หน้าแรก เกี่ยวกับเรา ข้อมูลประเทศที่น่ารู้ สถาบันเอเจนย์ ข่าวและกิจกรรม ทุนการศึกษา บความน่ารู้ แลกเปลี่ยนประสบการณ์
เว็บไซต์เพื่อการศึกษาต่อต่างประเทศ ทุนการศึกษาต่อต่างประเทศ เรียนต่างประเทศ
บทความการศึกษา
สนใจเรียน IELTS, TOEIC คลิ๊กเลย

 

เคล็ดลับฝึกฟังภาษาอังกฤษยังไงให้เข้าหู

 คุณเรียนภาษาอังกฤษมาตั้งแต่อนุบาล คุณมีแม่นยำเรื่องแกรมม่าและจำคำศัพท์ได้มากมาย สามารถอ่านและเขียนภาษาอังกฤษได้เป็นอย่างดี แต่มักจะตกม้าตายทุกทีเวลาต้องฟังคนอื่นพูดภาษาอังกฤษไม่รู้เรื่อง ถ้าคุณเป็นคนหนึ่งที่ประสบปัญหาเหล่านี้อยู่ละก็ อย่าเพิ่งท้อใจนะคะ ขอให้รู้ไว้ว่ามันเป็นเรื่องธรรมดาของการเรียนภาษา ไม่ว่าจะภาษาใดๆ บนโลกใบนี้ เพราะเมื่อภาษาแปลงร่างจากการเขียนเป็นการพูด จะมีปัจจัยอื่นๆ เข้ามาเกี่ยวข้องอีกมากมาย ไม่ว่าจะเป็นน้ำเสียงของผู้พูดแต่ละคนที่มีเป็นร้อยเป็นพันแบบ การรวบคำให้กระชับ ประโยคแสลง และอีกสารพัดปัจจัยที่ทำให้การฟังยุ่งยาก แต่เรื่องแบบนี้สามารถฝึกฝนกันได้ด้วยเคล็ดลับดีๆ ต่อไปนี้ค่า

ก่อนอื่นขอให้จำไว้เลยว่าต้อง 'ฝึกฟังจากเรื่องง่ายไปหายาก' ช่วงแรกของการฝึกถ้าเราไปฟังข่าวยากๆ ยาวๆ ที่มีศัพท์แปลกๆ ไม่คุ้นหูอยู่เพียบ แล้วเกิดฟังไม่เข้าใจขึ้นมา อาจทำให้เกิดอารมณ์สิ้นหวังได้ค่ะ ดังนั้นเราจึงควรเริ่มจากฟังอะไรสั้นๆ ง่ายๆ ที่เขาพูดช้าๆ ให้เข้าใจเสียก่อน เน้นฟังสำเนียงที่ถูกต้อง ฝึกแบบค่อยเป็นค่อยไปนะคะ

เว็บไซต์แนะนำ:

  • BBC Learning English (ฝึกฟังสำเนียงอังกฤษ)
  • ESLPod (ฝึกฟังสำเนียงอเมริกัน)

ขั้นตอนในการฝึกฝน

1. ฟังรอบแรกรวดเดียวจบ โดยไม่ดูบทความที่แนบมากับคลิปเสียง สูดหายใจลึกๆ หามุมที่นั่งสบายๆ ผ่อนคลาย ไม่ต้องกังวลว่าจะฟังไม่รู้เรื่อง

2. ฟังซ้ำอีกครั้งเพื่อเก็บรายละเอียดเพิ่มเติม

3. ฟังและหยุดคลิปทุกๆ 5 วินาที ขณะที่หยุดนั้นให้เขียนคำหรือวลีอะไรก็ได้ที่คุณได้ยินออกมาให้ได้มากที่สุด เมื่อฟังจบทั้งคลิปแล้ว ลองอ่านโน้ตย่อๆ ของเราดูว่า เราพอจะจับคอนเซ็ปต์ได้หรือไม่ว่าในคลิปกำลังพูดถึงเรื่องอะไร การฝึกในเบื้องต้นเราไม่จำเป็นต้องเข้าใจทุกคำพูดค่ะ แค่พอเข้าใจคร่าวๆ ก็ถือว่าโอเคแล้ว

4. ทำซ้ำแบบเดิมกับข้อ 3. แต่พยายามเติมคำศัพท์ลงไปให้มากขึ้น และแก้ไขข้อผิดพลาดต่างๆ จากการเขียนครั้งแรก

5. เขียนเรียบเรียงข้อมูลให้เป็นประโยค ลองใช้ความรู้ด้านไวยากรณ์ปะติดปะต่อคำและวลีต่างๆ เข้าด้วยกัน

6. เก็บโน้ตย่อชิ้นแรกออกไป เริ่มฟังคลิปอีกครั้ง แต่ครั้งนี้ให้หยุดคลิปทุกๆ 10 วินาที แล้วเขียนสิ่งที่ได้ยินออกมาเหมือนเดิม จากนั้นลองนำมาเปรียบกับโน้ตย่อชิ้นเก่าดูค่ะ

7. ฟังคลิปเสียงอีกครั้ง โดยอ่านโน้ตย่อของตัวเองตามไปด้วย

8. เปรียบเทียบโน้ตย่อกับบทความจริงที่ถูกต้อง ถ้าพบว่ามีคำผิดเยอะ ต้องลองวิเคราะห์ดูค่ะว่าปัญหาในการฟังของคุณเกิดจากอะไร บางคนอาจจะฟังไม่รู้เรื่อง เพราะออกเสียงไม่ถูกต้อง ไม่รู้จักคำศัพท์ หรือมีปัญหากับเสียงหนัก เสียงเบา การเชื่อมคำ การรวบประโยค ก็ต้องลองแก้ปัญหาเป็นจุดๆ ไป

9. ฟังคลิปอีกครั้งไปพร้อมๆ กับการอ่านบทความที่ถูกต้อง เพื่อเช็คว่าตรงส่วนไหนบ้างที่คุณพลาดไป จากนั้นลองกลับฟังรอบสุดท้ายแบบไม่อ่านโน้ตและบทความเลย ซึ่งพอถึงขั้นตอนนี้คุณควรจะเข้าใจเรื่องราวในนั้นมากยิ่งขึ้นแล้วนะคะ

ส่วนในการเลือกคลิปเสียง ถ้าเป็นเรื่องที่เราสนใจจะยิ่งกระตุ้นให้เราอยากฝึกฝนมากยิ่งขึ้นค่ะ

ทักษะการฟังไม่สามารถพัฒนาขึ้นในชั่วข้ามคืน ต้องใช้เวลาในการฝึกฝนทำซ้ำๆ อย่างต่อเนื่องสัปดาห์ละ 3-4 ครั้ง ฟังครั้งนึงไม่กี่นาทีแต่เน้นฝึกบ่อยๆ จะได้ผลดีกว่าการฟังครั้งนึงเป็นชั่วโมงแต่ฝึกแค่สัปดาห์ละครั้งนะคะ

ถ้าใครรู้สึกว่าสกิลเริ่มพัฒนาขึ้นแล้ว ระหว่างฟังจะฝึกพูดไปด้วยก็ได้ค่ะ การพูดตามจะทำให้เราโฟกัสกับสิ่งที่ฟังมากขึ้น และเป็นการรีเช็คให้มั่นใจว่าสิ่งที่ได้ยินนั้นถูกต้องมากยิ่งขึ้นด้วย

ระยะเวลาในการอัพเลเวลของแต่ละคนก็ไม่เท่ากัน บางคนอาจจะใช้เวลาเป็นเดือน หรือบางคนอาจต้องใช้เวลาเป็นปี ขึ้นอยู่กับความสามารถและความมุ่งมั่น การเรียนภาษาไม่มีทางลัดค่ะ ฝึกฝนเท่านั้นที่จะทำให้เราเก่งขึ้นได้ ยิ่งใครอยากไปเป็นนักเรียนนอกก็ยิ่งต้องฟิตให้มากขึ้น เชื่อเถอะค่ะว่าผลจากความพยายามอย่างสุดความสามารถ จะตอบแทนเราอย่างคุ้มค่าแน่นอน

 

ขอขอบคุณข้อมูลจาก : http://www.hotcourses.in.th/

 

รับข่าวสารและโปรโมชั่น
Username
Password
สมัครสมาชิก | ลืมรหัสผ่าน
 


agent ศึกษาต่อต่างประเทศ เรียนต่อนอก ทุนการศึกษา

agent ศึกษาต่อต่างประเทศ เรียนต่อนอก ทุนการศึกษา

เอเจนท์ศึกษาต่อต่างประเทศ เรียนต่อ ทุนการศึกษา