หน้าแรก เกี่ยวกับเรา ข้อมูลประเทศที่น่ารู้ สถาบันเอเจนย์ ข่าวและกิจกรรม ทุนการศึกษา บความน่ารู้ แลกเปลี่ยนประสบการณ์
เว็บไซต์เพื่อการศึกษาต่อต่างประเทศ ทุนการศึกษาต่อต่างประเทศ เรียนต่างประเทศ
บทความการศึกษา
สนใจเรียน IELTS, TOEIC คลิ๊กเลย

 

ศปภ.ยึดอำนาจกทม.ขึ้นตรงนายกฯ

ศปภ.ยึดอำนาจกทม.ขึ้นตรงนายกฯ 'ศปภ.' ออกคำสั่งตัดตอนกทม. หวังยึดอำนาจดูแลกรุงเทพฯ เองทั้งหมด 'ยิ่งลักษณ์' ปรับทัพใหม่ ดึงอำนาจทั้งหมด จาก 'ประชา-สุขุมพันธุ์' รวมไว้ที่นายกฯ ตั้ง 'วีระ วงศ์แสงนาค' นั่งหัวโต๊ะคณะทำงานบริหารจัดการน้ำ จี้ทุกหน่วยงานขึ้นตรงต่อนายกฯ

       ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในการประชุมร่วมชุดที่มีนายปลอดประสพ สุรัสวดี รมว.วิทยาศาสตร์ฯ , เสนาธิการทหารบก , ปลัดกระทรวงมหาดไทย อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย และทีมงานในช่วงบ่ายวันที่ 21 ต.ค.54 ได้สรุปผลการจัดโครงสร้างการดำเนินการ เพื่อรองรับการใช้อำนาจสั่งการของนายกรัฐมนตรี กรณีสถานการณ์สาธารณภัยร้ายแรงอย่างยิ่ง ตามมาตรา 31 แห่ง พรบ.ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย โดยมีรายละเอียด ดังนี้

          2. การใช้อำนาจของนายกฯจะใช้ผ่านศปภ.ทั้งนี้จะให้มีศปภ.ส่วนหน้าโดยให้ปลัดกระทรวงมหาดไทยเป็นผู้รับประสานการสั่งการของนายกฯร่วมกับผู้ว่าฯกทม. โดยศปภ.จะเป็นผู้สนับสนุน และเสนอแนะการทำงานของกทม.ทั้งนี้การประสานสั่งการใดๆต่อปลัดกระทรวงมหาดไทยจะมีเฉพาะคำสั่งจากศปภ.เท่านั้น

          3. ให้มีศปภ.ส่วนหน้าในการดูแลฝั่งตะวันออกด้วย โดยปลัดกระทรวงมหาดไทยจะเป็นผู้ดูแล โดยใช้ระบบสื่อสารวิทยุเครือข่ายหรือโทรศัพท์แล้วแต่กรณี

          4. มอบให้กระทรวงคมนาคมขนย้ายของมีค่าหรือของโบราณ เช่น รถไฟไปไว้ยังพื้นที่ปลอดภัยก่อนเกิดอุทกภัยร้ายแรงในกทม.

          5. ปลัดกระทรวงมหาดไทยมอบให้อธิบดีในสังกัดไปปฏิบัติงานที่ศปภ.ส่วนหน้า ที่ศาลากทม.ในวันที่ 23 ต.ค.เวลา 08.30 น.

          6. ให้อธิบดีในสังกัดระทรวงมหาดไทยศึกษาแผนป้องกันภัยของกทม. พ.ศ. 2553 - 57 ด้วย

          7. ให้กรมการปกครองจัดอาสาสมัครมาปฏิบัติหน้าที่นี้ด้วย

          8. จังหวัดใดที่น้ำไม่ท่วมและไม่ได้รับมอบภารกิจในจังหวัดพี่และจังหวัดน้องในการช่วยเหลืออุทกภัย และให้สำนักปลัดกระทรวงจัดทำคำสั่งนี้ให้มาช่วยงานในครั้งนี้

          9. ให้ทุกหน่วยงานในสังกัดกระทวรงมหาดไทยที่มีหน่วยงานตั้งอยู่ในกทม.ดูแลปกป้องสถานที่ราชการของตัวเองเพื่อป้องกันความเสียหายจากอุทกภัย

          10. แจ้งกำชับในเรื่องรักษาความปลอดภัยทั่วไป

          11. ให้เตรียมการในส่วนที่เกี่ยวกับจ.นครปฐม สมุทรสาคร สมุทรปราการ ที่จะต้องประสบปัญหาอุทกภัยด้วย

          12. ในการปฏิบัติราชการที่กทม.ในวันที่ 22 ต.ค.นี้ ให้อธิบดีและผู้ว่าการของรัฐวิสาหกิจในสังกัดกระทรวงมหาดไทย หรือรองอธิบดีที่มีอำนาจตัดสินใจไปร่วมปรึกษาหารือโดยเฉพาะการไฟฟ้านครหลวงและการประปานครหลวงนั้น ให้ผู้ว่าการรัฐวิสาหกิจทั้งสองแห่งนี้ไปด้วยตัวเอง

          13. ให้หน่วยงานระดับกรมและรัฐวิสาหกิจคัดสรรบุคลากรที่มีความรู้ความสามารถสูง ที่อยู่ในภูมิภาคให้มาช่าวยงานเพื่อการนี้ด้วย

          14. ให้กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยประจำที่ศอส. โดยให้อธิบดีฯไปบ้างเป็นบ้างครั้ง หากมีการนำเสนอที่สำคัญ

          ทั้งนี้ ให้นายบัณฑิตย์ เทวีทิวารักษ์ รองผู้ว่าฯฉะเชิงเทรา รักษาการรองอธิบดีกรมการป้องกันฯ ไปประจำที่ศาลากทม.ในวันที่ 22 ต.ค.54

 

“ยิ่งลักษณ์”ปรับทัพ"ศปภ."ใหม่ ดึงอำนาจจาก "ประชา-สุขุมพันธุ์" 

 

          แหล่งข่าวจากศูนย์ปฏิบัติการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย (ศปภ.) เปิดเผยว่า ภายหลังจากที่น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ตัดสินใจใช้อำนาจตามมาตรา 31 ของ พรบ.ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยพ.ศ.2550 ได้มีการเตรียมปรับโครงสร้างของศูนย์ปฏิบัติการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย(ศปภ.)ใหม่ โดยเพิ่มคณะทำงานเข้ามาร่วมทำงานมากขึ้น เพื่อสอดรอบกับส่วนราชการที่จะต้องเข้ามาทำหน้าที่ตามมาตรา 31 รวมไปถึงส่วนราชการของกรุงเทพมหานครด้วย

อทั้งนี้ สิ่งสำคัญของการประกาศ พรบ.ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยฯ นั้น คือการปรับการใช้อำนาจของนายกรัฐมนตรีขึ้นใหม่ จากเดิมการบริหารสถานการณ์ที่ผ่านมา น.ส.ยิ่งลักษณ์ ใช้อำนาจตามมาตรา 11 ของพรบ.ระเบียบการบริหารราชการแผ่นดิน ในฐานะผู้คุมอำนาจสูงสุดของฝ่ายบริหาร ซึ่งในส่วนของการบริหารสถานการณ์นายกฯได้ใช้อำนาจผ่าน พล.อ.ประชา พรหมนอก รมว.ยุติธรรมในฐานะผอ.ศปภ.

          อย่างไรก็ตาม ปรากฎว่า ที่ผ่านมาการทำงานเกิดติดขัด ในเรื่องของการประสานงานเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะกับกทม. จากกรณีที่ทางศปภ.ขอให้กทม.เปิดประตูระบายน้ำ ซึ่งอยู่ภายใต้การดูแลของสำนักการระบายน้ำกทม. ดังนั้น การปรับโครงสร้างใหม่ครั้งนี้ เพื่อเป็นการดึงอำนจการตัดสินใจมาไว้ที่นายกฯเพียงคนเดียว โดยไม่ต้องใช้อำนาจผ่านพล.ต.อ.ประชา ในระหว่างเกิดวิกฤติน้ำท่วม

 

ตั้ง "วีระ วงศ์แสงนาค" นั่งหัวโต๊ะคณะทำงานบริหารจัดการน้ำ

 

          ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังมีคำสั่งจากน.ส.ยิ่งลักษณ์ คำสั่งที่ 17/2554 ว่าด้วยเรื่อง กำหนดมาตราการแก้ไขปัญหาในพื้นที่ที่เกิดสาธารณภัยร้ายแรง อาศัยอำนาจตามมาตรา 31 แห่งพรบ.ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย พ.ศ. 2550 เพื่อให้แก้ไขปัญหาอย่างเป็นระบบที่สอดคล้องกันนั้น

          นายกรัฐมนตรียังได้มีคำสั่ง ที่ 18/2554 ว่าด้วยเรื่องคณะทำงานบริหารจัดการระบายน้ำในพื้นที่ที่เกิดสาธารณภัยร้ายแรง อาศัยอำนาจตามมาตรา 31 แห่ง พรบ.ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย พ.ศ. 2550 

          โดยสั่งให้มีคณะทำงานซึ่งประกอบด้วย นายวีระ วงศ์แสงนาค ประธานคณะทำงาน นายกิจจา ผลภาษี ที่ปรึกษาคณะทำงาน นายรอยล จิตรดอน ที่ปรึกษาคณะทำงาน นายสมบัติ อยู่เมือง คณะทำงาน นายสุทัศน์ วีสกุล คณะทำงาน นาวาเอกสมัย ใจอินทร์ คณะทำงาน นาวาเอกสุรพล นะวะมวัตน์ คณะทำงาน นายจรูญ พจน์สุนทร คณะทำงาน และนายอานนท์ สนิทวงศ์ ณ อยุธยา คณะทำงานและเลขานุการ

          คำสั่งดังกล่าว ให้คณะทำงานมีอำนาจ ดังนี้

          1.เสนอความคิดเห็น ให้คำปรึกษา และให้คำแนะนำแก่นายกรัฐมนตรี ในการสั่งการหน่วยงานของรัฐ ในเรื่องการบริหารจัดการระบายน้ำ ในพื้นที่ที่เกิดสาธารณภัยร้ายแรง

          2.ให้คณะทำงานติดตามการดำเนินงานและผลการดำเนินงานของหน่วยงานของรัฐ เกี่ยวกับการระบายน้ำสั่งนายกรัฐมนตรี คำสั่งศูนย์ปฏิบัติการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย(ศปภ.) และศูนย์สนับสนุนอำนวยการและการบริหารสถานการณ์อุทกภัย วาตภัยและดินโคนถล่ม (ศอส.)

          3.กำหนดแนวทางมาตรการเกี่ยวกับการระบายน้ำในเขตพื้นที่ที่ประสบสาธารณภัยร้ายแรง โดยให้จัดทำข้อเสนอเป็นรายงานทุกวัน ต่อนายกรัฐมนตรี และ 4. ปฏิบัติการตามนายกรัฐมนตรีมอบหมาย

          อย่างไรก็ตามให้หน่วยงานของรัฐที่ดำเนินการเกี่ยวกับการบริหารจัดการระบายน้ำตามข้อสั่งการของนายกรัฐมนตรี ศปภ. หรือ ศอส. ให้สนับสนุนความร่วมมือในการให้ข้อมูล ข้อเท็จจริง และรายละเอียดต่างๆที่ได้ดำเนินการให้แก่คณะทำงานดังกล่าว เพื่อรายงานต่อนายกรัฐมนตรี ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป

          ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หนังสือคำสั่งดังกล่าว น.ส.ยิ่งลักษณ์ ได้มีการลงนามคำสั่งตั้งแต่วันที่ 20 ตุลาคม พ.ศ.2554 ที่ผ่านมา

 

มั่วทวิตเตอร์ "ศปภ." ชาวบ้านขอความช่วยเหลือไม่ได้

 

          ผู้สื่ข่าวรายงานว่า ในช่วงที่ผ่านมา มีผู้ตั้งข้อสงสัย พร้อมกับแสดงความไม่พอใจที่เมื่อขอความช่วยเหลือทางทวิตเตอร์ กลับไม่ได้รับความช่วยเหลือ  โดยมีความเข้าใจกันว่า ทวิตเตอร์ @GCC_1111 เป็นของศูนย์ปฏิบัติการช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วม 

          ทั้งนี้ จากการตรวจสอบพบว่า การแจ้งเรื่องร้องเรียน ของ ศปภ. มีหลายช่องทาง ประกอบด้วย การโทรศัพท์แจ้งผ่านมาทาง Call Center 1111 กด 5   และ กดหมายเลข  025043248  - 51  ที่โทรได้ทั้งโทรศัพท์พื้นฐานและโทรศัพท์มือถือ  หรือกด  *1111 ในกรณีที่โทรจากโทรศัพท์มือถือเท่านั้น ซึ่งหากคู่สายไม่ว่างก็จะโอนสายให้คอลล์เซ็นเตอร์ของค่ายมือถือต่างๆ  ซึ่งจะบันทึกข้อมูลและแจ้งกลับมาที่ ศปภ.  

          นอกจากนี้ยังสามารถแจ้งขอความช่วยเหลือได้ทาง SMS โดยกดหมายเลข 4567892 โดยที่ไม่เสียค่าใช้จ่าย  

          นอกจากนี้ ยังสามารถแจ้งผ่านทางเว็บไซต์อย่างเป็นทางการของ ศปภ. www.floodthai.net  ซึ่งจะมีหน้ารับเรื่องร้องเรียน รวมถึงสามารถแจ้งผ่านทาง อีเมล์ iocprd@gmail.com 

          สำหรับโซเชียลเน็ตเวิร์กนั้น ศปภ. มีเพียงหน้าเพจของ เฟซบุ๊คในชื่อ "ศปภ." ซึ่งก็สามารถร้องเรียนขอความช่วยเหลือ

          ทั้งนี้ ทุกช่องทางจะมีเจ้าหน้าที่คอยตรวจสอบและบันทึกข้อมูลเพื่อให้ความช่วยเหลือต่อไป อย่างไรก็ตาม หากไม่สะดวก ก็ยังสามารถมาแจ้งขอความช่วยเหลือได้ที่ 2 อาคารผู้โดยสารภายในประเทศท่าอากาศยานดอนเมือง 

          ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากการตรวจสอบไม่พบว่า ศปภ. เปิดทวิตเตอร์เพื่อรับเรื่องร้องเรียนแต่อย่างใด โดยผู้ที่มีหน้าที่ในการควบคุมดูแลคือ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเทคโนโลยีและสารสนเทศ

          ส่วน twitter@GCC_1111  ที่มีผู้ร้องเรียนเป็นจำนวนมากนั้นในหน้าโพรไฟล์ ระบุว่า เป็นของ ศูนย์บริการข้อมูลภาครัฐเพื่อประชาชน  (Government contact call center)

          ด้านนายถิรชัย วุฒิธรรม  เลขานุการ ศปภ. ยืนยันว่า ศปภ.ไม่เคยเปิดทวิตเตอร์ ให้แจ้งเตือนภัยแต่จะเร่งตรวจสอบ หากพบว่า มีบุคคลอื่นเข้ามาแอบอ้างเปิดในนาม ศปภ. และจะประสานไอซีทีให้ปิดทันที เพราะไม่ต้องการให้ประชาชนสับสนในเรื่องการแจ้งเตือน

          ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับทวิตเตอร์ดังกล่าว เมื่อตรวจสอบไปพบว่า เป็นของศูนย์บริการภาครัฐ ของ สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรีที่   แต่เมื่อตรวจสอบต่อไปก็พบว่า  ทวิตเตอร์ดังกล่าวมีผู้ดูแลอยู่คนเพียงคนเดียว และมีผู้ช่วยดูแล 3 คน โดยเป็นส่วนหนึ่งของคอลล์เซ็นเตอร์ 1111 ที่ร่วมือระหว่างทำเนียบรัฐบาล กระทรวงไอซีที และ ทีโอที โดยผู้ดูแลเป็นคนของ ทีโอที อย่างไรก็ตาม ยังไม่ได้ประสานกับ ศปภ. เพื่อให้ดึงข้อมูล ไปใช้แต่อย่างใด

http://www.komchadluek.net/

 

รับข่าวสารและโปรโมชั่น
Username
Password
สมัครสมาชิก | ลืมรหัสผ่าน
 


agent ศึกษาต่อต่างประเทศ เรียนต่อนอก ทุนการศึกษา

agent ศึกษาต่อต่างประเทศ เรียนต่อนอก ทุนการศึกษา

เอเจนท์ศึกษาต่อต่างประเทศ เรียนต่อ ทุนการศึกษา