เมื่อเวลา 14.00 น. วันที่ 26 ต.ค.2554 น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เดินทางไปที่ท่าราชวรดิฐ เพื่อตรวจสถานการณ์และปริมาณน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยา รวมถึงการป้องกันน้ำท่วมบริเวณพระบรมมหาราชวังและพื้นที่ใกล้เคียง โดยมีพล.อ.ยุทธศักดิ์ ศศิประภา รมว.กลาโหม พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผบ.ทบ. พล.ท.อุดมเดช สีตบุตร แม่ทัพภาคที่ 1 ร่วมตรวจเยี่ยม ขณะที่นายรัตนาวุธ วัชโรทัย กรมวัง เป็นผู้กล่าวบรรยายถึงการป้องกันปัญหาน้ำท่วมในพื้นที่ดังกล่าว
นายรัตนาวุธ กล่าวว่า เรื่องของระบบไฟฟ้าในบริเวณพระบรมมหาราชวัง ไม่น่าเป็นห่วง ซึ่งมีการไฟฟ้านครหลวง(กฟน.)ดูแลเป็นพิเศษอยู่แล้ว โดยตามปกติเมื่อเกิดปัญหาไฟฟ้าสะดุดก็มีไฟสำรองอยู่แล้ว ขณะเดียวกัน ผบ.ทบ.ได้เตรียมกำลังสารวัตรทหาร(สห.)เข้าไปตรวจดูบริเวณลานไฟฟ้าและประปาที่จะใช้ในวัง อย่างไรก็ตามการที่น้ำจากแม่น้ำเจ้าพระยาหนุนสูงขึ้นมากนั้นเกิดทุกปี เป็นเรื่องปกติของเรา เพียงแต่ปีนี้สูงกว่าเล็กน้อย และต้องเข้าใจว่าพื้นที่วังเป็นพื้นที่ต่ำ เมื่อเกิดปัญหาฝนตกน้ำก็จะท่วมเข้ามากลางลานพิธี แต่เรามีการติดต่อและปิดท่ออยู่แล้ว จึงคิดว่าไม่น่าจะมีปัญหา นอกจากนี้ได้มีการเตรียมกระสอบทรายไว้ที่กรมการรักษาดินแดนซึ่งอยู่ข้างพระบรมมหาราชวัง โดยมีความพร้อมทั้งเรื่องของกำลังคนและสิ่งของ และเมื่อน้ำล้นขึ้นเข้ามาก็พร้อมปิดประตูได้ทันที มีการติดต่อประสานงานกับฝ่ายทหารอยู่ตลอด
ด้านพล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า มีการเตรียมการรับสถานการณ์บริเวณเกาะรัตนโกสินทร์ในภาพรวม และเราพร้อมส่งกำลังพลมาช่วยในเขตพระราชฐาน รวมถึงมีการเตรียมพร้อมเรื่องการจัดวางแนวกระสอบทราย
จากนั้น พ.อ.ธรรมนูญ วิถี ผู้อำนวยการกองยุทธการ กองทัพภาคที่ 1 กล่าวว่า สำหรับพระตำหนักในพื้นที่กทม.และปริมณฑล รวม 12 แห่ง ซึ่งอยู่ในความรับผิดชอบของกองทัพบก 9 แห่ง และกองทัพเรือ 2 แห่ง โดยในส่วนของกองทัพเรือนั้น กองทัพบกได้ส่งกำลังพลไปสมทบด้วย ซึ่งผบ.ทบ.ให้นโยบายในการดูแลพระตำหนัก เป็น 4 ขั้นตอน คือ 1.ขั้นการปฏิบัติ 2.ขั้นตอนเมื่อเหตุการณ์น้ำท่วมเข้ามา 3.ขั้นตอนเมื่อจำเป็นต้องอพยพ และ4.ขั้นตอนการฟื้นฟูหลังน้ำลด ซึ่งในส่วนของพระบรมมหาราชวังก็มีการเตรียมขั้นตอนเหล่านี้ด้วย โดยขั้นแรก มีการเตรียมกระสอบทรายไว้ด้านในสำหรับกั้นประตู 7 ประตู และกองทัพภาคที่ 1 เตรียมกระสอบทรายไว้ที่กรมการรักษาดินแดน 20,000 กระสอบ เพื่อสำนักพระราชวังร้องขอเราจะจัดส่งไปได้ทันที ส่วนพื้นที่โดยรอบริมแม่น้ำนั้น มีกำลังของกองพลที่ 1 รักษาพระองค์ลาดตระเวน ตรวจเสริมกระสอบทราย และมีเครื่องสูบน้ำอยู่ที่บริเวณท้ายวัง 2 เครื่อง และที่ท่าราชวรดิฐ 2 เครื่อง สำหรับกรณีที่เกิดน้ำท่วม ได้เตรียมเก็บสิ่งของในสำนักพระราชวังขึ้นไว้บนที่สูง เตรียมเคลื่อนย้ายรถต่างๆและผู้คน ส่วนขั้นตอนการอพยพคนนั้นขึ้นอยู่กับสำนักพระราชวัง ซึ่งเราได้จัดเตรียมรถและสถานที่สำหรับรองรับคน รวมถึงสิ่งที่เขาร้องขอ ส่วนขั้นสุดท้ายเราเตรียมจัดกำลังพลเข้าไปขนย้ายออกมาแล้วทำการซ่อมแซมและทำความสะอาด
จากนั้นนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า จากการที่ตนได้พูดคุยกับ กฟน. ทราบว่าเขามีตัวจ่ายไฟอยู่ด้านนอก จึงสบายใจได้ว่าอย่างน้อยเรื่องนี้จะไม่เกิดการติดขัด และตนกำลังดูเรื่องความคืบหน้าในการติดตั้งอุปกรณ์วัดระดับน้ำแบบออนไลน์ เพื่อให้มีข้อมูลที่จะทำให้เราเข้าไปช่วยเหลือได้เร็วขึ้นเมื่อเกิดปัญหา ทั้งนี้ ช่วงการฟื้นฟูนั้นทุกหน่วยที่เกี่ยวข้องต้องมีการมาหารือกันอีกครั้ง ไม่ว่าจะเป็นนิคมอุตสาหกรรม และจุดต่างๆที่เป็นจุดสำคัญ รวมถึงแนวคันกั้นน้ำ