หน้าแรก เกี่ยวกับเรา ข้อมูลประเทศที่น่ารู้ สถาบันเอเจนย์ ข่าวและกิจกรรม ทุนการศึกษา บความน่ารู้ แลกเปลี่ยนประสบการณ์
เว็บไซต์เพื่อการศึกษาต่อต่างประเทศ ทุนการศึกษาต่อต่างประเทศ เรียนต่างประเทศ
บทความการศึกษา
สนใจเรียน IELTS, TOEIC คลิ๊กเลย

 

บัญชีดำสินค้ายังชีพ 9 รายการ ปู ไฟเขียวนำเข้าสินค้าเร่งด่วน

“พาณิชย์” เสนอสินค้ายังชีพ 9 รายการ เรือ-ทราย-ชูชีพ-บู๊ท-อาหารกระป๋อง-น้ำดื่ม เข้าบัญชีสินค้าควบคุม หวังใช้มาตรการ กม. ปราบกลุ่มฉวยโอกาสขึ้นราคา “ปู” ไฟเขียวเปิดช่องทางพิเศษนำเข้าสินค้าด่วน เพื่อป้อนตลาดภายใน 7 วัน
       
       นายยรรยง พวงราช ปลัดกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า กระทรวงเตรียมนำสินค้าจำเป็นต่อการยังชีพในช่วงอุทกภัยเข้าสู่บัญชีสินค้าควบคุม โดยกระทรวงพาณิชย์จะเสนอต่อที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันที่ 25 ตุลาคม 2554 (วันนี้) ได้แก่ เรือ อาหารกระป๋อง น้ำดื่ม ทรายบรรจุถุง ถุงบรรจุทราย ยาแก้โรคน้ำ กัดเท้า เสื้อชูชีพ และร้องเท้าบู๊ท เป็นต้น การขึ้นบัญชีสินค้าควบคุมดังกล่าวจะทำให้ผู้ค้าหมดโอกาสกักตุนและโก่งราคา หากพบผู้กระทำผิดจะสามารถดำเนินคดีขั้นสูงสุดได้ทันที
       
       “ส่วนอาหารสดจำพวกโปรตีน พบว่ามีปัญหาฟาร์มไก่เนื้อและไก่ไข่ถูกน้ำท่วมเป็นจำนวนมากทำให้ไข่ไก่หายไปจากระบบเฉลี่ยวันละ 1 ล้านฟอง ขณะที่การบริโภคปกติอยู่ที่เฉลี่ยวันละ 25-26 ล้านฟอง ซึ่งจะแก้ปัญหาโดยการเปิดนำเข้าแม่พันธุ์ไก่เสรีโดยไม่จำกัดจำนวน เพื่อเร่งการผลิตให้กลับสู่ภาวะปกติโดยเร็ว สำหรับเนื้อหมูไม่มีปัญหาขาดแคลน เนื่องจากผู้เลี้ยงเร่งเชือดเร็วขึ้น เพื่อหนีน้ำท่วมทำให้มีปริมาณเพียงพอต่อการบริโภค”
       
       นางวัชรี วิมุกตายน อธิบดีกรมการค้าภายใน กล่าวว่า สถานการณ์อุทกภัยขณะนี้ทำให้มีปัญหาสินค้าขาดแคลนอย่างหนัก โดยเฉพาะบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป นมผง ปลากระป๋อง และผ้าอนามัย
       
       ดังนั้น รัฐบาลจึงตัดสินใจเปิดช่องทางพิเศษสำหรับนำเข้าสินค้าจากประเทศเพื่อนบ้าน ซึ่งอาจจะเป็นมาเลเซีย ได้แก่ บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป นมผง ปลากระป๋อง และผ้าอนามัย โดยการประชุมร่วมกับภาคเอกชน เมื่อวานนี้ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ได้มอบหมายให้กระทรวงพาณิชย์เป็นเจ้าภาพในการบูรณาการลดขั้นตอนนำเข้า กระทรวงพาณิชย์จะเป็นศูนย์กลางเปิดช่องทางพิเศษ (Fast track) เพื่อให้สามารถนำเข้าสินค้ามาจำหน่ายภายในประเทศได้ภายใน 1 สัปดาห์
       
       ส่วนปริมาณการนำเข้าทางภาคเอกชนผู้ค้าส่งและค้าปลีกจะเป็นผู้พิจารณาตามความต้องการของผู้บริโภค ขณะนี้ทุกฝ่ายยังรอการประเมินจากสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทยว่าสินค้าหายไปจากระบบปริมาณเท่าใด
       
       “การประชุมร่วมกับผู้ประกอบการค้าปลีกค้าส่ง เมื่อวานนี้ นายกรัฐมนตรีได้สั่งให้กระทรวงพาณิชย์ กระทรวงสาธารณสุข และกระทรวงการคลัง ประชุมร่วมกันวันนี้ เพื่อกำหนดแนวทางการดำเนินการนำเข้าสินค้าแบบเร่งด่วน (Fast track) ที่ไม่สามารถผลิตได้ขณะนี้ หรือผลิตได้น้อยลงและไม่เพียงพอกับความต้องการ พร้อมหาข้อสรุปผู้ที่จะนำเข้าสินค้า”
       
       โดยกำหนดลดขั้นตอนการขออนุญาตคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) และการกำหนดอัตราภาษีที่เหมาะสม ส่วนวิธีการนำเข้าจะหารือในที่ประชุมอีกครั้ง อย่างไรก็ตาม ในส่วนของรายการและจำนวนสินค้าที่จะนำเข้า ต้องให้ห้างโมเดิร์นเทรดเป็นผู้กำหนด เพราะประชาชนส่วนใหญ่ซื้อสินค้าจากช่องทางนี้ซึ่งห้างกำลังประสบปัญหาไม่มีสินค้ารายการจำเป็น จำหน่ายหลังจากที่โรงงานหยุดการผลิต จากปัญหาน้ำท่วม
       
       รายงานเพิ่มเติมระบุว่า แหล่งที่จะนำเข้าสินค้าหลักคาดจะเป็นประเทศมาเลเซีย เนื่องจากมีอัตราภาษีสินค้าเกือบทุกรายการเป็น 0% แล้วตามข้อตกลงการค้าเสรีอาเซียน (อาฟตา) ทำให้ไม่เป็นปัญหาในเรื่องของอัตราภาษี แต่กระทรวงการคลังอาจต้องลดขั้นตอนเอกสารการนำเข้า เพื่อให้เกิดความรวดเร็ว โดยสินค้าที่คาดว่าจะขอนำเข้าได้แก่ อาหาร กระป๋อง ผ้าอนามัย โดยขั้นตอนนำเข้าจะใช้เวลาภายใน 1 สัปดาห์ แต่ขอให้การพิจารณาของ 3 กระทรวงที่เกี่ยวข้อง จะต้องมีผลในทางปฏิบัติ ทันที โดยไม่จำเป็นต้องเสนอขออนุมัติอีก
       
       ขณะเดียวกัน รัฐบาลยังจะเร่งเปิดคลังสินค้าพิเศษชั่วคราวเพิ่มในทุกภาค เช่น ที่ขอนแก่น นครราชสีมา และพิษณุโลก ในลักษณะเดียวกับที่เปิดคลังสินค้าพิเศษที่ดอนเมือง เพื่อจะกระจายสินค้าไปทั่วประเทศ อย่างไรก็ตาม รัฐบาลขอร้องประชาชนไม่ให้กักตุนสินค้า เพราะจะยิ่งทำให้มีปัญหาหนักขึ้น และจะไม่สามารถคลี่คลายได้

http://www.manager.co.th/

 

รับข่าวสารและโปรโมชั่น
Username
Password
สมัครสมาชิก | ลืมรหัสผ่าน
 


agent ศึกษาต่อต่างประเทศ เรียนต่อนอก ทุนการศึกษา

agent ศึกษาต่อต่างประเทศ เรียนต่อนอก ทุนการศึกษา

เอเจนท์ศึกษาต่อต่างประเทศ เรียนต่อ ทุนการศึกษา