หน้าแรก เกี่ยวกับเรา ข้อมูลประเทศที่น่ารู้ สถาบันเอเจนย์ ข่าวและกิจกรรม ทุนการศึกษา บความน่ารู้ แลกเปลี่ยนประสบการณ์
เว็บไซต์เพื่อการศึกษาต่อต่างประเทศ ทุนการศึกษาต่อต่างประเทศ เรียนต่างประเทศ
บทความการศึกษา
สนใจเรียน IELTS, TOEIC คลิ๊กเลย

 

ศปภ.แถลงคำสั่งนายกฯให้กทม.เปิดประตูระบายน้ำ - ยันคลองประปาใกล้กลับสู่ปกติ

ศปภ.แถลงคำสั่งนายกฯให้กทม.เปิดประตูระบายน้ำในเขตพื้นที่รับผิดชอบ เพื่อเร่งผลักน้ำลงสู่เจ้าพระยา โวระดับน้ำจากนครสวรรค์ โรจนะ ระพีพัฒน์อยู่ในระดับทรงๆ และมีแนวโน้มลด ระบุคลายกังวลทะเลหนุนช่วง 28 - 30 ต.ค. ได้ มั่นใจเจ้าพระยาไม่เกินคันกั้นน้ำของกทม.  ส่วนกรณีคลองประปาล้น ใกล้กลับสู่ภาวะปกติแล้ว 
       

       วันนี้ (21 ต.ค.) เวลาประมาณ 21.30 น. นายวิม รุ่งวัฒนะจินดา โฆษกศูนย์ปฎิบัติการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย หรือ ศปภ. ได้อ่านประกาศคำสั่งฉบับที่ 19 / 2554 เรื่องให้กรุงเทพมหานครบริหารจัดการน้ำจากพื้นที่ที่เกิดอุทกภัยร้ายแรงไปยังแม่น้ำเจ้าพระยา อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 31 ประกอบกับมาตรา 21 แห่งพระราชบัญญัติป้องกันและบรรเทาสาธารณะภัย พ.ศ.2550 นายกฯมีคำสั่งดังต่อไปนี้  
       
       1.ให้กรุงเทพมหานครเปิดประตูระบายน้ำในเขตพื้นที่รับผิดชอบ เพื่อรองรับการระบายน้ำจากกรมชลประทาน ให้ผ่านระบบสูบน้ำของกรุงเทพมหานครไปยังเจ้าพระยา โดยให้คำนึงถึงระดับน้ำที่เหมาะสม และอยู่ในระดับที่ไม่ท่วมท้นจนสร้างความเดือดร้อนแก่ประชาชนในพื้นที่กรุงเทพมหานคร โดยให้พิจารณาจากความเหมาะสมตามสถานการณ์
       
       2.ให้มีคณะกรรมการร่วมระหว่างกรุงเทพมหานคร กรมชลประทาน และคณะทำงานที่ตั้งขึ้นตามคำสั่งของนายกฯ ที่ 18 / 2554  เพื่อกำกับและระบายน้ำให้มีประสิทธิภาพสูงสุด โดยให้เกิดผลกระทบต่อประชาชนให้น้อยที่สุด
       
       3.ให้รายงานผลการดำเนินการให้แก่นายกฯ และศปภ. ทราบทุกวัน ทั้งนี้ในกรณีฉุกเฉิน เพื่อเพิ่มความถี่ในการรายงาน ให้คกก.ดังกล่าวรายงานทุก 2 ชั่วโมง
       
       คำสั่งของนายกฯที่ฉบับที่ 20 /2554  เรื่องให้กรมชลประทานระบายน้ำจากคลองระพีพัฒน์แยกตะวันตกสู่ทะเลอ่าวไทย ตามความในมาตรา 31 ประกอบกับมาตรา 21 แห่งพระราชบัญญัติป้องกันและบรรเทาสาธารณะภัย พ.ศ.2550 นายกฯมีคำสั่งให้กรมชลประทานดำเนินการ ดังต่อไปนี้  
       
       1.เปิดประตูระบายน้ำในคลอง 2 - 13 เพื่อให้ระบายน้ำลงสู่ทุ่งคลองรังสิตตอนเหนือ
       
       2.เปิดประตูระบายน้ำในคลอง 6- 16 ฝั่งใต้ เพื่อระบายน้ำจากคลองรังสิตประยูรศักดิ์ลงสู่คลองหกวาสายล่างและคลองแสนแสบ
       
       3.เร่งสูบและหรือเร่งผลักดันน้ำในคลองรังสิตประยูรศักดิ์ และคลองหกวาล่าง คลอง 20 คลอง 21 คลองบางขนาบ ลงสู่แม่น้ำนครนายกฯ และแม่น้ำบางปะกง
       
       4.เร่งสูบและหรือเร่งผลักดันน้ำ ในคลอง 13 และคลองต่างๆที่อยู่ในพื้นที่หลากน้ำ เพื่อเร่งระบายน้ำลงสู่ชายฝั่งทะเล
       
       5.รายงานผลการดำเนินการให้กับนายกฯ และศปภ. ทราบทุกวัน ทั้งนี้ในกรณีฉุกเฉิน ให้เพิ่มความถี่ในการรายงานเป็นทุก 2 ชั่วโมง
       
       6.สามารถพิจารณามาตรการเพิ่มเติมตามความเหมาะสมและจำเป็น เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการระบายน้ำ ให้เกิดผลกระทบน้อยที่สุด
       
       ทั้งนี้ให้ดำเนินการตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป
       
       จากนั้นนายธีระ วงศ์สมุทร รมว.เกษตรและสหกรณ์  ได้รายงานสถานการณ์ว่า สิ่งที่พี่น้องกังวลว่าทำไมเขื่อนขนาดใหญ่อย่างเขื่อนภูมิพล และเขื่อนสิริกิติ์ ยังระบายน้ำมา ก็เนื่องจากเขื่อนภูมิพลมีน้ำเต็ม จึงต้องเร่งระบาย ส่วนเขื่อนสิริกิติ์ก็ระบายอย่างต่อเนื่อง ความจริงแล้วปริมาณก็เท่ากับเมื่อวาน คือเขื่อนภูมิพลวันละ 60 ล้านลบ.ม. สิริกิติ์ 10 ล้านลบ.ม. แต่ไม่ต้องกังวลเพราะปริมาณน้ำนี้กระทบต่อลุ่มน้ำเจ้าพระยาตอนล่างน้อยมาก เนื่องจากน้ำที่นครสวรรค์ มีแนวโน้มลดลงเรื่อยๆ ทุกจังหวัดใต้เขื่อนเจ้าพระยาลงมา ก็มีแนวโน้มลดลงเรื่อยๆ สิ่งที่พ่อแม่พี่น้องกังวล ก็ขอให้คลายกังวล
       
       ปริมาณน้ำที่ท่วมบริเวณนครหลวงหรือนิคมโรจนะ วันนี้ระดับน้ำทรงๆ แถมมีแน้วโน้มจะลดลงด้วย ส่วนน้ำที่ระพีพัฒน์แยกตกปริมาณน้ำมีมากก็จริง แต่จากการติดตามระดับน้ำมีระดับทรงๆ และมีแนวโน้มลด แปลว่าน้ำที่ไหลมาตามคลองต่างๆที่เปิดตั้งแต่คลอง 2 - 10 มีปริมาณน้ำเข้ามาตามระบบ รวมทั้งปริมาณน้ำจากคลองระพีพัฒน์แยกตกขาด ปริมาณ 120 เมตร ซึ่งวัดปริมาณน้ำที่ผ่านมาอยู่ที่ 170 ลบ.ม.ต่อวินาที เท่ากับเมื่อวาน ซึ่งอยู่ในเกณฑ์ที่กรมชลประทานคาดการณ์
       
       น้ำทั้งหมดนี้จะอยู่ในทุ่งรังสิตเหนือ ขณะนี้ท่วมขังเฉลี่ย 10 ซ.ม. น้ำเหล่านี้จะไหลมาสู่คลองรังสิต ซึ่งจากคลองรังสิตระบายสู่คลองหกวาสายล่าง แล้วเร่งสูบน้ำออกทั้ง 2 ฝั่ง
       
       ส่วนที่กังวลว่าวันที่ 28 - 30 ต.ค. น้ำทะเลจะหนุนสูงอีกรอบหนึ่ง ขณะนี้เราได้วางแผนบริหารจัดการ ดังนี้ ตั้งแต่วันที่ 22-25 ต.ค. จะเปิดประตูน้ำพระนารายณ์ รับน้ำเข้าคลองระพีพัฒน์แยกใต้มากขึ้น เพื่อลดปริมาณน้ำจากแม่น้ำป่าสักฯ ที่จะไปสมทบแม่น้ำเจ้าพระยา
       วันที่ 25 ต.ค. จะลดการระบายน้ำจากเขื่อนป่าสักฯให้เหลือ 100 ลบ.ม.ต่อวินาที วันที่ 26 ต.ค.จะปิดเขื่อนพระราม 6 เพื่อไม่ให้น้ำมาสมทบข้างล่าง และรับน้ำเข้าคลองระพีพัฒน์ ฉะนั้นตั้งแต่วันที่ 26 ระดับน้ำท้ายเขื่อนป่าสักฯก็จะมีระดับลดลง ขณะเดียวกันน้ำที่ค้างอยู่นครหลวง หรือบริเวณโรจนะก็จะลดลงตามไปด้วย
       
       จากการปฏิบัติดังกล่าว น้ำในแม่น้ำเจ้าพระยาก็จะลดลง ช่วงน้ำทะเลหนุนก็จะไม่เกินระดับคันกั้นน้ำของกทม. จะอยู่ที่ 2.3 เมตรเหนือระดับน้ำทะเลปานกลาง และจะทำให้น้ำที่โรจนะลดตามด้วย น้ำที่จะมาสมทบที่คลองระพีพัฒน์แยกตกก็จะลดลงด้วย ขอให้คลายกังวล สบายใจขึ้น
       
       ต่อจากนั้นนาวาอากาศเอกอนุดิษฐ์ นาครทรรพ  รมว.โนโลยีและสารสนเทศ  ได้กล่าวถึงกรณีน้ำในคลองประปาเพิ่มสูงขึ้นและล้นตลิ่งเข้าท่วมดอนเมือง หลักสี่ พบสาเหตุเกิดจากการที่พนังกั้นน้ำบริเวณคลองบางหลวงชำรุด ซึ่งต้นทางขณะนี้ได้แก้ไขแล้ว โดยชะลอน้ำจากคลองบางหลวงที่จะเข้าสู่คลองประปา
       
       และเพิ่มการสูบน้ำจากคลองประปา ลงสู่คลองบางเขน บางซื่อ สามเสน ซึ่งจะทำให้น้ำในคลองประปาลดลงและกลับคืนสู่สภาพเดิมโดยเร็วที่สุด และปัจจุบันก็เริ่มกลับสู่สภาพเดิมแล้ว ส่วนน้ำที่ท่วมขังจะเร่งระบายให้เร็วที่สุด พร้อมขอย้ำเรื่องคุณภาพน้ำประปา วันนี้ผู้ว่าการประปาก็ยืนยันแล้ว ว่าคุณภาพน้ำประปายังสามารถใช้น้ำประปาได้อย่างมีคุณภาพเหมือนเดิม
       
       ขณะที่พล.ต.อ.พงศพัศ พงษ์เจริญ โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ระบุว่า ศูนย์ปฏิบัติการส่วนหน้าที่อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี ได้สินธิกำลังจากกำทัพบก ทัพเรือ และตำรวจ ในการให้ความช่วยเหลือประชาชน โดยการนำเรือท้องแบนขนย้ายผู้ประสบอุทกภัย ซึ่งส่วนใหญ่เป็นเด็กและคนชรา รวม 3.3 พันคน และได้นำมาศูนย์พักพิงที่ดอนเมือง และอาคารเฉลิมพระเกียรติ แจ้งวัฒนะ นอกจากนี้ ทางส่วนหน้าอนุญาติให้ประชาชนสามารถเดินทางเพื่อกลับเข้าไปดูบ้านได้ แต่บางจุดห้ามเด็ดขาดเนื่องจากมีระดับนํ้าที่ลึก
       
       โดยทั้ง 2 ศุนย์ได้รับผู้อพยพเต็มแล้ว แต่ได้มีการประสานไปยังเคหะที่จ.สมุทรปราการ ให้เปิดแฟลต 5 ชั้น ซึ่งสามารถรองรับได้ 3.1 พันคน และยังได้ประสานไปยังเคหะ อาทิ หนองจอก ให้เปิดรับประชาชนที่เดือดร้อนสามารถขอเข้าพักอาศัยได้ ทั้งนี้ หากมีความจำเป็นเร่งด่วนสามารถต่อสายตรงเคหะ 1615 หรือศูนยประชาบดี 1100 และศูนย์ปฏิบัติการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย (ศปภ.) 1111 กด 5 ตลอด 24 ชั่วโมง
       
       ส่วนประชาชนที่นำรถไปจอดกีดขวางทางจราจร เจ้าหน้าที่ตำรวจจะทำการยกไปเก็บไว้ที่สถานีตำรวจ ทางที่ดีให้เขียนหมายเลขโทรศัพท์ติดไว้ที่รถ เพื่อความสะดวกในการติดต่อกลับ

 

รับข่าวสารและโปรโมชั่น
Username
Password
สมัครสมาชิก | ลืมรหัสผ่าน
 


agent ศึกษาต่อต่างประเทศ เรียนต่อนอก ทุนการศึกษา

agent ศึกษาต่อต่างประเทศ เรียนต่อนอก ทุนการศึกษา

เอเจนท์ศึกษาต่อต่างประเทศ เรียนต่อ ทุนการศึกษา