หน้าแรก เกี่ยวกับเรา ข้อมูลประเทศที่น่ารู้ สถาบันเอเจนย์ ข่าวและกิจกรรม ทุนการศึกษา บความน่ารู้ แลกเปลี่ยนประสบการณ์
เว็บไซต์เพื่อการศึกษาต่อต่างประเทศ ทุนการศึกษาต่อต่างประเทศ เรียนต่างประเทศ
บทความการศึกษา
สนใจเรียน IELTS, TOEIC คลิ๊กเลย

 

ชูวิทย์ อัดรัฐแก้ปัญหาน้ำเละ

 

'ชูวิทย์'อัดรัฐแก้ปัญหาน้ำเละ

'ชูวิทย์' เหน็บรัฐ 'เอาปัญญาชนกรอกถุงทราย เอาปัญญาควายบริหาร' แก้ปัญหาน้ำท่วมเละ ฉะยับ จับ ปชช. เป็นตัวประกัน ชูภาพทางการเมือง

 

          นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ หัวหน้าพรรครักประเทศไทย กล่าวว่า ในช่วง 2 สัปดาห์ที่ประธานสภาฯสั่งงดการประชุมสภาฯ  เขาได้ลงพื้นที่ช่วยเหลือพี่น้องประชาชนที่ประสบภัยน้ำท่วมในหลายจังหวัด อาทิ นครสวรรค์ ชัยนาท ลพบุรี อยุธยา สุพรรณบุรี ปทุมธานี นนทบุรี ส่วน จ.สิงห์บุรี เข้าไปไม่ได้ เพราะน้ำท่วมสูงไม่มีเรือเข้า ทั้งนี้ พบว่า ที่จ.สุพรรณบุรี น้ำท่วมน้อยที่สุดสภาพน้ำเป็นปกติทุกอย่าง คือ ท่วมแค่บางอำเภอที่เป็นรอยต่อกับจังหวัดอื่นๆ

          นายชูวิทย์ กล่าวว่าระดับน้ำเป็นเมตร ทางขาด ที่ชัยนาท ตั้งแต่วันที่ 20 ก.ย.54 จนถึงวันนี้ เป็นเวลาหนึ่งเดือน ยังไม่มีการซ่อมแซมปรับปรุง ทั้งที่เป็นถนนสายหลัก พื้นที่จังหวัดน้ำท่วม กลับไม่ตั้งศูนย์ประสานงานประจำอำเภอ ตำบล เป็นศูนย์กลางบริหารงาน-แบ่งพื้นที่ดูแล ของเหล่าอาสาสมัคร แต่กลับปล่อยให้อยู่ด้วยตัวเอง ทุกอย่างเละตุ้มเป๊ะ ต่างคนต่างทำ สิ่งที่เห็นชัดเจนคือ การทำงานเอาหน้าผ่านสื่อ

          หัวหน้าพรรครักประเทศไทย  กล่าวว่า ปัญหาสำคัญที่พบเจอหลังนำถุงยังชีพไปแจกจ่ายในจังหวัดภาคกลาง พบว่า จังหวัดต่าง ๆ ไม่มีการบริหารจัดการที่ดีพอ ให้ชาวบ้านหรือผู้นำชุมชนจัดการกันเอง ในลักษณะต่างคนต่างเอาตัวรอด คนที่ช่วยเหลือตัวเองได้ก็หนีมาอยู่บนริมถนน คนใจบุญเอาของไปแจกก็ได้แต่ในเขตเมืองและคนที่อยู่ริมถนน  แต่คนที่อยู่รอบนอกถูกตัดขาด ไม่มีเรือออกไปยังมีตกค้างอีกเป็นจำนวนเรือนหมื่นเรือนพัน

          “ที่สำคัญเหล่าอาสาสมัคร องค์กรการกุศลต่างๆที่เสียสละด้วยจิตอาสาไปช่วยเหลือพี่น้องประสบภัยที่เดือดร้อน ก็ไม่มีหน่วยงานราชการในจังหวัดในอำเภอนั้นๆมาดูแล ต้องอาศัยกินอยู่หลับนอนริมถนนเหมือนชาวบ้าน แทนที่จะมีการตั้งศูนย์ประสานงานของทางราชการประจำอำเภอ ตำบล เพื่อใช้เป็นศูนย์กลางบริหารงานและแบ่งพื้นที่ดูแลของเหล่าอาสาสมัครแต่กลับปล่อยให้อยู่ด้วยตัวเอง ทุกอย่างจึงเละตุ้มเป๊ะ ต่างคนต่างทำ"

          เขาบอกว่า สิ่งที่เห็นชัดเจนคือ การทำงานเอาหน้าผ่านสื่อ ไล่ไปตั้งแต่นักการเมือง ดาราจนถึงบริษัทเอกชน นักการเมืองเอาคนที่ไม่มีความรู้ ไม่มีประสบการณ์มาทำงานมารับผิดชอบหน้าที่ ดาราขอให้แค่ได้ไปโผล่หน้าจอเพื่อเป็นข่าว ขณะที่บริษัทเอกชนต่าง ๆ ไปขึ้นป้ายแบนเนอร์ตามเสาไฟฟ้าจังหวัดต่างๆว่า ไปบริจาคที่นั้นที่นี้ ทุกอย่างล้วนเป็นการฉวยโอกาสทำงานเอาหน้าทั้งสิ้น จึงน่าสงสารประเทศไทย

          หัวหน้าพรรครักประเทศ กล่าวต่อว่า ที่แย่ที่สุด คือ การบริหารงานของศูนย์ปฎิบัติการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย (ศปภ.) ที่วันนี้ พี่น้องประชาชนไม่ให้ความเชื่อถือ เพราะบอกว่า น้ำไม่ท่วมแต่ก็ท่วมทุกที่ ข่าวสารที่ออกมาของทางการประชาชนไม่เชื่อถือเลย ต้องบอกดัง ๆ ว่า น้ำไม่ใช่ควัน ไม่ใช่ก๊าซที่จะสลายไปในอากาศ แต่กลับไม่มีการแจ้งเตือน เช่น ที่ย่านบางบัวทอง จ.นนทบุรี

          ทั้งนี้ หากจัดการบริหารน้ำอย่างจริงจัง จะสามารถป้องกันความเสียหายได้มากกว่านี้ ตัวอย่างที่ชัดเจนที่สุดของความล้มเหลวในการบริหารจัดการของศูนย์ดังกล่าว คือ การปล่อยให้น้ำไหลลงคลองประปา ซึ่งเป็นแหล่งน้ำดิบที่ไว้ใช้อุปโภค บริโภค ในกทม.และปริมณฑล และการจอดรถตามสะพานข้ามแยก และทางด่วนต่างๆ ก็สะท้อนความล้มเหลวในการจัดการบริหารของรัฐ ที่รับแผนงานมาปฏิบัติ ซึ่งเขาไปที่ไหน ก็มีคนถามว่า กรุงเทพฯท่วมหรือไม่ แต่ส่วนตัวแล้วคิดว่า ท่วมแน่ ๆ

          "วันนี้ชาวบ้านว้าเหว่ไร้ที่พึ่ง สังคมจึงอยู่กันเอาแบบตัวรอด เพราะรัฐบาลล้มเหลวในการแก้ไปหา ทั้งแผนเผชิญเหตุ แผนรับรอง แผนอพยพ แผนช่วยเหลือเอาคนออกนอกพื้นที่ หรือแผนดูแลรักษาความปลอดภัยที่จะให้ความมั่นใจต่อชาวบ้านในการถอนตัวออกจากบ้านเรือน"

          นายชูวิทย์ กล่าวต่อว่า  กทม.วันนี้ ก็มีการเล่นการเมืองผ่านสื่อ โดยเอาคนที่ไม่เกี่ยวข้อง ที่ไม่มีความรู้เกี่ยวกับการบริหารจัดการน้ำ เข้ามานั่งประชุม และออกภาพผ่านสื่อเพียงแค่หวังผล ในคะแนนนิยมจากการเลือกตั้งที่จะเกิดขึ้น จึงอยากจะเตือนว่า นักการเมืองที่ดีต้องอย่าเอาชาวบ้านเป็นตัวประกันเพื่อเล่นการเมือง เอาคนไม่เกี่ยวข้อง ไม่มีประสบการณ์มาทำงานผ่านสื่อเพื่อสร้างภาพ สร้างฐานเสียงทางการเมืองให้ตัวเอง

          "เวลานี้ มีคำพูดสะท้อนผ่านสื่อในโซเชียลมีเดียว่า “เอาปัญญาชนมากรอกถุงทราย เอาปัญญาควายมาบริหารจัดการ สั่งการแต่ละอย่างเหมือนสั่งน้ำมูก”  แผนเยียวยาต่าง ๆ ไม่มี มีแต่แผนตั้งรับ วัน ๆ จะเห็นแต่ภาพการดูงาน ดูเขื่อน ดูประตูระบายน้ำ นั่งดูแผนที่ ก็ไม่รู้ว่า จะดูไปทำไม ดูแล้วน้ำ มันจะลดลงหรือ จนเห็นภาพชาวบ้านลอยคอ เกาะกะละมัง แบกกระเป๋าหนีน้ำในน้ำเน่าจนชินตา"

          นายชูวิทย์ กล่าวว่า ในช่วงแรกๆ เขาไม่อยากพูดมาก เพราะเห็นว่า เป็นเหตุวิกฤต แต่นี่ผ่านมาสองเดือนแล้ว รัฐบาลควรจะมีแผนจัดการแก้ไขที่เป็นรูปธรรมได้มากกว่านี้ แต่นี่กลับปล่อยให้ต่างคนต่างพูด แม้ ศปภ.เองคนทั้งประเทศยังไม่เชื่อถือ บอกว่าไม่ท่วม แต่ก็ท่วมจนชาวบ้านเอือมระอา กรณีบางบัวทองและนิคมอุตสาหกรรมต่าง ๆ ถือว่า ชัดเจนที่สุด หากบอกว่า ป้องกันไม่ได้ก็ควรจะพูดความจริง และแจ้งเตือนเพื่อให้ประชาชนและผู้คนได้รู้ตัว ไม่ใช่ปล่อยให้หนีตายเอาตัวรอดแบบตัวใครตัวมัน

 

สอนมวย 'เพรียวพันธ์'  อย่ามัวแต่ 'จัดโผ-ล้างบาง' แนะ จัด ฉก. จับ “โจรน้ำท่วม”

 

          นายชูวิทย์ ยังเรียกร้องให้พล.ต.อ.เพรียวพันธ์ ดามาพงศ์  ผบ.ตร.คนใหม่ ที่เพิ่งได้รับตำแหน่งว่า อย่ามัวแต่ไปจัดโผเอาเด็กของตัวเอง ไปล้างบางขั้วอำนาจเก่า  แต่เป็นเวลาที่ต้องจัดแผนเชิงรุก โดยสั่งการตั้งชุดเฉพาะกิจในแต่ละจังหวัด อำเภอ ตำบล หมู่บ้าน จัดเรือตรวจการของตำรวจอออกไปตรวจตาป้องกันการขโมยทรัพย์สิน ดูและทรัพย์สินของประชาชนเพื่อให้เขามีความเชื่อมั่น เขาจะได้อพยพออกมาในที่ปลอดภัย และจะได้ลดอัตราการสูญเสียของพี่น้องคนไทยได้อีก

          "วันนี้ ผมลงไปดูพื้นที่ในหลายจังหวัดสรุปได้ว้า ทุกอย่างยังเละ ขาดการประสานงาน ถุงยังชีพไปกองที่อบต.ไม่ถึงมือชาวบ้าน ผู้นำแจกจ่ายแต่พวกตัวเอง หากไม่เร่งดำเนินการที่สุดปัญหาอาชญากรรมและปัญหาสังคม ความไม่พอใจในรัฐบาลจะตามมาเป็นเงาตามตัวหลังน้ำลดแน่นอน" นายชูวิทย์ ระบุ

http://www.komchadluek.net

 

รับข่าวสารและโปรโมชั่น
Username
Password
สมัครสมาชิก | ลืมรหัสผ่าน
 


agent ศึกษาต่อต่างประเทศ เรียนต่อนอก ทุนการศึกษา

agent ศึกษาต่อต่างประเทศ เรียนต่อนอก ทุนการศึกษา

เอเจนท์ศึกษาต่อต่างประเทศ เรียนต่อ ทุนการศึกษา