หน้าแรก เกี่ยวกับเรา ข้อมูลประเทศที่น่ารู้ สถาบันเอเจนย์ ข่าวและกิจกรรม ทุนการศึกษา บความน่ารู้ แลกเปลี่ยนประสบการณ์
เว็บไซต์เพื่อการศึกษาต่อต่างประเทศ ทุนการศึกษาต่อต่างประเทศ เรียนต่างประเทศ
บทความการศึกษา
สนใจเรียน IELTS, TOEIC คลิ๊กเลย

 

เปิดใจเด็กเก่ง ตามดูสูตรเด็ดพิชิตคณะยอดฮิต Admission 53

 เปิดใจเด็กเก่ง ตามดูสูตรเด็ดพิชิตคณะยอดฮิต Admission 53

น.ส.ปารมี กีรติวิทยานันท์ จากร.ร.เตรียมอุดมศึกษา สอบได้คณะนิติศาสตร์ จุฬาฯ คะแนนเฉลี่ย 88.83%

เปิดใจ 7 คนเก่งเผยเคล็ดลับทำคะแนนสูงระดับท็อปของประเทศ ชี้สูตรความสำเร็จต้องตั้งใจจริง-หมั่นทบทวนหนังสือ-ทดลองทำข้อสอบเก่า พร้อมเป็นกำลังใจให้คนพลาดหวังสู้ต่อไป ขณะที่หนุ่มพิการทางสายตาเผยอยากเป็นครูสอนคนตาบอด
       
       ปารมี กีรติวิทยานันท์ เจ้าของคะแนนอันดับหนึ่งถึง 88.83% จาก ร.ร.เตรียมอุดมศึกษา เปิดเผยว่า ตนใช้ระยะเวลาในการเตรียมตัวมานาน อาศัยความสม่ำเสมอ ไม่ได้มาทุ่มเทแค่ช่วงก่อนสอบเท่านั้น สิ่งสำคัญ คือ การตั้งเป้าหมายของตัวเองให้แน่วแน่ ว่าอยากเรียนด้านนิติศาสตร์จริงก็จะทำให้เราพยายามให้ถึงที่สุด เนื่องจากนิติศาสตร์เป็นสายงานที่ท้าทาย สามารถเหลือผู้คนได้มาก เพราะในสังคมยังมีคนจำนวนน้อย ที่รู้กฎหมายต่างๆ อย่างแท้จริง ทำให้ไม่ได้รับความยุติธรรม ดังนั้นหากมีโอกาสเข้าไปศึกษาอย่างจริงจังอาจจะมีส่วนช่วยได้
       
       ปารมียังบอกว่า แม้จะทุ่มเทให้กับการเรียน แต่ก็แบ่งเวลาในการทำกิจกรรมอื่นๆด้วย เพราะชีวิตจะได้มีครบทุกส่วน ทั้งยังมองว่าบางครั้งความรู้ในหนังสือก็ไม่ได้นำไปใช้ในชีวิตประจำวันได้
       
       “กิจกรรมทำให้เราได้ความรู้เพิ่มเติม โดยปกติจะเล่นเปียโน ทำกิจกรรมกับเพื่อนๆ และเป็นนักเรียนผู้นำกิจกรรมด้านภาษาไทยค่ะ การเรียนในห้องเรียนสำคัญที่สุด แม้ตนเรียนพิเศษบ้าง แต่ก็เป็นการเรียนเพื่อเก็บตกความคิดเท่านั้น เพราะเมื่อกลับมาก็ต้องมาทบทวนด้วยตัวเองอยู่ดี”
 ว่าที่นิสิตนิติศาสตร์ทิ้งท้าย
       
       ด้านนักเรียนจากต่างจังหวัดผู้ทำคะแนนได้สูงถึง 85% อย่าง “ศิริมา ระงับภัย” จากโรงเรียนนครสวรรค์ เปิดเผยว่า ตนเลือกคณะศิลปศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์เป็นอันดับ 1 โดยตั้งใจเลือกวิชาเอกภาษาอังกฤษ เพราะคิดว่าเป็นสาขาวิชาที่มีโอกาสเปิดกว้างในการทำงาน และแม้ว่าจะเป็นนักเรียนจากต่างจังหวัด ก็ไม่ได้รู้สึกว่าแตกต่าง เพราะเชื่อว่าหากมีความตั้งใจจริง ก็สามารถทำได้
       
       “เคยพูดเล่นๆ กับเพื่อนว่า อยากทำคะแนนให้ได้เป็นที่ 1 ในระดับประเทศ แล้วก็เริ่มเตรียมตัวสอบจริงจังประมาณ ม. 5 อ่านหนังสือตั้งแต่ 2 ทุ่ม ถึงเที่ยงคืน แต่ถ้าวันไหนเหนื่อยก็ไม่ได้อ่าน ไม่ได้เครียดมาก เรื่องเรียนพิเศษก็มีบ้าง แต่ตอน ม.6 ก็ไม่ได้เรียนอีก เพราะหากตั้งใจเรียนในห้องเรียนแล้ว ก็ไม่จำเป็นอีก แค่ทบทวนอ่านหนังสืออยู่บ้านค่ะ และอยากบอกว่าพ่อแม่มีส่วนสำคัญมาก เพราะท่านเปิดโอกาสให้เลือกคณะได้ตามอิสระ” 
ผู้สอบได้ที่ 1 ศิลปศาสตร์ มธ.กล่าว
       
       “ณฐวรรณ เปาอินทร์” หรือ น้ำ จาก ร.ร.สาธิต มศว ปทุมวัน ซึ่งสอบได้คะแนนสูงสุดคณะรัฐศาสตร์จุฬาฯ เปิดเผยว่า เคล็ดลับในการทำข้อสอบคือการนำข้อสอบในปีเก่าๆ มาทบทวนดูถึงแนวทางการออกสอบ ในส่วนของครอบครัวนั้นไม่ได้กดดันอะไรมาก ให้อิสระในการเลือกเรียนในสิ่งที่ตนชอบ ไม่บังคับเรียนพิเศษตนอยากจะเรียนอะไรก็เพียงแค่บอกพ่อแม่ก็จะให้การสนับบสนุนอย่างเต็มที่ ซึ่งไม่ว่าจะสอบติดหรือไม่ก็ไม่ใช่ปัญหา
       
       “เคยยื่นสอบตรงไปแล้วแต่ไม่ติดจึงเป็นแรงผลักดันให้กลับมาตั้งใจอีกครั้งหนึ่ง ซึ่งรู้ตัวเองว่าเป็นคนเรียนไม่ได้เก่งที่สุดในห้อง เกรดเฉลี่ยถือว่ากลางๆ ที่ประมาณ 3.78 แต่ตัวเองเป็นคนที่ไม่เครียดกับเรื่องต่างๆ เรียนอย่างมีความสุข และตั้งใจกับสิ่งที่มุ่งหวังเอาไว้ ตรงนี้อาจทำให้ประสบความสำเร็จในครั้งนี้ สำหรับเพื่อนๆ ที่พลาดหวังในปีนี้ก็ขอเป็นกำลังใจให้สู้ต่อไป” น้องน้ำ กล่าว
       
       ส่วน "พิมพ์นภา กังสนันท์" หรือ พิมพ์ จากร.ร.ราชินีบน ซึ่งสอบติดที่ 1 คณะนิเทศศาสตร์ จุฬาฯ กล่าวว่า เคล็ดลับที่ทำให้สอบติดคิดว่าอยู่ที่การแบ่งเวลาให้ชัดเจนเป็นสัดส่วน ตนถือว่าเป็นเด็กกิจกรรมคนหนึ่ง ก็ยิ่งต้องมีความรับผิดชอบทั้งด้านการเรียนและการทำกิจกรรม จึงแบ่งเวลาในช่วงวันหยุดเสาร์ อาทิตย์ ในการเตรียมตัวสอบ โดยการทบทวนหนังสือส่วนใหญ่เป็นการนำหนังสือ และข้อสอบย้อนหลังมาอ่านทบทวน ซึ่งจะทำให้เข้าใจแนวทางข้อสอบซึ่งเป็นวิธีที่ดีมากและเข้าใจง่าย
       
       พิมพ์นภา กล่าวต่อว่า ในส่วนของครอบครัวนั้นได้ให้การสนับสนุนเป็นอย่างดี เต็มที่ ไม่มีการบังคับ อยากเรียนอะไรก็ให้เรียนตามที่ต้องการ อย่างไรก็ตามทั้งพ่อแม่ถือว่าเป็นกำลังใจสำคัญที่ทำให้ตนประสบความสำเร็จในสิ่งที่ต้องการ อีกส่วนหนึ่งคืออาจารย์ก็มีส่วนสำคัญที่คอยเป็นกำลังใจและคอยแนะนำในเรื่องการเรียนทุกๆ เรื่อง
       “ที่เลือกเรียนนิเทศฯ เพราะชอบงานด้านบันเทิง และงานด้านการประชาสัมพันธ์ ทั้งนี้ตั้งเป้าว่าจะนำความรู้ที่ได้มาประกอบใช้กับธุรกิจของทางครอบครัว ทั้งนี้เมื่อได้เข้ามาเรียนที่นี่ ก็อยากมีโอกาสได้เป็นคนอัญเชิญพระเกี้ยว ซึ่งจะถือเป็นเกียรติอย่างยิ่ง” น้องพิมพ์ กล่าว
       
       พิมพ์นภา กล่าวอีกว่า ตนอยากฝากไปถึงเพื่อนๆ ที่พลาดหวังกับการสอบในครั้งนี้อยากให้ทกคนมีกำลังใจ เพราะถึงแม้จะไม่ติดในคณะที่ตั้งใจไว้ ก็เชื่อว่าจะผ่านตรงนี้ไปได้ และได้เรียนในที่ที่ดีต่อไปเช่นกัน เพราะเพียงแค่สอบไม่ติดก็ไม่ใช่คำตอบสุดท้ายของชีวิต
       
       "พิชชา ลีลาพรพิสิฐ" หรือ ส้ม จากร.ร.มงฟอร์ตวิทยาลัย (แผนกมัธยม) สอบได้ที่ 1 คณะพาณิชยศาสตร์และการบัญชี จุฬาฯ กล่าวว่า ตนจะพูดกับตัวเองว่าเมื่อจะทำอะไรก็จะทำอย่างถึงที่สุด ต้องมีความพยายาม เพื่อเดินไปให้ถึงเป้าหมาย ทั้งนี้ทางครอบครัวได้ให้อิสระกับการเรียนอย่างเต็มที่ พร้อมทั้งส่งเสริมอย่างการเรียนพิเศษก็จะเลือกเรียนเอง และผู้ปกครองก็จะสนับสนุน ไปรับ ส่งเป็นประจำ
       
       พิชชา กล่าวต่อว่า ตนชอบเรียนคณิตศาสตร์ สนใจงานด้านเศรษฐกิจ รู้สึกว่าเมื่อได้เรียนแล้วตัวเองมีความสุข จึงพยายามตั้งใจที่จะสอบเข้าเรียนคณะนี้ให้ได้ เพราะเชื่อว่าจะทำให้ได้เรียนในสิ่งที่ชอบได้
       
       “สำหรับเพื่อนๆ ที่พลาดหวังก็ไม่อยากให้เครียดอะไรมา เพราะการสอบครั้งนี้ถือเป็นส่วนหนึ่งของชีวิต เพื่อนๆ ยังมีทางเลือกในการเรียนต่ออีกมากมาย ก็ไม่อยากให้สิ้นหวัง และจะขอเป็นกำลังใจให้ทุกคนสู่ต่อไป"
       
       อีกหนึ่งคนเก่ง "กรัณฑรัตน์ ครองสิริวัฒน์" หรือ กัน จากร.ร.เตรียมอุดมศึกษา สอบได้ที่ 1 คณะเศรษฐศาสตร์ จุฬาฯ กล่าวว่า รู้สึกดีใจและตื่นเต้นอย่างมากเมื่อทราบข่าวว่าสอบได้ ซึ่งถือว่าไม่ได้คาดหวังอะไรมากเพราะที่ผ่านมาก็จะพยายามตั้งใจเรียนในห้องให้เต็มที่ ซึ่งตนก็ไม่ชอบเรียนกวดวิชาจึงต้องตั้งใจทบทวนบทเรียนอย่างสม่ำเสมอ ในส่วนของครอบครัวก็ได้ให้ความช่วยเหลือคอยเป็นกำลังใจให้อย่างเต็มที่ สำหรับการเลือกคณะนั้นพ่อแม่ก็ให้เลือกเรียนในสิ่งที่ชอบ ไม่ได้บังคับอะไร
       
       ขณะที่ “ณัฐพร ตองอ่อน” หรือ โดนัท หนุ่มพิการทางสายตา ทำการสอบได้ที่ คณะคุรุศาสตร์ (สังคมศึกษา) มรภ.บ้านสมเด็จเพระยา หนุ่มพิการทางสายตาเผยว่า ดีใจที่ได้เรียนยังคณะที่ต้องการ เพราะฝันอยากเป็นครูสอนคนตาบอด ตลอดจนพ่อกับแม่ตนเองก็อยากให้เป็นครู
       
       “ที่ผ่านมานับว่าผมก็พยายามทั้งอ่านและก็ทำแบบฝึกหัดข้อสอบเก่าๆ ผ่านทางเว็บไซต์ โดยสำหรับการทำข้อสอบเก่าย้อนหลังแบบคนตาบอดอย่างผมค่อนข้างที่จะยากเย็นกว่าคนปกติ เพราะต้องทำผ่านเว็บและใช้โปรแกรมเสียง ส่วนการอ่านก็อ่านผ่านอักษรเบลล์ แต่มันก็พิสูจน์แล้วว่าความพยายามอยู่ไหนความสำเร็จอยู่นั่น โดยหลังจากนี้ผมตั้งใจมุ่งมั่นเรียนในสาขาครู แม้อาจจะต้องย้ายจากประจวบเรียนมากรุงเทพฯแต่ก็คงต้องปรับตัวกันไป ส่วนกิจกรรมในมหาวิทยาลัยผมคงต้องขอดูอีกทีว่าพอจะทำอะไรได้บ้าง” หนุ่มโดนัท ระบุ

 

ที่มา ผู้จัดการ 7 พ.ค.53


รับข่าวสารและโปรโมชั่น
Username
Password
สมัครสมาชิก | ลืมรหัสผ่าน
 


agent ศึกษาต่อต่างประเทศ เรียนต่อนอก ทุนการศึกษา

agent ศึกษาต่อต่างประเทศ เรียนต่อนอก ทุนการศึกษา

เอเจนท์ศึกษาต่อต่างประเทศ เรียนต่อ ทุนการศึกษา