่กำลังศึกษาในชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ปีการศึกษา 2554 เพื่อสอบคัดเลือกเข้าเป็นนักเรียนทุนพัฒนาและส่งเสริมผู้มีความสามารถพิเศษ ทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (ทุน พสวท.) ระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย  เข้าศึกษาต่อในโรงเรียนศูนย์ พสวท. ทั้ง 10 แห่ง ประจำปีการศึกษา 2555 จำนวน 100 คน รับสมัครตั้งแต่วันนี้ถึงวันที่ 30 กันยายน 2554 คุณสมบัติของผู้สมัคร 1.เป็นนักเรียนที่กำลังศึกษาอยู่ในชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 หรือเทียบเท่า ปีการศึกษา 2554 2.มีผลการเรียนดังนี้ 2.1ระดับคะแนนเฉลี่ยสะสมรวมทุกวิชาในชั้น ม.1 และ ม.2 ไม่ต่ำกว่า 3.00 2.2ระดับคะแนนเฉลี่ยสะสมรายวิชาวิทยาศาสตร์พื้นฐานในชั้น ม.1 และ ม.2ไม่ต่ำ3.00 2.3ระดับคะแนนเฉลี่ยสะสมรายวิชาคณิตศาสตร์พื้นฐานในชั้น ม.1 และ ม.2 ไม่ต่ำกว่า 3.00 3.  ในกรณีผู้สมัครขาดคุณสมบัติตามข้อ 2.1 ต้องได้รับรางวัลจากการประกวด หรือแข่งขันตามข้อใด ข้อหนึ่งดังนี้ 3.1การประกวดโครงงานวิทยาศาสตร์ระดับประเทศ 3.2การแข่งขันตอบปัญหาทางวิทยาศาสตร์ระดับประเทศ 3.3  การแข่งขันตอบปัญหาคณิตศาสตร์ระดับมัธยมศึกษาตอนต้น  ของสมาคมคณิตศาสตร์แห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ 3.4  เป็นนักเรียนที่ได้รับเหรียญรางวัลจากโครงการพัฒนาอัจฉริยภาพทางวิทยาศาสตร์ และคณิตศาสตร์ ของ สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (สสวท.) 4.มีสัญชาติไทยและมีเลขประจำตัวประชาชน 5.ไม่เป็นโรคติดต่อหรือโรคร้ายแรงซึ่งเป็นอุปสรรคต่อการศึกษา 6.มีความขยันหมั่นเพียร มีความประพฤติดีและมีบุคลิกภาพเหมาะสม 7.มีความตั้งใจเข้ารับพัฒนาและส่งเสริมผู้มีความสามารถพิเศษทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (ทุน พสวท.) หลักฐานการสมัคร 1.ไฟล์รูปถ่ายชุดนักเรียนครึ่งตัว หน้าตรง ไม่สวมหมวก ไม่สวมแว่นตาดำ ความละเอียดไม่น้อยกว่า 300dpi 2.ค่าธรรมเนียมการสมัครสอบคนละ 200 บาท 3.ใบแสดงผลการเรียนในชั้น ม.1 และ ม.2  เอกสาร ปพ.1 ตัวจริง  หรือสำเนาที่ลงนามรับรองสำเนาเรียบร้อย 4.สำเนาหลักฐานอื่นๆ เช่นประกาศเกียรติบัตรรางวัลตามคุณสมบัติของผู้สมัครในข้อ 3 ติดต่อสอบถามข้อมูลและขอรับใบสมัครได้ที่ -โรงเรียนที่นักเรียนกำลังศึกษาอยู่ -สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา ทั้ง 42 เขตพื้นที่ -โรงเรียนศูนย์รับสมัครและดำเนินการสอบทุน พสวท. ของแต่ละจังหวัด สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (สสวท.) โทรศัพท์ 0-2392- 4021 ต่อ 2310, 2314 และ 2316 หรือ http://www.ipst.ac.th/
ทุนปริญญาโท-เอก JGSEE ทางด้านพลังงานและสิ่งแวดล้อม
 เรียนต่อ โท-เอก หลักสูตรนานาชาติ ด้านพลังงานและสิ่งแวดล้อม เพื่อแก้ปัญหาวิกฤตพลังงานและภาวะโลกร้อน มีทุนการศึกษาและทุนสนับสนุนการวิจัยให้ บัณฑิตวิทยาลัยร่วมด้านพลังงานและสิ่งแวดล้อม (JGSEE) เป็นโครงการความร่วมมือระหว่าง 5 สถาบันอุดมศึกษาชั้นนำของไทย คือ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าพระนครเหนือ และสถาบันเทคโนโลยีนานาชาติสิรินทรแห่งมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ เพื่อทำงานวิจัยและสร้างบุคลากรระดับบัณฑิตศึกษาทางด้านพลังงานและสิ่งแวด ล้อม เพื่อสนองตอบต่อความต้องการของประเทศ ในสภาวะวิกฤตพลังงานและภาวะโลกร้อน ขณะนี้กำลังเปิดรับสมัครนักศึกษาในระดับปริญญาโทและปริญญาเอก หลักสูตรนานาชาติ ดังต่อไปนี้ Master of Science (MSc), Master of Engineering (MEng),  Master of Philosophy (MPhil), Doctor of Philosophy (PhD) “เปิดรับสมัคร 2 รอบ -รอบแรก ถึงวันที่ 31 มีนาคม -รอบสอง ถึงวันที่ 30 กันยายน ของทุกปี“ โดยมีสาขาที่เปิดสอนดังนี้ - สาขาวิชาเทคโนโลยีพลังงาน - สาขาวิชาเทคโนโลยีและการจัดการพลังงาน - สาขาวิชาเทคโนโลยีสิ่งแวดล้อม - สาขาวิชาเทคโนโลยีและการจัดการสิ่งแวดล้อม ใน ภาคการศึกษาแรกเรียนวิชาบรรยาย (Course work) ที่มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี ภาคการศึกษาต่อไปสามารถเลือกทำวิทยานิพนธ์ได้ที่มหาวิทยาลัยร่วมโครงการทั้ง 5 แห่ง มีทุนการศึกษาให้สำหรับคนที่มีคุณสมบัติเหมาะสม 2 ประเภท ดังนี้ 1. ทุนประเภทที่ 1  ให้ทุนค่าเล่าเรียนให้ทั้งหมด ค่าหน่วยกิตหน่วยกิตๆละ 3,000 บาท ค่าบำรุงการศึกษา 30,000 บาท และมีค่าใช้จ่ายรายเดือน เดือนละ 8, 000 บาท 2. ทุนประเภทที่ 2  ให้ทุนเฉพาะค่าเล่าเรียนทั้งหมด ค่าหน่วยกิตหน่วยกิตๆละ 3,000 บาท ค่าบำรุงการศึกษา 30,000 บาท ไม่มีค่าใช้จ่ายรายเดือน โดยนักศึกษาที่ได้รับการคัดเลือกจะมีทุนการทำวิจัยระหว่างเรียนให้ด้วย สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ ฝ่ายการศึกษา JGSEE โทร.0-2470-8309-10 ต่อ 4115 ในเวลาราชการ หรือ www.jgsee.kmutt.ac.th  e-mail: academic@jgsee.kmutt.ac.th  
มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ ให้ทุนการศึกษาในโครงการช้างเผือก
 มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ กำลังเปิดรับตรงโดยไม่ต้องสอบข้อเขียนสำหรับนักเรียนที่สนใจและเป็นกลุ่มนักเรียนผลการเรียนดีเด่นในภาคใต้ โครงการกลุ่มนักศึกษาช้างเผือก เรียนต่อปริญญาตรี คณะแพทยศาสตร์ประจำปีการศึกษา  2555 คุณสมบัติของผู้สมัคร 1.กำลังศึกษาอยู่ในชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 ในโรงเรียนที่จัดการเรียนการสอนตามหลักสูตรการศึกษาขั้นพื้นฐาน พ.ศ.2551 มีผลการเรียนอยู่ในอันดับที่ 1-10 ของโรงเรียน 2.ผู้สมัครเข้าศึกษาต้องมีสุขภาพแข็งแรง ปราศจากโรค อาการของโรค หรือมีความพิการอื่นอันเป็นอุปสรรคต่อการศึกษา ในวิชาชีพแพทย์ 3.มีความประพฤติเรียบร้อย 4.คุณสมบัติอื่น ๆ ที่สอดคล้องตามระเบียบการสอบคัดเลือกนักเรียนในภาคใต้เข้าศึกษาในมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ โดยวิธีรับตรง และระเบียบการรับนักศึกษาเข้าศึกษาในมหาวิทยาลัยตามโครงการพิเศษ 5.เป็นนักเรียนในโรงเรียน ดังต่อไปนี้ โรงเรียนหาดใหญ่วิทยาลัย โรงเรียนภูเก็ตวิทยาลัย โรงเรียนเบญจมราชูทิศ นครศรีธรรมราช โรงเรียนสุราษฎร์ธานี โรงเรียนสาธิตมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตปัตตานี โรงเรียนจุฬาภรณราชวิทยาลัย ตรัง โรงเรียนบูรณะรำลึก โรงเรียนมอ.วิทยานุสรณ์  โรงเรียนมหาวชิราวุธ สงขลา หลักฐานการสมัคร 1.ใบสมัคร ตามแบบฟอร์มของคณะแพทยศาสตร์ ดาวน์โหลดได้ที่ www.medaf.psu.ac.th 2.สำเนาระเบียนผลการศึกษา(ปพ.1)ของชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 และ 5 รวม 4 ภาคการศึกษาพร้อมรับรองสำเนาถูกต้องโดยผู้บริหารสถานศึกษา3.สำเนาบัตรประจำตัวประชาชน หรือบัตรประจำตัวนักเรียน พร้อมรับรองสำเนา 4.สำเนาทะเบียนบ้านของผู้สมัครพร้อมรับรองสำเนา 5.ใบรับรองความประพฤติจากสถานศึกษา 6.เอกสารอื่น ๆ ที่แสดงความสามารถทางด้านวิชาการ ทุนที่มอบให้มีดังนี้ 1.จะได้รับการยกเว้นค่าธรรมเนียมการศึกษา ตลอดการศึกษา เป็นเวลา 6 ปีจำนวนเงินทั้งสิ้น 276,000 บาท 2.จะได้รับการยกเว้นค่าหอพักนักศึกษาแพทย์ ตลอดการศึกษา เป็นเวลา 6 ปี จำนวนเงิน 24,000 บาท 3.ได้ยกเว้นค่าเข่าคอมพิวเตอร์พกพาฟรี 4.ระหว่างการศึกษา หากนักศึกษามีปัญหาเรื่องค่าใช้จ่ายส่วนบุคคล ทางคณะแพทยศาสตร์จะพิจารณาเรื่องทุนการศึกษา เป็นกรณีพิเศษ การรับสมัคร นักเรียนที่มีคุณสมบัติครบสนใจยื่นใบสมัครได้ที่โรงเรียนที่ตนเองสังกัด หมดเขตกรกฎาคม 2554
สมัครด่วน! โครงการ 1 หมู่บ้าน 1 ทุนการศึกษา
 ทุนการศึกษาจากโครงการ 1 หมู่บ้าน 1 ทุนการศึกษาสำหรับผู้ที่ขาดแคลนและด้อยโอกาส ประจำปี 2554 โดยทางโรงเรียนฝึกพนักงานโรงพยาบาลกล้วยน้ำไท คัดเรียนในหลักสูตรวิชาพนักงานโรงพยาบาล ระยะเวลาศึกษา 1 ปี เปิดรับสมัครตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป คุณสมบัติ 1.อายุระหว่าง 17-35 ปีไม่จำกัดเพศ 2.ไม่จำกัดสถานภาพ(หญิงต้องไม่ตั้งครรภ์ในระหว่างศึกษา) 3.สำเร็จการศึกษาชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 หรือเทียบเท่า 4.มีสุขภาพร่างกายแข็งแรง ไม่เป็นโรคที่เป็นอุปสรรคต่อการศึกษา 5.มีความประพฤติดี รักการบริการและช่วยเหลือผู้อื่น 6.น้ำหนักไม่น้อยกว่า 40 กิโลกรัม ส่วนสูงไม่ต่ำกว่า 150 เซนติเมตร หลักฐานการสมัคร 1.สำเนาวุฒิการศึกษา จำนวน 3 ฉบับ 2.สำเนาบัตรประจำตัวประชาชน จำนวน 3 ฉบับ 3.สำเนาทะเบียนบ้าน จำนวน 3 ฉบับ 4.รูปถ่ายปัจจุบันขนาด 1 นิ้ว จำนวน 3 รูป(ชุดสุภาพ) 5.หลักฐานการเปลี่ยนชื่อ-นามสกุล(ถ้ามี) จำนวน 3 ฉบับ 6.ทะเบียนสมรส (ถ้ามี) จำนวน 1 ฉบับ การคัดเลือก - สัมภาษณ์ - ตรวจร่างกาย สิ่งที่ได้รับ การศึกษา 1 ปี หลังสำเร็จการศึกษามีงานทำทันที ระหว่างศึกษาฟรีอาหาร ที่พัก ค่าเล่าเรียน ค่าซักเสื้อผ้า หลังสำเร็จการศึกษาและมีงานทำแล้วจึงดำเนินการใช้ทุนคืน โดยสามารถทะยอยผ่อนชำระได้ในระยะเวลา 2 ปีไม่มีดอกเบี้ย สนใจสมัครสอบถามได้ที่ โทรศัพท์ 0-2769-2000 ต่อ 7301-4 อีเมล์ wattana@kluaynamthai.com
<< 20 21 22 23 24 25 26 27
รับข่าวสารและโปรโมชั่น
Username
Password
สมัครสมาชิก | ลืมรหัสผ่าน
 


agent ศึกษาต่อต่างประเทศ เรียนต่อนอก ทุนการศึกษา

agent ศึกษาต่อต่างประเทศ เรียนต่อนอก ทุนการศึกษา

เอเจนท์ศึกษาต่อต่างประเทศ เรียนต่อ ทุนการศึกษา