หน้าแรก เกี่ยวกับเรา ข้อมูลประเทศที่น่ารู้ สถาบันเอเจนย์ ข่าวและกิจกรรม ทุนการศึกษา บความน่ารู้ แลกเปลี่ยนประสบการณ์
เว็บไซต์เพื่อการศึกษาต่อต่างประเทศ ทุนการศึกษาต่อต่างประเทศ เรียนต่างประเทศ
สนใจเรียน IELTS, TOEIC คลิ๊กเลย
 
ค้นหากระทู้
 
บริการรับออกแบบเว็บไซต์ studywiz cp international
เริ่มโดย หัวข้อ

  Email
ประสบการณ์สมัครเรียนต่อ สหัฐอเมริกา

ก่อนอื่นต้องขอเกริ่นนำเกี่ยวกับที่มาที่ไปก่อนนะครับ คือเมื่อปีที่แล้วผม “บังเอิญ” ได้ทุนให้ไปเรียนต่อที่อเมริกา เพราะความ “บังเอิญ” นี่เอง ทำให้ค่อนข้างเป็นปัญหา เพราะแค่จะเรียนต่อในประเทศยังเป็นแค่ “แผน” อยู่เลย ไม่ต้องพูดถึงไปต่างประเทศไม่เคยคิดไว้มาก่อน แต่เมื่อได้มาแล้ว ก็ต้องมาเริ่มคิดว่าจะทำอย่างไรดี ผมไม่เคยมีข้อมูลเกี่ยวกับเรื่องเลย ก็อาศัย internet นี่แหละที่ช่วยได้มากทีเดียว โดยเฉพาะห้องนี้ ผมได้คำแนะนำที่เป็นประโยชน์มากมาย (แต่กระจัดกระจายกันเป็นหัวข้อ ๆ ไป) ตอนนี้ผมผ่านกระบวนการต่าง ๆ มาเกือบครบสมบูรณ์แล้ว(เหลือแต่ ขอ visa และก็เดินทางไปเรียน) ผมคิดว่ายังมีบางคน ที่อาจจะ “บังเอิญ” เหมือนผม หรือมีความคิดที่จะไปเรียนอยู่แล้ว แต่ไม่มีข้อมูลอะไรเลย ผมก็ตั้งใจว่า จะเล่าประสบการณ์ที่ผ่านมาของผม เผื่อจะเป็นประโยชน์บ้างไม่มากก็น้อย (แต่จะดีมาก ถ้าหากคนอื่น ๆ จะเข้ามาช่วยแบ่งปันประสบการณ์ของตนเอง เพื่อเป็นประโยชน์ต่อไป) ผมจะแบ่งออกเป็นตอน ๆ ตั้งแต่การหา U ที่จะสมัคร การเตรียมความพร้อมก่อนสมัคร การสอบต่าง ๆ จนถึงการสมัคร ซึ่งจะเริ่มในกระทู้ต่อไป


หมายเหตุ ผมสมัคร Graduate school ทางด้าน Science นะครับ ถ้าทางด้านอื่น ให้คน ข้างล่างมาต่อเติมให้ครับ

จากคุณ : neo Pantip


 
ความคิดเห็น 1 โดยคุณ โพสต์เมื่อ 28 พ.ย. 54 15:09:16 

  Email

ตอนที่ 1 การหาข้อมูล U ที่จะสมัคร
ผมใช้ internet ให้เป็นประโยชน์มากที่สุด โดยการ search หารายชื่อ U ต่าง ๆ เวบไซต์ ที่ผมใช้เป็น reference มากที่สุด คือ ของ USnews ซึ่งจะมี ranking ของ U ต่าง ๆ ให้ นอกจากนี้ผมยังตรวจสอบเปรียบเทียบกับ เวบไซต์อื่น ๆ เพิ่มเติมด้วย
รายชื่อเวบไซต์ที่ผมใช้ก็คือ
http://www.usnews.com/usnews/edu/college/rankings/brief/natudoc/tier1/t1natudoc_brief.php
http://www.princetonreview.com/college/research/rankings/rankingsBest357.asp
http://ed.sjtu.edu.cn/rank/2004/Top%20100%20North%20&%20Latin%20American%20Universities.htm
http://www.petersons.com/
ฯลฯ ครับ search ได้จาก google - university ranking

พอได้รายชื่อ U แล้ว ก็เข้าเวบไซต์ ของ U ที่เราสนใจ ซึ่งจะหาข้อมูลได้จากหัวข้อ Admission หรือ Perspective Student หรือ Future Student หรือ Applying to Our School เป็นต้น แล้วเลือก Graduate admission เข้าไปดูรายละเอียดต่าง ๆ เกี่ยวกับ program ที่เราสนใจ requirement (ซึ่งหลัก ๆ แล้ว เค้าจะเอา เกรดเฉลี่ย 3.00 (หรือก็คิดเฉพาะ 2 ปีสุดท้ายของการเรียน- ปี 3 และ ปี 4) transcript คะแนน TOEFL (ส่วนมาก เอา 550 หรือ 213) GRE Recommendation letters(ส่วนมาก 3 ฉบับ) Financial statement Statement of purpose ) รายละเอียดเกี่ยวกับ deadline ของการรับสมัคร (จะมีตั้งแต่ ปลาย Dec จนถึง ปลาย Apr แล้วแต่ U ) และควรจะเข้าไปดูรายละเอียดที่ Department ที่เราจะสมัครด้วย เข้าไปและเลือกหัวข้อ Graduate study (ซึ่งแต่ละ U ก็จะให้ข้อมูลที่แตกต่างกัน บาง U ก็ละเอียดมาก บาง U ก็แทบไม่มีอะไรเลย) ถ้าเจอหัวข้อ registration for information ก็กรอกข้อมูลสมัครไปเลย เค้าจะส่ง information พร้อมใบสมัคร มาให้ทางจดหมาย (บาง U ก็ตอบมาทางอีเมล)

เมื่อได้ข้อมูลพอสมควรแล้ว ก็ตัดสินใจว่าจะเลือกสมัคร U ไหนบ้าง ซึ่งเกณฑ์ในการตัดสินใจ ก็แต่นะครับ (ของผม ดู Profile ของตัวเอง ดูความเป็นไปได้ ผสมความทะเยอทะยานนิดหน่อย ก็เลือก U แบบ กลาง ๆ ลงมาครับ ไม่อาจเอื้อม U ranking สูง ๆ ครับ) ก็ เลือกมาซัก 5 - 6 U ครับ (บางคนก็สมัครน้อยกว่านี้ บางคนก็มากกว่านี้ครับ แล้วแต่กำลังทรัพย์ ของผมเองมากว่านี้ครับเพื่อความชัวร์ )

พอตัดสินใจเลือกได้แล้ว ก็ กลับเข้าไปดู requirement ให้ละเอียดอีกครั้ง โดยเฉพาะ deadline และก็วางแผนการสมัครต่อไป

จากคุณ : neo

 
 
ความคิดเห็น 2 โดยคุณ โพสต์เมื่อ 28 พ.ย. 54 15:10:06 

  Email

ตอนที่ 2 เตรียมความพร้อมก่อนสมัคร

เนื่องจากผมตั้งใจสมัครไปเทอม Fall เพราะฉะนั้น ต้องเตรียมเอกสาร คะแนนสอบต่าง ๆ ให้เสร็จสิ้นก่อนเดือน Nov ขอแยกรายละเอียดดังนี้ครับ
1. การสอบ TOEFL ( ส่วนตัวผมคิดว่า คะแนน TOEFL สำคัญมาก ๆ ต่อการไปเรียนต่ออเมริกาครับ เพราะผมเคยเห็นเพื่อนคนหนึ่ง ได้ทุน ก.พ. แต่ไม่ได้ไป เพราะสอบ TOEFL ไม่ผ่านซักที)
เนื่อง ภาษาอังกฤษของผมค่อนข้างจะดีเอามาก ๆ ในทางมั่ว ก็เลยต้องทำยังไงก็ได้ให้สอบให้ผ่านให้ได้ ก็เลยไปเรียน TOEFL 6 เดือน ตั้งแต่ พ.ค. - ก.ย. เพื่อจะได้สอบทันเดือน ต.ค. หรือ พ.ย. (เผื่อเวลาไว้สำหรับสอบ GRE ด้วย)
ในช่วงนี้ผมก็ฝึกทำข้อสอบ จาก CD (ผมใช้ CD ของคุณ panda party ครับ ดีมาก) ผมเริ่มทำmodel test ของ Longman ก่อน(ง่ายสุด) ต่อด้วยของ Barron จากนั้นก็เป็นของ Cambridge และสุดท้ายก็ ทำของ ETS ( ข้อสอบจริงรูปแบบเหมือนเปี๊ยบเลยครับ )
ผมเปรียบการสอบ TOEFL เหมือนการไปรบที่ต้องชนะอย่างเดียวครับ ถ้าไม่เห็นสนามรบมาก่อน ไม่รู้กำลังข้าศึก ไม่รู้กำลังตัวเอง ก็ไม่รู้ว่าจะรบชนะได้อย่างไร ก็เลยเสี่ยงไปทดลองสอบดูก่อนรอบหนึ่ง เผื่อฟลุ๊กผ่านขึ้นมาจะได้ไม่เสียเวลา เพราะฉะนั้นก็เลยไปสอบแบบไม่ค่อยเครียด ผลที่ออกมาก็เกือบผ่าน (การสอบครั้งนี้ทำให้ผมรู้ว่าตัวชี้ผ่านไม่ผ่านนี้มาจาก คะแนน Part writing essay ครับ) ทำให้จากนั้นมาผมก็ฝึกเขียน โดยใช้ หนังสือ writing ของ Barron ช่วยครับ จนสอบครั้งที่ 2 ก็ผ่านด้วยดี (ใคร ๆ ที่กำลังจะสอบก็ขอให้โชคดีนะครับ ป.ล. เค้าว่ากันว่าข้อสอบ TOEFL ช่วงเดือน ต.ค. - ธ.ค. จะยากเป็นพิเศษครับ เพราะคนสอบกันเยอะ พยายามเลี่ยงช่วงนี้นะครับ)
มาถึงการสมัครสอบบ้าง สามารถทำได้ 3 วิธีครับ ซึ่งผมใช้มาแล้วทั้ง 3 แบบ
- การสมัครทางจดหมาย ซึ่งจะหาใบสมัครได้จาก
www.toefl.org หรือ ไปขอใบสมัครได้จากอาคารมณียา ชั้น 6 (ตรงสถานีรถไฟฟ้าชิดลม) ในการกรอกใบสมัครให้เลือกวันสอบนับจากวันส่งจดหมายไปซัก 2 อาทิตย์ ครับ จะเลือกได้ 5 วัน แล้วแต่ความสะดวก(เลือกได้จันทร์ - ศุกร์ เว้นวันพุธครับ) การจ่ายเงิน ผมใช้วิธี ซื้อ draft ครับ ซื้อได้จากธนาคารอะไรก็ได้ เสียค่าธรรมเนียมเพิ่ม 200 บาท จากนั้นก็ส่งใบสมัคร พร้อม draft ไปตามที่อยู่ที่แนบมา (ส่งไปที่มาเลเซียนะครับ) ประมาณ 7 วัน ก็จะมีอีเมลยืนยัน วันเวลาสอบครับ หลังนั้นอีกประมาณ 1 อาทิตย์ ก็ได้รับ CD ตัวอย่างข้อสอบจาก ETS ส่งมาให้ครับ
วันสอบ ก็เตรียม passport หรือ บัตรประชาชน และใบขับขี่ หรือบัตรที่ติดรูปเราไปแสดงก่อนเข้าห้องสอบครับ

- การสมัครทางโทรศัพท์ โดยโทรไปที่ศูนย์รับสมัครที่มาเลเซียครับ( เบอร์ก็ขอได้จากอาคาร์มณียา ชั้น 6 หรือ search เอานะครับ ผมจำไม่ได้แล้ว) โทรไปก็ไม่ยากครับ เค้าจะพูดภาษาอังกฤษแบบง่าย ๆ ถามข้อมูลต่าง ๆ เราก็บอกไป ส่วนการจ่ายเงิน ทำได้ 2 แบบ คือ จ่ายโดยใช้บัตรเครดิต หรือ ใช้ TOEFL Voucher (ผมใช้แบบนี้ครับ) โดยจะต้องกรอกแบบฟอร์มสมัครใช้ Voucher ก่อน พร้อมส่ง draft ไปที่ ETS เลย แล้วเราจะได้รับ code ไว้ใช้จ่ายตอนสมัคร (การใช้ Voucher นี้ดีสำหรับคนที่ไม่มี บัตรเครดิต แต่ต้องการสมัครเร็ว ๆ เพราะสามารถโทรไปสมัครได้ ซึ่งเร็วกว่าการสมัครทางจดหมาย แต่ต้องเตรียม voucher ไว้ล่วงหน้าก่อนนะครับ) การสมัครแบบนี้สามารถเลือกวันได้เลย แล้วเค้าจะส่งอีเมลยืนยันกลับมาทันที (ก็โทรโดยใช้มือถือครับ เสียค่าโทรประมาณ 150 บาท โทรคุยประมาณ 15นาทีครับ)

- การสมัครทาง internet (ง่ายที่สุดครับ) เข้าไปที่ www.prometric.com เลือกเข้าไปที่ Test takers และเลือก Schedule a test แล้ว ก็เลือกตามหัวข้อที่ต้องการสอบ การจ่ายเงินต้องจ่ายโดยบัตรเครดิตครับ (ไม่แน่ใจว่า ใช้ Voucher ได้หรือเปล่า) หลังจากสมัครเสร็จ ก็จะมีอีเมลยืนยันกลับมาทันทีครับ

หลังจากไปสอบแล้วประมาณ 2 อาทิตย์ คะแนนก็จะส่งมาให้ถึงบ้านเลยครับ

2. การสอบ GRE (Gen Test) (ถ้าสมัคร MBA ก็ต้องสอบ Gmat ครับ ผมไม่ทราบรายละเอียดนะครับ)
U ส่วนใหญ่ในอเมริกา จะ require GRE (Gen Test) ซึ่งก็ควรสอบให้เสร็จภายในเดือน Oct หรือ Nov ครับ (ถ้าจะสมัครเทอม Fall) สามารถดูข้อมูล GRE ได้จาก
www.gre.org ครับ
การสมัครทำได้แบบเดียวกับ การสมัครสอบ Toefl ครับ ติดต่อได้ที่ อาคารมณียา ชั้น 6 เช่นกัน
การเตรียมตัวสอบ ผมทำ model test ของ Princeton review Barron และ ของ ETS ครับ
หลังจากสอบไปแล้วประมาณ 2 อาทิตย์ เค้าก็จะส่งคะแนนมาให้ครับ

3. การสอบ GRE ( Sub Test)
U ดีๆ ส่วนมาก จะ require GRE (Sub Test) ด้วยครับ ผมก็เลยจำเป็นต้องสอบด้วย ข้อสอบจะเป็นแบบ Paper เท่านั้นครับ การสมัครทำได้อย่างเดียวคือทางจดหมาย ใช้แบบฟอร์มที่อยู่ในเล่ม GRE (Gen Test) นั่นแหล่ะครับ แต่เป็นใบสมัครที่ขอสอบแบบ paper และต้องส่งใบสมัครไปที่ ETS โดยตรง ที่มาเลเซียไม่รับนะครับ ตารางการสอบก็มีจำกัดครับ( ที่ผมทราบตั้งแต่เดือน ต.ค.- ม.ค. มีสอบ 3 ครั้งเอง เดือนละครั้ง) เพราะฉะนั้นต้องเลือกวันสอบให้ดี ๆ และต้องส่งใบสมัครล่วงหน้าอย่างน้อย 1 เดือนครับ สถานที่สอบให้กทม.มี 2 ที่ครับ เลือกตามสะดวก จะใช้เวลา 6 อาทิตย์ครับกว่าจะได้คะแนน (เพราะฉะนั้นควรสอบอย่างช้าในเดือน พ.ย. ครับ หรือ ธ.ค. ก็ได้ แต่จะสมัคร U ที่มี deadline ปลาย ธ.ค. ไม่ได้ครับ U ดัง ๆ ทั้งนั้น)
ข้อสอบเก่า ๆ หาได้จาก
www.ETS.org ครับ พอเราสมัครแล้วเค้าก็จะส่งข้อสอบเก่ามาให้ทำด้วยครับ

จากคุณ : neo

 
 
ความคิดเห็น 3 โดยคุณ โพสต์เมื่อ 28 พ.ย. 54 15:10:50 

  Email

ตอน 2 (ต่อ) เตรียมเอกสารอื่น ๆ
- Transcript ต้องใช้ Transcript ตัวจริงที่ส่งตรงจากสำนักทะเบียนฯ ของ มหาลัยที่เราจบมา (ติดต่อรายละเอียดได้ตามสำนักทะเบียนฯ มหาลัยที่จบมานะครับ)
- Recommendation letters (ส่วนใหญ่ต้องใช้ 3 ฉบับครับ) โดยใช้แบบฟอร์ม ที่แต่ละ U กำหนดให้ครับ สามารถ download ได้จาก web ของ U ที่เราจะสมัครครับ (หัวข้อมันไม่เหมือนกันครับ แต่ละ U จะตั้งหัวข้อต่างกัน อันนี้หาเอาเองนะครับ)
- Statement of Purpose ก็เขียน essay ประมาณ 1 หน้ากระดาษ A4 ครับ รายละเอียดก็ประมาณว่า เราเป็นใคร มาจากไหน ต้องการเรียนอะไร เพื่ออะไร มีแผนอะไรต่อไป ฯลฯ บาง U เค้าจะมีหัวข้อให้ด้วยครับ (ผมใช้แบบเดียวกันกับทุก U ครับ)
- Financial Statement ของผม ก.พ. ออกให้ ครับ เลยไม่มีปัญหา (แต่แบบที่ต้องใช้ statement ของตัวเอง ให้คนข้างล่างมาตอบนะครับ)

จากคุณ : neo

 
 
ความคิดเห็น 4 โดยคุณ โพสต์เมื่อ 28 พ.ย. 54 15:11:22 

  Email

 

ตอนที่ 3 การสมัคร

เมื่อเราเลือก U ที่จะสมัครได้แล้ว และ เตรียมเอกสารพร้อมแล้ว ก็ถึงเวลาสมัครครับ ซึ่งทำได้ 2แบบ คือ สมัครทางจดหมาย และสมัคร on-line (ผมเลือกแบบนี้ครับสะดวกดี)
ทุก U จะมี web ให้สมัคร on-line ครับ แต่ละ U ก็จะไม่เหมือนกัน เวลาสมัครก็กรอกรายละเอียดให้ครบ ตามแบบฟอร์มครับ จ่ายเงินโดยบัตรเครดิต พอสมัครเสร็จ ก็จะมีอีเมลยืนยันการสมัคร และ การรับเงินค่าสมัครครับ

หลังจากนั้น (หรืออาจจะก่อนหน้าสมัครก็ได้) ให้ส่งเอกสารที่เหลือไปให้เค้าครับ
หลักฐานพวก Transcript สำนักทะเบียนเค้าจะส่งให้เราเอง (ต้องไปขอให้เค้าส่งให้ก่อนนะ)
TOEFL GRE ETS ก็จะส่งให้ตามที่เราแจ้งไปตอนสอบเสร็จครับ ถ้าไม่พอก็สามารถกรอกแบบฟอร์ม ขอเพิ่มไปได้ครับ(เสียเงินเพิ่มไปอีก)
ส่วนเอกสารที่เหลือ U ส่วนมากจะให้แยกส่งไป 2 ที่ครับ (แต่ละ U จะไม่เหมือนกัน ต้องหาข้อมูลเอาเองครับ)
Recommendation letters และ Statement of Purpose (บางทีเค้าจะเอา copy ของ transcript ด้วย) จะส่งไปที่ Department ที่เราสมัคร
ส่วน Financial Statement ให้ส่งไปที่ Admission office

หลังจากสมัครเสร็จแล้ว ก็รอผลครับ ซึ่งผมก็กำลังอยู่ในช่วงนี้อยู่
บาง U เค้าจะมี web สำหรับตรวจสอบสถานะ ได้ครับ (Status Check)
บางทีเค้าก็จะส่งอีเมลมาบอกว่ารับหรือไม่รับ บางทีก็เป็นจดหมายครับ
ตอนนี้ผมก็ได้รับทั้ง อีเมลตอบรับ Status Check rejected อีเมลตอบรับ บ้างแล้ว ก็ต้องรอต่อไป ส่วนขั้นตอนต่อไป ก็คือ ไปทำ Visa และก็เดินทางไปเรียนครับ (ซึ่งยังไม่ได้ทำ เลยไม่รู้จะอธิบายยังไง)

หวังว่าข้อมูลที่ผมนำเสนอนี้พอจะเป็นประโยชน์ได้บ้างนะครับ หากใครมีประสบการณ์ที่จะเข้ามาร่วมแบ่งปัน ก็จะดีมากเลย ไว้เป็นข้อมูลชี้แนวทางสำหรับคนที่ยังไม่รู้ต่อไปครับ ถ้ามีข้อมูลเกี่ยวกับประเทศอื่น ๆ นอกเหนือจากอเมริกาก็จะยิ่งดีครับ

จากคุณ : neo

 
 
1
 
{{ สถิติการใช้งาน }}
สถิติการใช้งานเว็บบอร์ด
หัวข้อ: 2, กระทู้: 130 สมาชิก: 98 สมาชิกที่ใช้งานอยู่: 0
ยินดีต้อนรับ คุณ dreamabroad เป็นสมาชิกคนล่าสุด
สมาชิกที่กำลังออนไลน์
 
 
รับข่าวสารและโปรโมชั่น
Username
Password
สมัครสมาชิก | ลืมรหัสผ่าน
 


agent ศึกษาต่อต่างประเทศ เรียนต่อนอก ทุนการศึกษา

agent ศึกษาต่อต่างประเทศ เรียนต่อนอก ทุนการศึกษา

เอเจนท์ศึกษาต่อต่างประเทศ เรียนต่อ ทุนการศึกษา