สำนักทะเบียนและประมวลผล มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ประกาศ การรับสมัครคัดเลือกนักเรียนเข้าศึกษาในโครงการพัฒนาคุณภาพการศึกษาและชุมชน ประจำปีการศึกษา 2555ได้เลื่อนเวลาเปิดรับสมัคร จากวันที่ 14 ตุลาคม 2554 เป็นวันที่ 15 ตุลาคม 2554 เนื่องจากมีเหตุขัดข้องทางเทคนิค นะคะ อดใจรอกันอีกวัน ^^ สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม สำนักทะเบียนและประมวลผล มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ 239 ถ.ห้วยแก้ว ต.สุเทพ อ.เมือง จ.เชียงใหม่ 50200 โทร.0-539-43071 http://www3.reg.cmu.ac.th/ugradadmissions/ ศูนย์ข่าวการศึกษาไทย

Coopération Internationale Pour l’Aide aux Dépendances  International cooperation for the promotion of elderly care สมาคมความร่วมมือระหว่างประเทศเพื่อส่งเสริมการดูแลผู้สูงอายุ ระเบียบทุนการศึกษา ทุน ส.ค.ร.ส. ของสมาคมความร่วมมือระหว่างประเทศเพื่อส่งเสริมการดูแลผู้สูงอายุ ---------------------------------   ๑. สมาคมความร่วมมือระหว่างประเทศเพื่อสงเสริมการดูแลผู้สูงอายุ  มีวัตถุประสงค์ที่จะส่งเสริมและพัฒนาการดูแลการเอาใจใส่และการให้ความเคารพผู้สูงอายุ ในการนี้ทางสมาคมตระหนักถึงความสำคัญของบุคลากรที่ปฏิบัติหน้าที่ดูแลผู้สูงอายุ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง อาชีพพยาบาล การศึกษาทางด้านพยาบาลศาสตร์ผู้สูงอายุในระดับที่สูงขึ้นหลังจากได้รับปริญญาตรีพยาบาลศาสตร์ย่อมมีผลประเสริฐต่อคุณภาพการดูแลเอาใจใส่ผู้สูงอายุ ดังนี้ทางสมาคมจึงได้จัดให้มีทุนการศึกษาต่อต่างประเทศในสาขาพยาบาลศาสตร์ทางด้านพฤฒาวิทยาพยาบาลศาสตร์ผู้สูงอายุ (Gérontologie)    อนึ่ง คณะกรรมการบริหารสมาคมฯจึงได้ตั้งคณะกรรมการบริหารทุนการศึกษาของสมาคมฯ เพื่อรับผิดชอบบริหารทุนการศึกษาซึ่งสมาคมจัดหามาได้   ๒. ทุนการศึกษานี้ มุ่งหมายจะช่วยนิสิต นักศึกษาพยาบาลปีที่สี่ หรือ พยาบาลที่สำเร็จการศึกษามาแล้วเป็นเวลาไม่เกินแปดปีและเป็นผู้ที่เรียนดีหรือมีประสบการณ์ทำงานสูงแต่ขาดแคลนทุนทรัพย์ ไม่สามารถศึกษาต่อต่างประเทศได้   ๓. คณะกรรมการบริหารของสมาคม ได้แต่งตั้งคณะกรรมการขึ้นคณะหนึ่งซึ่งเรียกว่าคณะกรรมการบริหารทุนการศึกษา เพื่อทำหน้าที่บริหารงานเกี่ยวกับทุนการศึกษานี้ เช่น การคัดเลือก นิสิต นักศึกษา ที่สมควรได้รับทุน การติดตามผลการศึกษาของผู้รับทุน เป็นต้น กรรมการคณะนี้ ประกอบด้วย ผู้แทนของสมาคม ตัวแทนสถาบันการศึกษาจากต่างประเทศ และ/หรือ บุคคลอื่นที่คณะกรรมการบริหารสมาคม เห็นสมควร   ๔. คุณสมบัติของผู้สมัครขอรับทุน มีดังต่อไปนี้ (๔.๑) เป็น นิสิต นักศึกษา ไทย ซึ่งกำลังศึกษาอยู่ในปีสุดท้ายของการศึกษาในคณะพยาบาลศาสตร์ในประเทศไทย รวมถึง พยาบาล ไทย ที่สำเร็จการศึกษาในสาขาพยาบาลศาสตร์มาแล้วเป็นเวลาไม่เกินแปดปี (๔.๒) มีอายุระหว่าง ๒๐ – ๓๕ ปี ณ เวลาที่ยื่นใบสมัคร (๔.๓) มีผลการเรียนอยู่ในเกณฑ์ดี มีคะแนนเฉลี่ยไม่ต่ำกว่า ๒.๕ (๔.๔) มีฐานะปานกลาง ถึงยากจน และมีความปรารถนาอย่างแรงกล้าที่จะศึกษา และมีประสบการณ์การใช้ชีวิตในต่างประเทศ (๔.๕) มีความประพฤติเรียบร้อย และมีความขยันหมั่นเพียร (๔.๖) มีสุขภาพที่ไม่เป็นอุปสรรคต่อการศึกษา   ๕. การยื่นใบสมัคร (๕.๑) ผู้ที่ประสงค์จะขอรับทุน ต้องอ่านระเบียบทุนฉบับนี้ให้เข้าใจ และต้อง แจ้งความจำนงค์ต่อสำนักงานของสมาคม ส.ค.ร.ส. (๕.๒) ผู้ขอรับทุน ต้องปฏิบัติดังนี้ (ก) ผู้สมัครต้องกรอกใบสมัครที่เขียนด้วยลายมือตนเองหนึ่งฉบับส่งมาทางไปรษณีย์ เรียนนายกสมาคมสมาคมความร่วมมือระหว่างประเทศเพื่อส่งเสริมการดูแลผู้สูงอายุ (ส.ค.ร.ส.)  อาจารย์ บุญประกอบ จิตมหาวงศ์  ที่ สำนักงานส.ค.ร.ส. ๒๕/๖๒๙ ถนนแจ้งวัฒนะ อำเภอปากเกร็ด จังหวัดนนทบุรี ๑๑๑๒๐ (ผู้ที่สนใสามารถดาวน์โหลดใบสมัครได้ที่ www.cipade.org) (ข) ผู้สมัครต้องส่งรูปถ่าย ๓ รูป ขนาด ๔ x ๖ ซ.ม. หน้าตรงไม่ สวมหมวก ซึ่งถ่ายไว้ไม่เกิน ๖ เดือน พร้อมกับใบสมัคร (ค) ผู้สมัครต้องส่งใบรับรองแพทย์   ๖. การคัดเลือก คณะกรรมการบริหารทุนการศึกษาของสมาคม จะเป็นผู้พิจารณา คัดเลือกหรือคัดเลือกผู้รับทุน แล้วนำผลการพิจารณาเสนอต่อ คณะกรรมการบริหารสมาคม เพื่อตัดสินและชี้ขาดตัวบุคคลที่สมควรจะได้รับทุน คณะกรรมการจะแจ้งผลให้ผู้รับทุนทราบผ่านทาง จดหมาย และทางเว็บไซต์ของสมาคมฯ(www.cipade.org)   ๗. การเพิกถอนสิทธิ์ของผู้รับทุน (๗.๑) เสียชีวิต (๗.๒) ถูกให้ออกจากสถานศึกษา โดยมีความผิด หรือประพฤติตนเสื่อมเสีย ไม่สมควรแก่วัยหรือแก่สภาพของนักศึกษา (๗.๓) ขาดคุณสมบัติข้อ ๔ (๔) , (๕) และ (๖) (๗.๔) สละสิทธิ์ โดยมีหลักฐานเป็นลายลักษณ์อักษร (๗.๕) สอบตกตามเกณฑ์ของมหาวิทยาลัย และกรรมการบริหารทุนการศึกษาเห็นควรงดให้ทุน (๗.๖)  เมื่อสมาคม ไม่ประสงค์จะให้ทุนต่อไปด้วยเหตุผลอันชอบธรรม   ๘. การบริหารทุน (๘.๑) ทุนการศึกษานี้ มีมูลค่าไม่ต่ำกว่า ๕๐๐,๐๐๐ บาท การจ่ายเงินทุนให้เป็นงวดๆ ปีการศึกษาละ๑ครั้ง โดยทั้งนี้  สมาคมจ่ายตรงต่อสถาบันศึกษาที่รับนักเรียนทุนเข้าเรียนต่อ และ หน่วยงานที่ดำเนินเรื่อง (๘.๓) ผู้รับทุนต้องปฏิบัติตามระเบียนทุนและข้อสัญญาอันเป็นธรรมที่ผู้รับทุนลงนามไว้กับสมาคม หากผู้รับทุนผิดข้อสัญญาตามระเบียบการรับทุน เช่น ละทิ้งการศึกษา หรือ ละทิ้งการฝึกงานระหว่างการศึกษา ผู้เข้ารับทุนต้องชดใช้จำนวนเงินที่ทางสมาคมใช้ในการดำเนินการในวงเงินไม่เกิน ๕๐๐,๐๐๐ บาท (๘.๒) ผู้ได้รับทุนต้องรายงานผลการศึกษาต่อคณะกรรมการบริหารทุนการศึกษาของสมาคมฯ เป็นประจำทุกๆสามเดือน มิฉะนั้นจะไม่ได้รับทุนการศึกษา ในภาคเรียนต่อๆ ไป      สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม France : 12, rue des Bernardins, Paris 75005, Tél : (++33) 0954044245, (++33)             06 1728 9320   (Association Loi 1901) Thaïlande : 25/629, Chaeng Wattana Road, Parkkret, Nonthaburi 11120, Tél : (++66)  02 584 5738 , (++)088 091 4947      E-mail : cipadeasso@gmail.com Site Internet : www.cipade.org  

         คณะประมง มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์มีความประสงค์จะรับสมัครนักเรียนที่กำลังศึกษาอยู่ในชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 หรือนักเรียนที่สำเร็จการศึกษาในระดับมัธยมศึกษาตอนปลายเพื่อเข้าศึกษาต่อระดับปริญญาตรี ประจำปีการศึกษา 2555 ดังรายละเอียดต่อไปนี้   หลักสูตรวิทยาศาสตรบัณฑิต (สาขาวิชาประมง) จำนวน 138 คน คุณสมบัติของผู้มีสิทธิ์สมัคร 1. เป็นนักเรียนที่กำลังศึกษาอยู่ในชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 หรือนักเรียนที่สำเร็จการศึกษาในระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย สายวิทย์ - คณิต 2. มีแต้มระดับคะแนนเฉลี่ยสะสมตลอด 5 ภาคการศึกษา (นับตั้งแต่ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4จนสิ้นสุดภาคต้นของชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6) ไม่ต่ำกว่า 2.25    วันรับสมัคร รับสมัครตั้งแต่วันจันทร์ที่ 23 ธันวาคม 2554 - วันศุกร์ที่ 6 มกราคม 2555   วิธีการสมัคร 1. ดาวน์โหลดใบสมัครที่เอสารประกอบข่าวด้านล่าง 2. กรอกใบสมัคร พร้อมให้อาจารย์ประจำชั้น และผู้อำนวยการหรืออาจารย์ใหญ่รับรอง พร้อมกับหลักฐานการสมัคร และส่งเอกสารมาที่ โครงการรับนิสิต (โดยวิธีรับตรง) คณะประมง มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ วิทยาเขตบางเขน  เขตจตุจักร กรุงเทพมหานคร 10900   เกณฑ์การตัดสินผู้มีสิทธิ์เข้าศึกษา 1. ตัดสินจากการเรียงลำดับคะแนนค่าน้ำหนักดังนี้ GAT (ความถนัดทั่วไป) 20% PAT 1 (คณิตศาสตร์) 20 % PAT 2 (วิทยาศาสตร์) 30% วิชาเฉพาะด้านประมง 30% 2. ผ่านการสอบสัมภาษณ์     ***ผู้สนใจสามารถดาวน์โหลดประกาศรับสมัคร ใบตรวจเอกสาร และใบสมัครของโครงการได้ที่เอกสารประกอบข่าวด้านล่างนะคะ     สอบถามเพิ่มเติมที่ หมายเลขโทรศัพท์คณะประมง 02-9428364, 029428936  โทรสาร 02-9428364 http://www.fish.ku.ac.th/    โดยศูนย์ข่าวการศึกษาไทย (ENN) 14 ต.ค. 54  

  1. สมัครในโครงการเรียนดี  เริ่มรับสมัคร วันจันทร์ที่ 10 ต.ค. 54 – วันศุกร์ที่ 25 พ.ย. 54 ***โดยผู้สมัครติดต่อคณะวิชา ตามสาขาสังกัดที่ตนสนใจเพื่อขอรับแบบฟอร์มการสมัคร รายละเอียดกำหนดการ ตรวจสอบสาขาที่สมัครที่ท่านสามารถสมัครได้จาก ที่นี่ (โครงการนี้รับเฉพาะนักศึกษาภาคในเวลา)   2. สมัครในโครงการปกติภาคในเวลาราชการ เริ่มรับสมัคร วันอังคารที่ 1 พ.ย. 54 – วันจันทร์ที่ 26 ธ.ค. 54 แบบออนไลน์ผ่านทางเว็บไซต์นี้ รายละเอียดกำหนดการ   3. สมัครในโครงการปกติภาคนอกเวลาราชการ (ภาคสมทบ)  เริ่มรับสมัคร  วันพุธที่ 1 ก.พ. 55 – วันจันทร์ที่ 30 เม.ย. 55 แบบออนไลน์ผ่านทางเว็บไซต์นี้ รายละเอียดกำหนดการ     สาขาที่รับสมัคร รายละเอียดดังต่อไปนี้ ติดต่อสอบถามข้อมูลก่อนการสมัคร  โทร 02-9426900 ต้องการสอบถาม กรุณาต่อ  สอบถามข้อมูลด้าน วิชาการ หลักสูตร เนื้อหารายวิชา  คณะวิทยาศาสตร์ ต่อ 5006  คณะศึกษาศาสตร์ ต่อ 2005  คณะวิทยาการจัดการ ต่อ 4005  คณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ ต่อ 3003  คณะเกษตรและชีวภาพ ต่อ 6005  สอบถามข้อมูลด้าน คุณสมบัติ กำหนดการ เวลาเรียน การเทียบโอน หลักฐานการสมัคร ต่อ 1212  สอบถามข้อมูล แก้ปัญหาด้านเทคนิคการสมัคร on-line ต่อ 1978    เว็บไซต์หลัก  http://admission.chandra.ac.th/

สวัสดีค่ะน้องๆ มาอัพเดทข่าวรับตรงกับพี่มิ้นท์กันเหมือนเคย... วันนี้เอาใจน้องๆ ที่ชอบวิทยาศาสตร์ เพราะคณะที่จะมาบอกข่าวกัน ก็คือ คณะวิทยาศาสตร์ ม.เกษตรนั่นเอง โดยเปิดรับตรง ในโครงการเพชรนนทรี ใครอยากเรียน ยกมือขึ้น...(แล้วจับเม้าส์เลื่อนดูรายละเอียดกันเลย) เด็กซิ่วก็สมัครได้นะ   สาขาและจำนวนรับ          รับรวม 300 คน น้องๆ สามารถเลือกได้ 3 อันดับ จากสาขาวิชาดังต่อไปนี้           คณิตศาสตร์                  20 คน           เคมี                           25 คน           ชีววิทยา                      10 คน           สถิติ                           20 คน           รังสีประยุกต์และไอโซโทป(วิทยาศาสตร์ชีวภาพรังสี) 20คน           ฟิสิกส์                         20 คน           จุลชีววิทยา                    35 คน           พันธุศาสตร์                    30 คน           พฤกศาสตร์                    20 คน           สัตววิทยา                     10 คน           ชีวเคมี                         20 คน           วิทยาการคอมพิวเตอร์         20 คน           วิทยาศาสตร์สิ่งแวดล้อม      20 คน           วิทยาศาสตร์พื้นพิภพ          20 คน           เคมีอุตสาหกรรม               10 คน   กำหนดการ        15 พ.ย. - 31 ธ.ค.      รับสมัคร         1 ก.พ. 55                ประกาศรายชื่อ รอบที่ 1        2 - 9 ก.พ.55            ผู้มีสิทธิ์ได้รับคัดเลือกรอบที่ 1 ยืนยันสิทธิ์เข้าศึกษา        17 ก.พ.55               ประกาศรายชื่อ รอบที่ 2        18 - 24 ก.พ.55         รายชื่อรอบที่ 2 ยืนยันสิทธิ์เข้าศึกษา     **รายชื่อที่ยืนยันสิทธิ์ในโครงการนี้จะถูกตัดสิทธิ์ในแอดมิชชั่นกลาง   เกณฑ์พิจารณา       - เกรดเฉลี่ยสะสม ไม่ต่ำกว่า 2.5 ( ม.6 ใช้ 4 เทอม, เด็กซิ่ว ใช้ 6 เทอม)       - GAT ความถนัดทั่วไป ไม่น้อยกว่า 20%       - PAT1 ความถนัดทางคณิตศาสตร์ ไม่น้อยกว่า 20%       - PAT2 ความถนัดทางวิทยาศาสตร์ ไม่น้อยกว่า 20% โดยกรรมการจะพิจารณาคะแนนรวมทั้ง 3 วิชา จากคะแนนสูงสุดไปคะแนนน้อยสุด                   คณะวิทยาศาสตร์ เป็นคณะยอดฮิตที่มีทุกมหาวิทยาลัยก็ว่าได้ เพราะมีหลักสูตรให้เรียนเยอะ คนก็เลยเรียนเยอะมากๆ แต่ก็เรียนหนักและยากมากๆ เหมือนกัน ดังนั้นใครเรียนแล้วจบคณะนี้ถือว่าสุดยอดจริงๆ              ใครอยากเรียนที่นี่ ก็เข้าไปอ่านรายละเอียดและสมัครในช่วงเวลาที่กำหนดด้วยนะ พิจารณาแค่คะแนน GAT/PATและเกรด ไม่ต้องสอบข้อเขียน สบายบรื๋อ แถมยังมีโอกาสได้ทุนเรียนฟรีอีกด้วย ขอขอบคุณ : http://www.dek-d.com/   คนที่ได้คะแนนสูงสุด 20 อันดับแรก ได้ทุนการศึกษาตลอดหลักสูตร 60,000 ต่อคนต่อปีอีกด้วย   อ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >> คลิกที่นี่           

 สวัสดีครับ.. ใครที่กำลังกลุ้มใจอยู่ว่า จะเอาตัวรอดในวิชามหาโหด GAT พาร์ทEng ยังไง วันนี้ พี่ลาเต้ มีตัวช่วยมาบอกแล้วครับ เป็นสูตรลับต้นฉบับจาก “เด็กเตรียมฯ พัฒนาการ” เป็นยังไงไปอ่านพร้อมกันเลยครับ ขอขอบคุณ : http://www.dek-d.com/      สวัสดีครับ แนะนำตัวให้เพื่อนๆ ชาวเด็กดีได้รู้จักกันหน่อย            สวัสดีจ๊ะ เราชื่อน.ส.กันตรัตน์ นามสมมุติ ทรายนะ เรียนอยู่โรงเรียนเตรียมอุดมศึกษาพัฒนาการ แผนวิทย์-คณิต แต่อยากเรียนรัฐศาสตร์/สังคมวิทยา     ทำไมถึงอยากเรียนคณะนี้เหรอครับ            คือทรายเรียนกวดวิชาแห่งหนึ่ง แล้วได้เรียนเรื่องสังคมวิทยา ชอบแบบไม่เคยชอบมาก่อน เราก็คิดว่านี่แหละ!!!!! คือที่ของเรา เรา เรา เรา(เสียงก้อง) 555 คือมันอาจดูเวอร์ไปหน่อย เราเรียนวิทย์มาตอนแรกเราก็อยากเรียนต่อทางวิทย์ฯ แต่พอจบแล้วเราต้องสอบใบประกอบวิชาชีพใช่มั้ย แล้วเราคิดว่าถ้าเราเรียนแบบถูๆ ไถๆ แบบมัธยมเขาไม่ให้เราจบแน่ เพราะต้องทำงานกับชีวิตคน เราชอบเรียนไทย-สังคม-ประวัติศาสตร์ เราเลยคิดว่ามาเรียนสิ่งที่เราชอบแล้วได้ช่วยเหลือคนอื่นจากรากฐาน จากพื้นฐานสังคมของบุคคลนั้นๆ ได้ ซึ่งเราว่ามันเป็นสิ่งสำคัญของประเทศเรานะโดยที่ไม่ต้องใช้วิทย์ฯ (นางสาวไทยป้ะล่ะ) ฮ่าๆๆ แต่ที่เราพูด คือสิ่งที่เราคิดจริงๆ และเราคิดว่าเริ่มมีคนหมันไส้เราและ หึหึ -_-   เรียนจบคณะนี้แล้ว อยากทำงานอะไรเหรอครับ            รับราชการ ในกระทรวงพัฒนาสังคม   รู้อะไรเกี่ยวกับที่อยากเรียนบ้างครับ            เอ่อแปปนะ... หาข้อมูลที่ถูกต้องเพื่อเพื่อนๆ เผื่อใครอยากเรียนแล้วหลงมาอ่าน เราไม่มั่นใจว่าที่เรารู้ถูกแน่เปล่า55 คือ… สังคมวิทยาอะมันแบบเรียนโครงสร้างสังคม คือมันคล้ายๆ สังคมสงเคราะห์แหละ แต่ว่ามันจะเน้นด้านวิจัย, ด้านทฤษฎี มากกว่าปฏิบัติ แต่ที่เขียนไว้ว่าอยากเข้ารัฐศาสตร์ เพราะของจุฬาฯ สาขาสังคมวิทยา จะอยู่ในคณะรัฐศาสตร์ ซึ่งจะได้เรียนพื้นฐานทางรัฐศาสตร์ด้วย เราชอบ เราอยากเรียนหลายอย่าง (อย่างเดียวให้รอดก่อนมั้ย ว่าตัวเอง)      4 คณะที่จะเลือกตอนแอดมิชชั่น มีคณะอะไรบ้างครับ           อันดับ 1 คณะรัฐศาสตร์ จุฬาฯ (เหตุผลก็อย่างที่บอกว่าปี1-2 ได้เรียนพื้นฐานทางรัฐศาสตร์ปี 3 ค่อยเรียนเอกตามสาขาที่เลือก ก็คือสังคมวิทยาฯ แล้วก็มีที่เดียวที่เรียนสังคมวิทยา แล้วได้วุฒิรัฐศาสตร์บัณฑิตค่า อาจเอาไปสอบปลัดฯได้ ถ้าเกิดมีอะไรเปลี่ยนแปลง เพราะนี่ก็เป็นอีกอาชีพที่สนใจ)             อันดับ 2 คณะสังคมวิทยาและมานุษวิทยา ม.ธรรมศาสตร์ (เหตุผลเพราะเรียนสังคมวิทยาฯที่อยากเรียน ครอบครัวธรรมศาสตร์เขาบอกว่าอบอุ่นมาก)             อันดับ 3 คณะสังคมศาสตร์ ม.เกษตรศาสตร์ (เหตุผลเราก็เลือกสาขาสังคมวิทยาฯ ที่อยากเรียน เป็นมหาวิทยาลัยรัฐอีกที่ที่อยู่ในกรุงเทพฯ)             อันดับ 4 คณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ ม.ขอนแก่น (เลือกสาขาสังคมวิทยาฯ ที่นี่คะแนนต่ำหน่อย และคิดว่าไม่น่าหลุด ถ้าติดอาจได้พูดสำเนียงอีสานเป็นด้วย อิอิ)   GAT PAT 1/55 สมัครสอบวิชาอะไรไปบ้าง           สอบGAT PAT1 (เลข), 2(วิทย์ฯ), 7.6(บาลี) สอบที่รร.เราเองเตรียมพัฒน์ฯ เพื่อนๆ คงงงว่าเราสอบแพทวิทย์ฯทำไม เราแค่อยากรู้ว่าที่เรียนวิทย์มา 3 ปี เราได้อะไรบ้าง เราจะทำได้มั้ย โดยที่เอาที่มันมีอยู่ในหัวเราไม่อ่าน 55    ลุยฟิต GAT PAT วิชาไหนเป็นพิเศษ และคาดหวังไว้กี่คะแนน           ฟิต GAT มากที่สุด เพราะว่าใช้เปอร์เซ็นต์เยอะมาก ก็เรียนพิเศษ แล้วก็มีหนังสือข้อสอบเก่า แต่ไม่ค่อยได้อ่านได้ฝึกทำ เพราะตอนนี้ต้องทำเกรดในห้องให้ดีด้วย คือเราหวังรอบAdmission คณะที่เราเลือกไว้จำนวนรับจากรอบ Admission เยอะกว่า ก็คาดหวัง GATเชื่อมโยงเอาให้เต็ม150 GATอังกฤษ80+ / ถ้าเกณฑ์การรับเหมือนปีก่อน คือที่จะเข้าไม่ใช้ PAT ก็ดีไป แต่ถ้าใช้ก็ให้เลือกยื่น PAT1 หรือ PAT7 ก็ได้             เราก็ลงสอบไปทั้งสองอันเลย เลขก็ไม่เก่ง มันพลิกแพลงได้เราไม่ชอบ แต่ถ้าฝึกทำโจทย์เยอะๆ ก็สบาย แต่ก็บอกแล้วว่าเราไม่ชอบ 55 ,ส่วนPAT7 เลือกภาษาบาลีไป เพราะว่าไม่ได้ซักภาษา แต่ภาษาบาลียังเขียนภาษาไทย คิดว่าน่าจะเดาได้มากกว่า และก็เรามีหนังสือสอนบาลีไวยกรณ์ เคยอ่านแล้วมึนมาก เลยให้เพื่อนที่จะสอบภาษาบาลีเหมือนกันเอาไปอ่านและ -_-     บอกเคล็ดลับทำข้อสอบ GAT พาร์ท Eng ฉบับ “เด็กเตรียมพัฒน์” มาหน่อย           Grammar เราว่าต้องแม่น ดูโครงสร้าง structure(เขียนงี้เปล่าหว่า)นั่นแหละๆ ซักอย่าง เพราะบางพาร์ทไม่จำเป็นต้องแปล แต่ต้องดูโครงสร้างประโยคถึงจะทำได้ แต่ห้ามทิ้งศัพท์เด็ดขาด เวลาว่างก็อ่านศัพท์ อยู่บนรถ นั่งส้วม ก่อนนอน เดินๆ อยู่ก็เอาขึ้นมาอ่าน คือเขียนใส่กระดาษใบเล็กๆ ไว้ในกระเป๋ากระโปรง เอาที่เราหยิบได้ง่าย พร้อมอ่านทุกเวลา แล้วก็เอาข้อสอบเก่ามานั่งทำ อันนี้สำคัญมากนะ คือบางศัพท์บางคำเราว่าเราท่องหลายรอบแล้ว เหมือนจะจำได้ แต่พอมาเจอในข้อสอบจริงๆ มันเปลี่ยนจาก verb เป็นnoun เราก็งงและ เพราะฉะนั้นจะต้องเจอในข้อสอบจริงเราจะแม่นมากขึ้น ,พวกโครงสร้างก็เหมือนกัน เจอบ่อยๆก็จะจับจุดได้เอง    เทคนิคการเดาข้อสอบของคุณ คืออะไร           จิ้มๆ วนตัวเลือกแล้วแต่มือเรา จิ้มข้อ 1 อาจกระโดดไป 3 แล้วกลับมา 1 ไรงี้ แล้วแต่เซนส์ แล้วก็ร้องเพลงไปด้วยว่า “ตดเขียด ตดปาด ตดรดผ้าขาด ตดเน่า ตดหนอน พระอินทร์ถือศร แล่นปั๋งดังปู้ด” เพลงนี้แม่เคยร้องให้ฟังนานมากแล้ว นึกได้ก็ร้องตั้งแต่ประถม ไม่รู้มันติดมาจนถึงตอนนี้ได้ยังไง เวลาทำไม่ได้ก็ร้องเพลงนี้ตลอดแล้วก็จิ้มๆ ไปเรื่อยๆ ได้ข้อไหน สมมุติข้อ 2 ก็ดิ่ง 2 หมดเลยในข้อที่ยังไม่ได้/แต่ถ้าเป็นเติมคำ ก็ใช้เซนส์ที่คิดว่าน่าจะใช่ตอบเองเลย อย่าไปหวั่น! ดีกว่าไม่ตอบนะจ๊ะ ถึงเปอร์เซ็นต์ที่ถูกมันจะน้อยนิด แต่เราก็บอกเพื่อนได้ว่าเราตอบแบบนี้ไปนะเว่ย เจ๋งมั้ยล่ะ!?     หากพูดถึงชีวิตของเด็ก ม.6 นึกถึงอะไรเป็นอันดับแรก           นึกถึงคำว่า “ปีสุดท้าย” ปีสุดท้ายที่จะได้แต่งชุดมัธยม ปีสุดท้ายที่จะได้อยู่กับเพื่อนเก่าที่บางคนอาจอยู่มาด้วยกัน 3 ปี, 6 ปี หรือมากกว่านั้น ปีสุดท้ายที่ได้เรียนในโรงเรียนที่ไปทุกวัน (ถ้าไม่ตกซ้ำชั้นนะ) ปีสุดท้ายที่ได้พยายามอ่านหนังสือแบบบางคนก็ไม่คิดว่าจะอ่านได้ขนาดนี้ (แต่บางคนสิ่งนี้อาจจะไม่ใช่ปีสุดท้ายเพราะรอซิ่ว)    สุดท้ายให้ฝากกำลังใจถึงเพื่อนๆ ที่เป็นเด็กแอดฯ 55 หน่อยคร๊าบ           ไม่ต้องไปกังวลว่าอ่านเยอะขนาดนี้สมองต้องระเบิดแน่ๆ เลย ไม่เคยมีใครอ่านเยอะจนตายนะ มีแต่คนที่อ่านเยอะแล้วทำได้ เพราะฉะนั้น สู้ ต้องสู้ถึงจะชนะ! ชนะนี้ คือชนะใจตัวเอง คาดหวังกับตัวเองไว้นะว่าเราจะทำให้ได้ขนาดไหน แล้วพยายามทำให้ได้ มันจะรู้สึกภูมิใจสุดๆ ถ้าใครไม่ติดก็ไม่เป็นไร อาจรอซิ่ว หรือไม่ก็ที่เรียนที่อื่นมีอีกมากมายนะ ถ้าเราไม่เลือกงาน จบจากที่ไหนก็มีงานทำ แล้วก็นะอย่าลืมว่าปีสุดท้ายที่ได้อยู่กับเพื่อนในรั้วมัธยมเก็บช่วงเวลานี้ไว้ให้มากๆ              555 เป็นบทสัมภาษณ์ที่ พี่ลาเต้ ชอบมากๆ ได้ใจไปเต็มๆ เลย 555 เอาเป็นว่าขอให้น้องทราย และน้องๆ เด็กวิทย์หัวใจศิลป์ทุกคนสู้เต็มที่ อีกอึดใจเดียวก็ถึงฝั่งฝันแล้วครับ สุดท้ายนี้อ่านบทสัมภาษณ์ของ ทรายมาทั้งหน้าแล้ว เราไปฟังเสียงของเขากัน อิอิ โดนคลิปนี้ทรายเขาได้สวมวิญญาณเป็น "พี่ว๊าก" ในรอบออดิชั้น BAR 3 น่ากลัวมากกกก วินาทีที่ 0.50 เป็นต้นไปนะ ฮ่าฮา  

  ขอขอบคุณ : http://www.dek-d.com/  สวัสดีค่ะน้องๆ.. เมื่อกลางสัปดาห์ที่ผ่านมามีข่าวเลื่อนวันสอบ GAT/PAT รอบตุลาคม หลายคนก็ดีใจ แต่หลายคนที่พร้อมสอบก็สติกระเจิงเหมือนกัน แต่เชื่อว่าทุกอย่างจะผ่านไปได้ด้วยดีแน่นอน              และถึงแม้จะเลื่อนสอบ แต่บนหน้าเว็บของ สทศ.ก็ได้เอาตัวอย่างกระดาษคำตอบ GAT/PAT 1/2555 มาให้ดูกันแล้ว ถือซะว่าดูกันล่วงหน้า สร้างความคุ้นเคยกันเป็นเดือนเลย ว่าแล้วก็มาดูกันทีละฉบับเลยดีกว่า      **ถ้าอยากดูรูปขยายใหญ่ คลิกที่รูปได้เลย     กระดาษคำตอบ GAT พาร์ทเชื่อมโยง          กระดาษแผ่นนี้ มองนานๆ แล้วเหมือนโดนสะกดจิตยังไงก็ไม่รู้แฮะ ดูมีอะไรเยอะแยะเต็มไปหมดทั้ง 2 หน้า แต่จริงๆ แล้ว วิชานี้ไม่ยากมาก มีบทความเพียง 2 บทความ 20 ข้อ คะแนนเต็ม 150 คะแนน เหมือนปีที่ผ่านมา เพราะฉะนั้นมีแค่ 20 ข้อ กับเวลา 1.30 ชั่วโมง ลองทวนหลายๆ รอบ ใช้เวลาให้คุ้มค่า จะได้ได้เต็ม 150 รุ่นก่อนทำ GAT เชื่อมโยงได้เต็มกันเพียบ รุ่นนี้ก็ห้ามพลาด!!   กระดาษคำตอบ GAT พาร์ทภาษาอังกฤษ                             ถือว่าเป็นพาร์ทที่น่ากลัว สำหรับ GAT ภาษาอังกฤษ มีเวลาในการทำ 1.30 ชั่วโมงเท่ากันกับพาร์ทเชื่อมโยง แต่ข้อสอบมีทั้งหมด 60 ข้อ เป็นปรนัยทั้งหมด มีทั้งแบบ 4 ตัวเลือกและ 6 ตัวเลือก คะแนนในแต่ละส่วนไม่เท่ากัน ถ้ายากก็คะแนนเยอะ สูงสุดถึงข้อละ 3.5 คะแนน ถ้ายังไม่รู้ว่า ข้อสอบ GAT เป็นยังไง ลอง >>คลิกที่นี่ พี่มิ้นท์เคยอธิบายไว้แล้วค่ะ ดูแล้วก็ลองคำนวณดูว่าจะเก็บแต้มพาร์ทไหนเป็นพิเศษ เพราะเค้าว่ากันว่าทำเกือบไม่ทันด้วย             กระดาษคำตอบ PAT1 ความถนัดทางคณิตศาสตร์             จัดเต็ม 2 หน้าอีกแล้ว ใครว่าข้อสอบโรงเรียนโหด ต้องมาเจอ PAT1 ซะก่อน ถ้าใครหวังจะไปมั่ว พี่มิ้นท์เตือนว่าขอให้คิดดีๆ เพราะรูปแบบการออกข้อสอบนั้นไม่ได้ทำออกมาให้เอื้อต่อการเดาเลยซักนิด โดยข้อสอบจะแบ่งปรนัยและอัตนัยเท่าๆ กัน อย่างละ 25 ข้อ ปรนัยมี 4 ตัวเลือก ข้อละ 5 คะแนน รวม 125 คะแนน และอัตนัยอีก 25 ข้อ ข้อละ 7 คะแนน รวมเป็น 175 คะแนน ผิดอัตนัยข้อนึง คะแนนหายได้น่ากลัวมาก ซึ่งจากยอดการสมัคร GAT/PAT รอบนี้ ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อว่าเป็นวิชาที่คนสมัครเยอะที่สุด เกือบ 250,000 คนแน่ะ เอ้า..ใครสมัครก็สู้ๆ กันหน่อยละกัน อิอิ   กระดาษคำตอบ PAT2 ความถนัดทางวิทยาศาสตร์                   ใครที่ได้โหลดกระดาษคำตอบมาดูก่อนหน้านี้ คงได้เฮกันไปแล้วรอบนึง  เพราะ PAT2 รอบนี้ไม่มีอัตนัยเลยซักข้อ ดังนั้นสัดส่วนจำนวนข้อก็เปลี่ยนไปเล็กน้อย จากคราวที่แล้วมีปรนัย 97 ข้อ ปีนี้เป็นปรนัยล้วนๆ เลยเพิ่มมาไม่มากไม่น้อยเป็น 105 ข้อ โดย 30 ข้อแรกจะข้อละ 2.5 คะแนน และตั้งแต่ข้อ 31 เป็นต้นไปจนจบฉบับข้อละ 3 คะแนน ถือว่าน่ารักน่าลุ้น ใครสมัครไว้ก็ทำให้เต็มที่ คิดว่าคะแนนมีนน่าจะดีขึ้นจากรอบที่แล้วแน่นอน               กระดาษคำตอบ PAT3 ความถนัดทางวิศวกรรมศาสตร์          กระดาษคำตอบในวิชานี้ไม่เปลี่ยนแปลงจากปีที่แล้ว คือ มีทั้งปรนัย และอัตนัยเหมือนเดิม ซึ่งปรนัยจะแตกต่างจากวิชาอื่นก็ตรงที่เป็น 5 ตัวเลือกทั้งหมด มี 60 ข้อ คะแนนข้อละ 3 คะแนน ส่วนอัตนัย มีแค่ 20 ข้อเท่านั้น แต่ข้อละ 6 คะแนนเอ๊ง!! ดังนั้นว่าที่วิศวกรทั้งหลายทำคะแนนในส่วนของอัตนัยให้ดีๆ แล้วกันนะคะ เพราะว่าเทียบเป็นเปอร์เซ็นแล้ว คิดเป็น 40% ของข้อสอบทั้งหมดเชียว   กระดาษคำตอบ PAT4 ความถนัดทางสถาปัตยกรรมศาสตร์                         เป็นความถนัดทางวิชาชีพที่มีคนสมัครน้อยที่สุด แต่นั่นก็ไม่ได้หมายความว่าข้อสอบวิชานี้จะง่ายหรือน้อยลงแต่อย่างใด กระดาษคำตอบแบ่งเป็น 4 ตอน ตอนที่1 และ 2 ยังชิวๆ เป็นปรนัย รวมกัน 40 ข้อ ข้อละ 3 คะแนน ถัดไปตอนที่ 3 วัดความเชื่อมโยง มี 10 ข้อ ข้อละ 6 คะแนน ใครมึนส่วนนี้ก็เตรียมหายไป 60 คะแนนเลยนะ และปิดท้ายเป็นข้อสอบอัตนัยจำนวน 2 ข้อ ข้อละ 60 คะแนน ในส่วนนี้จะได้งัดทักษะขีดๆ เขียนๆ มาใช้กันอย่างเต็มที่แน่นอน (กระดาษคำตอบหน้า 2 ไม่ได้ยกมาให้ดูเป็นตัวอย่าง แต่กดดูที่รูปได้เลย จะขึ้นขนาดเต็มมาให้ดู)           กระดาษคำตอบ PAT5 ความถนัดทางวิชาชีพครู                  เป็นวิชาที่ถูกพูดถึงมากเหมือนกันนะ สำหรับวิชานี้ เพราะข้อสอบที่ออกมาหลายคนพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า "วัดความรู้รอบโลก" คือ ถามได้กว้างมากๆ จนไม่รู้ว่าวัดความเป็นครูตรงไหน แต่ไม่ต้องห่วงมีเพื่อนร่วมชะตากรรมอีกกว่า 200,000 คน        สำหรับตัวข้อสอบจะออกเป็นปรนัยทั้งหมด มี 4 ตัวเลือก จำนวน 150 ข้อ ข้อละ 2 คะแนน สอบวิชานี้น้องๆ ต้องอาศัยความไว เพราะจำนวนข้อเยอะมากๆ เฉลี่ยข้อละนาที คิดนานอาจจะทำไม่ทันกันนะ ดังนั้นถ้าอยากติดต้องติดตามข่าวสารให้มากๆ จะได้คะแนนดีๆ เพราะคณะศึกษาศาสตร์ ครุศาสตร์ใช้น้ำหนัก PAT5 ถึง 30% เลยทีเดียว         กระดาษคำตอบ PAT6 ความถนัดทางศิลปกรรมศาสตร์          ดูแล้วน่าจะเป็นข้อสอบที่เบาที่สุด ทั้งจำนวนข้อและคะแนน ที่พูดแบบนี้ก็เพราะว่า วิชานี้มีเพียง 100 ข้อ เป็นปรนัยทั้งหมด ในส่วนแรก 90 ข้อ ก็ข้อละ 2.5 คะแนนเท่านั้น ซึ่งวิชาอื่น ช้อยส์ตัวเลือกจะ 3 คะแนนทั้งนั้น และในตอนที่ 2 เป็นส่วนของเชื่อมโยง ก็ถือว่าเมตตาปรานีกันสุดๆ มีเพียง 10 ข้อ ซึ่งในแต่ละข้อจะต้องตอบอีก 3 หมวด ความใจดีอยู่ตรงนี้แหละ ถ้าตอบได้ซักหนึ่งในสาม ก็ยังได้คะแนนอยู่ แต่ถ้าตอบถูกครบทั้งข้อ รับไปเลยเต็มๆ 7.5 คะแนน เรียกได้ว่า คิดคะแนนตามจริงตามความสามารถค่า   กระดาษคำตอบ PAT7 ความถนัดทางภาษาต่างประเทศ               เพราะเป็นข้อสอบที่ดูชิวๆ ไม่น่ากลัวล่ะมั้ง วิชาในหมวดภาษาต่างประเทศ จึงเป็นวิชามารที่น้องๆ เลือกที่จะเข้าไปเดา ถ้าได้คะแนนดีก็เป็นทางเลือกไว้ยื่นคะแนนต่อไป เพราะหลายๆ คณะก็มีกำหนดว่าสามารถใช้ภาษาที่3 ยื่นได้ และถ้าดูจากกระดาษคำตอบ จะเห็นได้ว่าเป็นวิชาที่ดูเป็นมิตรที่สุดแล้ว คำถาม 100 ข้อ ข้อละ 3 คะแนน 300 คะแนนเต็มๆ ซึ่งวิชาที่มีกระดาษคำตอบแบบนี้ได้แก่ ภาษาเยอรมัน, ภาษาญี่ปุ่น, ภาษาจีน, ภาษาอาหรับ และภาษาบาลี         วิชาในกลุ่มนี้อาจมีข้อได้เปรียบเสียเปรียบกันอยู่บ้าง เพราะเค้าไม่ได้กำหนดคุณสมบัติคนที่จะสมัครสอบ ทำให้คนที่ไม่ได้เรียนภาษาที่ 3 เลือกสอบได้ เชื่อมั้ยว่าคนกลุ่มนี้ดันมีโชคด้านการเดาซะงั้น บางครั้งก็ได้คะแนนสูงกว่าคนที่เรียนและตั้งใจอ่านโจทย์ทุกข้อซะอีก                       แต่ในหมวด PAT7 มีวิชานึงที่กระดาษคำตอบแตกต่างจากพวก ก็คือ PAT7.1 ความถนัดทางภาษาฝรั่งเศส วิชานี้เป็นช้อยส์หมด 100 ข้อก็จริง แต่สัดส่วนคะแนนนั้นไม่เท่ากัน        ตอนที่ 1 มี 10 ข้อ เป็นช้อยส์ 4 ตัวเลือก แต่มีคำตอบที่ถูกต้อง 2 ข้อ ถ้าถูกหมดได้ 3 คะแนน แต่ถ้าถูกคำตอบเดียวเอาไปครึ่งคะแนน(1.5) พอ คะแนนในส่วนนี้มี 30 คะแนน ส่วนตอนที่ 2 เป็นช้อยส์ล้วน 90 ข้อ ข้อละ 3 คะแนน เพียวๆ 270 คะแนน       แต่ยังไงก็ตามหมวดภาษาต่างประเทศก็ดูน่าสนุกและน่าลุ้นมากที่สุด เพราะเป็นช้อยส์ทั้งหมด และมีเพียง 100 ข้อเอง (PAT5 ความถนัดวิชาชีพครู มีตั้ง 150 ข้อแน่ะ) ดังนั้น ใครเลือกสอบไปก็เข้าไปทำให้เต็มที่ๆๆ เลย รับรองว่าตอนเลือกคณะอาจเป็นตัวช่วยที่มีประโยชน์ก็ได้                อยากดาวน์โหลดเก็บไว้เอง >> คลิกที่นี่             เห็นกระดาษคำตอบแล้วคันไม้คันมืออยากสอบจริงกันบ้างรึยัง เอาเป็นว่าอดใจรอไปก่อน ถึงแม้ว่ากำหนดการสอบจะเปลี่ยนวัน แต่กระดาษคำตอบไม่เปลี่ยนแน่นอน เห็นแบบนี้แล้วก็อย่าลืมเตรียมตัวให้พร้อมมากขึ้นด้วยนะ เพื่อให้คุ้มค่ากับเวลาทีได้มามากขึ้นค่ะ อ้อ..ถึงแม้ GAT/PAT จะสอบได้ 2 ครั้ง แต่พี่มิ้นท์ก็อยากให้เต็มที่ตั้งแต่ครั้งแรกนะคะ จะได้มีโอกาสแอดติดมากๆ ไง^^              สุดท้าย พี่มิ้นท์ ปิดท้ายด้วยวิดีโอคลิป "กฎ 9 ข้อลุยสอบ GAT PAT (รู้ก่อนได้เปรียบ)" ใครที่ไม่อยากพลาดถูกหักคะแนนในห้องสอบโดยเฉพาะวิชาตระกูล PAT ทั้งหลายต้องคลิกดูเลย คลิปนี้นำแสดงโดยเพื่อนๆ 4 กัปตัน BAR3 ฮามากกกกกกกก

  ขอขอบคุณ : http://www.dek-d.com/ ผ่านมาเกือบครึ่งทางของชีวิตแอดมิชชั่นรุ่น 55 แล้ว แต่ระบบเคลียริ่งเฮ้าส์ที่เปิดใช้ปีนี้อาจจะยังไม่เข้าหัวใครหลายๆ คน  ทุกวันนี้สิ่งที่ทำได้ คือ เห็นเพื่อนทำอะไรก็ทำตาม ฮ่าๆ จะสับสน หรืองงอะไรก็แล้วแต่ ต้องรีบทำความเข้าใจกันหน่อยแล้วนะคะ จะได้ไม่เสียสิทธิ์ตัวเองนะ อิอิ             แต่ระบบที่ว่า อธิบายทีสองทีก็อาจจะยังอึ้งกิมกี่กันอยู่ พี่มิ้นท์ ก็เลยสรุปขั้นตอนในระบบเคลียริ่งเฮ้าส์แบบคร่าวๆ มาให้ดูกัน น่าจะช่วยชีวิตใครไว้ได้หลายๆ คน ก่อนอื่นต้องบอกก่อนว่าระบบเคลียริ่งเฮ้าส์เพิ่งเปิดใช้เป็นปีแรก เพื่อแก้ปัญหาเด็กกั๊กที่เรียน เพราะเป็นระบบที่ต้องเลือกเรียนแค่หนึ่งที่เท่านั้น สอบติดเยอะก็ต้องตัดสินใจเลือกว่าจะเอาอันไหน            ส่วนมหาวิทยาลัยที่เข้าร่วมระบบนี้มีทั้งหมด 25 มหาวิทยาลัย ส่วนใหญ่ก็เป็นมหาวิทยาลัยที่รู้จักกันดีอยู่แล้ว คือ จุฬาฯ, ม.ธรรมศาสตร์, ม.เกษตรฯ, ม.มหิดล, มศว, ม.ขอนแก่น, ม.แม่ฟ้าหลวง, ม.เชียงใหม่, ม.ศิลปากร, ม.เทคโนฯ 3 พระจอม, ม.ทักษิณ, ม.นเรศวร, ม.พะเยา, ม.สงขลาฯ, ม.อุบลฯ, ม.นครพนม, ม.นราธิวาสฯ, ม.สุรนารี, ม.กรุงเทพมหานคร(คณะแพทยศาสตร์ วชิรพยาบาล), วิทยาแพทยศาสตร์พระมงกุฎเกล้า, ม.ราชภัฏยะลา, ม.ราชภัฏศรีสะเกษ และ ม.ราชภัฏอุตรดิตถ์ ส่วนขั้นตอนมาดูพร้อมๆ กันเลย              พี่มิ้นท์สรุประบบเคลียริ่งเฮ้าส์มาง่ายๆ เป็น 3 ขั้นตอน คือ             1.น้องๆ สมัครสอบตรงตามมหาวิทยาลัยต่างๆ ได้ตามใจชอบ สมัครกี่ที่ก็ได้ แต่ต้องเช็คกำหนดการของแต่ละมหาวิทยาลัยเอาเองว่าจะชนกันมั้ย และต้องสมัครสอบ GAT/PAT หรือการสอบอื่นๆ ด้วยในกรณีที่มหาวิทยาลัยนั้นต้องใช้คะแนน GAT/PAT หรือคะแนนอื่นๆ มาใช้เป็นองค์ประกอบ สมัครสอบแล้ว ก็ไปสอบให้ครบทุกที ถ้าติดก็ต้องไปสัมภาษณ์ พูดง่ายๆ ก็คือ ต้องรับผิดชอบตัวเองทั้งหมด และทำตามกำหนดการของมหาวิทยาลัยนั้นๆ ตามปกติ            2.มหาวิทยาลัยส่งรายชื่อผู้ที่สัมภาษณ์ผ่าน ให้กับ สอท. แต่ถ้าสอบไม่ผ่านก็ตกรอบไป ไม่มีผลต่อขั้นตอนนี้ ซึ่งการส่งรายชื่อนี้เป็นหน้าที่ของมหาวิทยาลัยค่ะ เราไม่ต้องทำอะไร            3.เข้าสู่ระบบเคลียริ่งเฮ้าส์เพื่อยืนยันสิทธิ์หลังจากสอบผ่านสัมภาษณ์แล้ว ถ้าสอบติด 1 ที่ ก็ต้องยืนยันว่าจะเรียนมั้ย หรือ ถ้าติดหลายที่ ก็ต้องยืนยันว่าจะเรียนมั้ย และจะเรียนที่ไหน หลังจากนั้นก็โดนตัดสิทธิ์ในรอบแอดมิชชั่น เพื่อไม่ต้องไปแย่งที่ในสนามใหญ่อีกนั่นเอง ส่วนประโยชน์ของเคลียริ่งเฮ้าส์อยู่ตรงนี้ค่ะ เพราะถ้าติดแล้วไม่มีการยืนยันสิทธิ์ นั่นเท่ากับว่าเค้าปล่อยที่นั่งนี้ให้ลอยไป ดังนั้นที่นั่งของคนนั้นก็จะไปเพิ่มในรอบแอดมิชชั่นแทน เช่น ตอนแรกกำหนดว่ารับตรง 20 ที่  แอดมิชชั่น 20 ที่ แต่ถ้ายืนยันแค่ 15 เท่ากับว่ารอบแอดมิชชั่นก็จะเพิ่มที่นั่งเป็น 25 คน ซึ่งคนที่ไม่ยืนยันสิทธิ์หรือสละสิทธิ์ไป จะไม่โดนตัดสิทธิ์ สามารถกลับมาสอบในรอบแอดมิชชั่นกลางต่อไปได้               สำหรับ ณ เวลานี้ น้องๆ ยังเดินทางอยู่ที่ขั้นตอนหมายเลข 1 อยู่ค่ะ เอาให้ใกล้ที่สุดก็คงเป็นการสอบ GAT/PAT ที่จะเกิดขึ้นในอีกไม่กี่อาทิตย์ข้างหน้า ทำให้เต็มที่ล่ะ ขอให้น้องๆ ทุกคน ได้ก้าวข้ามผ่านหมายเลข1 ไปสู่หมายเลข 2 นะ^^            แต่ถ้าถึงเวลานี้ใครที่ยังไม่เข้าใจ สามารถหาซื้อหนังสือแอดมิชชั่นขั้นเทพฉบับอัพเดทล่าสุดปี 55 มาอ่านได้ เพราะอธิบายขั้นตอนในระบบเคลียริ่งเฮ้าส์อย่างละเอียดเลย หรือ รายละเอียดรับตรง การเตรียมตัวสู่สนามแอดมิชชั่นก็มีเหมือนกัน รู้นะว่าอยากได้ อิอิ ถ้าใครไม่สะดวกหาซื้อตามร้านหนังสือ ก็สามารถสั่งตรงส่งฟรีจากเว็บไซต์ Dek-D.com ได้ ที่นี่

  ขอขอบคุณ : http://www.dek-d.com/ ถึงแม้จะกำหนดใช้เป็นปีแรก แต่ ณ วินาทีคงไม่มีใครที่ไม่รู้จัก "ข้อสอบ 7 วิชาสามัญ" เพราะรับตรงของหลายมหาวิทยาลัยใช้เป็นเกณฑ์ในการคัดเลือกด้วย ดังนั้นน้องๆ ที่สมัครสอบตรง(ในมหาวิทยาลัยที่กำหนดใช้คะแนนส่วนนี้) จะต้องเจอกับมันแน่นอน และน่าสงสารสุดๆ สำหรับ น้องๆ ที่สอบ กสพท. เพราะต้องสอบทั้ง 7 วิชาเลยทีเดียว เอาล่ะใครที่ชีวิตเกี่ยวข้องกับข้อสอบชุดนี้ ฟังข่าวนี้ให้ดีๆ แต่ไม่รู้ว่าฟังแล้วจะดีใจ หรืออยากจะกรีดร้องออกมาเป็นภาษาสเปนกันแน่              ก่อนหน้านี้มีประกาศออกมาว่า จะสอบ 7 วิชาสามัญช่วงต้นปีหน้า เรียกได้ว่าเปิดปีใหม่มาก็วิ่งเข้าห้องสอบได้เลย ซึ่ง....ตอนนี้ข้อสอบเสร็จแล้วค่ะ!!  ฟังไม่ผิดแน่นอน เพราะ ศ.ดร.สัมพันธ์ พันธุ์พฤกษ์ ผอ.สถาบันทดสอบทางการศึกษาแห่งชาติ (สทศ.) ออกมายืนยันถึงความคืบหน้าว่า ขณะนี้ สทศ.ออกข้อสอบ 7 วิชาสามัญเรียบร้อยแล้ว โดยอยู่ระหว่างกลั่นกรองความถูกต้องของข้อสอบ โอ้โห..ออกล่วงหน้ากว่า 3 เดือนแบบนี้ ถือว่าพร้อมจริงๆ แล้วน้องๆ ล่ะ พร้อมกันรึยัง??             การสมัครสอบจะสมัครกันในวันที่ 1-30 ต.ค. นี้ เวลาหนึ่งเดือนเหมือนจะนาน แต่อย่าชะล่าใจ รีบๆ สมัครสอบและจ่ายเงินให้เสร็จจะได้ไม่มีปัญหา เพราะจากการสมัครสอบ GAT/PAT ก็มีตัวอย่างให้เห็นกันแล้ว สมัครสอบไม่ทันบ้าง จ่ายเงินไม่ทันบ้าง ทำให้หมดโอกาสต้องไปสอบกันรอบมีนา แต่สอบตรงนี้ 7 วิชา ไม่มีโอกาสแก้ตัวนะค้า และหลังจากสมัครไปแล้ว สทศ.จะมีแนวข้อสอบมาให้ดูกันทางหน้าเว็บของ สทศ.ด้วย เพราะปีนี้สอบเป็นปีแรก จะได้รู้ว่าแต่ละวิชามีรูปแบบข้อสอบเป็นยังไง เอาไว้เป็นหน้าที่พี่มิ้นท์จะนำมาบอกเล่าละกัน ส่วนหน้าที่น้องๆ ตอนนี้ต้องตรวจสอบข้อมูลให้ชัดเจนว่ารับตรงแต่ละแห่งใช้คะแนนวิชาอะไรบ้าง จะได้ไม่มีปัญหาขาดคุณสมบัติภายหลังค่า                 ปิดท้ายพี่มิ้นท์มีหนังสือ "แอดมิชชั่น ขั้นเทพ" มาแนะนำกัน โดยเล่มนี้จะเป็นคู่มือที่ช่วยให้น้องๆ แอดติดคณะในฝันได้ เพราะรวบรวมข้อมูลไว้ครบที่สุด ทั้งรับตรง แอดมิชชั่นกลางและระบบเคลียริ่งเฮ้าส์ รับรองว่าอ่านเล่มเดียว แอดติดแน่นอน  ใครยังไม่มี หาซื้อกันได้ที่ร้านหนังสือทั่วไป หรือสั่งโดยตรงที่เว็บไซต์ Dek-D.com ค่า คลิกที่นี่

โปรแกรม Sandwich คอร์ส แบบทำงานควบคู่กับการเรียนภาษาอังกฤษ เป็นการเปิดโอกาสให้นักเรียนไทย ได้เรียนภาษาอังกฤษ พร้อมทำงานการโรงแรมโดยได้รับค่าตอบแทนเป็นเงินปอนด์(ค่าตอบแทนขั้นต่ำอยู่ที่ £5.73 / ชม.) คุณสมบัติของผู้ร่วมโครงการ - อายุตั้งแต่ 18 – 30 ปี - ระดับภาษาอังกฤษ อยู่ในระดับใช้ได้ Intermediate ขึ้นไป - ใจรักงานบริการ ถ้ามีประสบการณ์ด้านการโรงแรม บาร์ และร้านอาหาร จะเป็น ประโยชน์ แต่ไม่จำเป็น - ต้องการเรียนภาษาและหาประสบการณ์ใหม่ๆในประเทศอังกฤษ - ต้องการพบปะเพื่อนใหม่และฝึกภาษา - ต้องการได้ใบประกาศนียบัตรหลังจบโครงการ   สิ่งที่ผู้เข้าร่วมโครงการจะได้รับ   อัตราค่าโครงการหลักสูตรภาษาอังกฤษในอัตราพิเศษ การให้ความช่วยเหลือแก่ผู้เข้าร่วมโครงการในด้านการหางานพิเศษในขณะเรียนอยู่ อาทิเช่น การจัดเตรียมใบสมัครงาน, การแนะนำวิธีการทำ Resume, การให้ความรู้ด้านเทคนิคการสัมภาษณ์งาน, การช่วยจัดหาสถานที่ทำงานที่เหมาะสม การเพิ่มประสบการณ์ในการทำงานจริง ควบคู่ไปกับการเรียนภาษาอังกฤษ นักเรียนจะได้รับ Edexcel work skills NQF level 3 Certificate หลังจบโครงการ “โครงการเรียนภาษาและทำงานหาประสบการณ์ในสาขา Hospitality โดยนักเรียนจะได้รับค่าตอบแทนจากผู้จ้างงานและทำงานอย่างถูกกฏหมาย ของประเทศอังกฤษ โครงสร้างของโปรแกรมจะแบ่งเป็น 2 ช่วงโดยเริ่มจากการเรียนภาษา ซึ่งเนื้อหาที่จะเรียนของโปรแกรมนี้จะเน้นไปที่สองด้าน คือ ทักษะความรู้ด้านภาษาอังกฤษ และทักษะในด้านการทำงานจากนั้นทางโรงเรียนก็จะจัดหาสถานที่ทำงานให้นักเรียน โดยดูจากพื้นฐานการศึกษาของแต่ละคนเป็นหลัก หลังสรุปและประเมินผลในการฝึกงาน” ฟรี!!! บริการ ทำ Tax refund เมื่อจบโครงการ สำหรับนักเรียนที่สมัครผ่าน Unique เท่านั้น http://www.uniquestudyabroad.com/WorkandStudyDetail.aspx?id=1

ขอเชิญน้องนักเรียน และผู้ปกครอง ที่สนใจไปศึกษาต่อที่ประเทศสิงคโปร์ พบกับ Learning Curve ในงาน “OCSC International Education Expo 2011″  ที่ บูท J9 และ K9 โซนประเทศสิงคโปร์  (ดูผังนิทรรกาศการ) เพื่อให้ความรู้และคำปรึกษาสำหรับการเรียนต่อประเทศสิงคโปร์แบบครบวงจร แล้วพบกันในงาน สำนักงานคณะกรรมการข้าราชการพลเรือน (สำนักงานก.พ.) ร่วมกับสถาบันการศึกษาชั้นนำทั่วโลก จำนวน 280 บูธ จาก 18 ประเทศ จัดงาน OCSC International Education Expo 2011 ระหว่างวันที่ 29 – 30 ตุลาคม 2554 ณ รอยัลพารากอนฮอลล์สยามพารากอน พบกับแหล่งข้อมูลเรียนต่อต่างประเทศ และมหาวิทยาลัยชั้นนำติดอันดับ world ranking ข้อมูลทุนการศึกษา ทุนเรียนฟรี จากรัฐบาล ทุนมหาวิทยาลัย ทั้งจาก ยุโรป อเมริกาเอเชีย ออสเตรเลีย และนิวซีเเลนด์ รวมถึงคำแนะนำเพื่อเตรียมความพร้อมก่อนเดินทางไปศึกษาต่อต่างประเทศ  กิจกรรมภายในงาน มีมากมาย โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ทุนรัฐบาล โดยจะเปิดโอกาสให้นักศึกษาชั้นปีที่ 3 ที่มีผลการศึกษาดีเด่น เข้ามารับทุนแล้วจะเรียนต่อปี 4 จนจบ แล้วเข้าทำงานในหน่วยงานราชการเป็นเวลา 2 ปี หลังจากนั้นจะได้ไปศึกษาต่อต่างประเทศ จึงเป็นทุนที่น่าสนใจมาก รวมถึงทุนต่างประเทศที่ทั้งรัฐบาลแต่ละประเทศจะนำมาแจกเองภายในงาน พร้อมด้วยทุนของแต่ละมหาวิทยาลัยในแต่ละประเทศ ก็มาร่วมแจกในงานครั้งนี้ด้วย จึงอยากเชิญชวนให้ทุกท่าน ไม่เฉพาะนักเรียน นักศึกษา ที่จะมามองหาทุนในงานครั้งนี้ เพราะบางครั้งเราอาจจะได้มาเห็นหลักสูตรหรือสาขาที่คาดไม่ถึงว่าในแต่ละประเทศจะมีหลักสูตรนี้ด้วย โดยเฉพาะในแถบเอเชียเราก็มีหลักสูตรที่น่าสนใจเพียบ จึงขอเชิญชวนให้มาชมงานฟรีตลอดงาน วันที่ 29 – 30 ตุลาคม 2554 ณ รอยัลพารากอนฮอลล์สยามพารากอน เวลา 11.00 – 19.00 น. คลิกที่นี่เพื่อ ลงทะเบียนล่วงหน้า น้องนักเรียน และผู้ปกครองท่านใด ไปงาน OCSC แวะมาทักทาย พี่ไฝ และทีมงาน Learning Curve ได้ที่ บูท J9 และ K9 โซนประเทศสิงคโปร์  (ดูผังนิทรรกาศการ) รายละเอียดเพิ่มเติมทาง Facebook OCSC EXPO http://www.learningcurve-th.com/site/news-and-events/ocsc-education-expo-2011/  

 ขอเชิญนักเรียนและนักศึกษาที่สนใจศึกษาต่อระดับปริญญาตรี – เอก เข้าร่วมงานสัมมนาฟรี ตลอดเดือนตุลาคม พบกับผู้แทนจากสถาบันการศึกษาชั้นนำจากประเทศต่างๆ มากมาย พร้อมทุนการศึกษาและโปรโมชั่นพิเศษสำหรับผุ้เข้าร่วมงาน   USA Pierce Community College Canada Simon Fraser University (SFU) New Zealand University of Auckland Massey University AUT University Victoria University of Wellington Lincoln University University of Waikato The Netherlands Rotterdam Business School The Hague University of Applied Sciences University of Groningen Stenden University of Applied Sciences Wageningen University and Van Hall Larenstein Saxion University of Applied Sciences Tilburg University Fontys University of Applied Sciences   วันจันทร์ที่ 17 ตุลาคม 2554 | 16.00 น. :: Study in USA at Pierce Community College :: :: Study in Canada at Simon Fraser University (SFU) ::     Pierce College เป็นสถาบันระดับอุดมศึกษาแบบ Two-Year Community College ตั้งอยู่ที่รัฐ Washington ประเทศสหรัฐอเมริกา ก่อตั้งขึ้นเมื่อปีค.ศ. 1967 โดยมีวิทยาเขต 2 แห่งคือ Lakewood และ Puyallup อยู่ห่างจากเมือง Seattle เพียง 45 นาที เหมาะสำหรับนักเรียนที่จบการศึกษาชั้นม.6 และต้องการเรียนเตรียมภาษาอังกฤษและเตรียมความพร้อมในระดับชั้นปริญญาตรีปี 1 และ 2 จากนั้นจึงโอนหน่วยกิตเข้าเรียนต่อในระดับชั้นปีที่ 3 ในมหาวิทยาลัยชั้นนำต่างๆ ในสหรัฐอเมริกา     มหาวิทยาลัย Simon Fraser University (SFU) ตั้งอยู่ที่เมือง Burnaby มณฑลบริติชโคลัมเบีย ประเทศแคนาดา และมีวิทยาเขตอื่นๆ อยู่ที่เมือง Vancouver และ Surrey ก่อตั้งขึ้นเมื่อปีค.ศ. 1965 โดยได้รับการจัดอันดับให้เป็น 1st among Canada’s Comprehensive Universities in 2009 and 2010 และมี 8 คณะให้เลือกเรียน ได้แก่ Faculty of Applied Science | Faculty of Communication, Art and Technology | Faculty of Health Sciences | Faculty of Arts and Social Sciences | Faculty of Education | Faculty of Science | The Beedie School of Business | Faculty of Environment     สำรองที่นั่งเข้าร่วมงานฟรี โทร. 02 236 4822-3 ที่ศูนย์แนะแนวศึกษาต่อต่างประเทศ Knowledge Plus ชั้น 2 อาคารสีลมเซี่ยงไฮ้ ถ.สีลม 17 กรุงเทพฯ   =================================================================   วันพฤหัสบดีที่ 27 ตุลาคม 2554 | 18.00 – 20.00 น. :: New Zealand Universities Interview Day ::               ขอเชิญนักเรียน นักศึกษา และผู้ปกครอง เข้าร่วมงานสัมมนาศึกษาต่อตั้งแต่ระดับชั้นปริญญาตรี โท และเอก รวมถึงหลักสูตรเรียนภาษาอังกฤษ โดยการรวมตัวของ 6 มหาวิทยาลัยชั้นนำของรัฐบาลจากประเทศนิวซีแลนด์ (ประเทศนิวซีแลนด์มีมหาวิทยาลัยทั้งหมด 8 แห่ง) พบกับผู้แทนจากมหาวิทยาลัยที่จะมาให้ข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับสถาบัน และตอบคำถามพร้อมสัมภาษณ์และรับเอกสารการสมัครเรียนจากผุ้เข้าร่วมงาน รวมถึงข้อมูลทุนการศึกษาต่างๆ   ผู้สนใจยื่นใบสมัครเรียนภายในงาน สามารถนำสำเนารับรองผลการเรียน และเอกสารประกอบการสมัครอื่นๆ มายื่นให้กับเจ้าหน้าภายในงานได้   สำรองที่นั่งเข้าร่วมงานฟรี โทร. 02 236 4822-3 ที่ศูนย์แนะแนวศึกษาต่อต่างประเทศ Knowledge Plus ชั้น 2 อาคารสีลมเซี่ยงไฮ้ ถ.สีลม 17 กรุงเทพฯ   =================================================================   วันพฤหัสบดีที่ 27 ตุลาคม 2554 | 12.00 – 17.00 น. :: หรรษาหันมาเรียนฮอลแลนด์ | Dutch Institutions Placement Day ::       นัฟฟิค เนโซ (Netherlands Education Support Office) ประเทศไทย ขอเชิญน้องๆ ที่สนใจไปเรียนต่อระดับปริญญาตรี - เอกที่ประเทศฮอลแลนด์ เข้าร่วมงาน "หรรษาหันมาเรียนฮอลแลนด์" ฟรี ที่โรงแรมโนโวเทล สยามสแควร์   พบกับผู้แทนจากมหาวิทยาลัยชั้นนำต่างๆ ของประเทศเนเธอร์แลนด์ และยื่นใบสมัครเรียนได้ภายในงาน   รับฟรี! บัตรชมภาพยนตร์สำหรับ 100 ท่านแรกที่มาถึงงาน   สำหรับผู้ที่ไม่สะดวกเข้าร่วมงานในวันและเวลาดังกล่าว สามารถพบกับผู้แทนจากสถาบันต่างๆ ได้ที่ Dutch Pavillion ในงาน OCSC International Education Expo ระหว่างวันที่ 29 - 30 ตุลาคม 2554 เวลา 10.00-18.00 น. ชั้น 5 พารากอนฮอลล์   สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่โทร. 02 252 6088   ================================================================================== โทร. 02 238 3933 - 4, 02 236 4822 - 3 สถาบันภาษาและศูนย์แนะแนวศึกษาต่อต่างประเทศ Knowledge Plus | เลขที่ 807 ชั้น 2 อาคารสีลมเซี่ยงไฮ้ ถนนสีลม 17 บางรัก กรุงเทพฯ 10500 | info@knowledgeplus.ac.th |www.knowledgeplus.ac.th

  ศธ.เปิดงานมหกรรมหนังสือระดับชาติ   เมื่อวันที่ 5 ต.ค.ที่ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ นายวรวัจน์ เอื้ออภิญญกุล รมว.ศึกษาธิการ (ศธ.) กล่าวตอนหนึ่งในการเป็นประธานเปิดงานมหกรรมหนังสือระดับชาติ ครั้งที่ 16 (Book Expo Thailand 2011)ว่า ศธ.จะร่วมกับสมาคมผู้จัดพิมพ์และผู้จำหน่ายหนังสือแห่งประเทศไทย ทำการวิเคราะห์ผู้อ่านหนังสือ และคัดเลือกหนังสือที่มีคุณภาพ ตรงกับความต้องการของผู้อ่าน และให้หนังสือเข้าถึงทุกพื้นที่ ไม่ว่าจะเป็น โรงเรียน หรือชุมชน เพื่อกระตุ้นให้คนเกิดนิสัยรักการอ่านมากขึ้น เพราะหนังสือเป็นสื่อที่นำองค์ความรู้ และความบันเทิงสู่สังคมไทย ซึ่งถือเป็นความสุขที่หาง่าย ราคาถูกที่สุด ทั้งนี้ที่ผ่านมาแม้ ศธ.จะดำเนินโครงการรักการอ่าน แต่ตนคิดว่ายังไม่มีการนำหนังสือที่มีสาระ และตรงกับความต้องการเข้าถึงกลุ่มเป้าหมาย จึงทำให้คนเข้าถึงการอ่านและมีนิสัยรักการอ่านไม่มากนัก แต่หากเรามีหนังสือที่ดีและเหมาะสมเข้าไปในแต่ละกลุ่มเป้าหมาย ก็จะทำให้คนติด และรักการอ่านมากขึ้น ดังนั้นคุณภาพของหนังสือจึงเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุด     นายวรพันธ์ โลกิตสถาพร นายกสมาคมผู้จัดพิมพ์ฯ กล่าวว่า งานมหกรรมหนังสือฯ ปีนี้จัดขึ้นภายใต้แนวคิด “อ่านทั่วไทย อ่านได้ทุกที่”  มีหนังสือให้เลือก 904 บูธ จาก 424 สำนักพิมพ์  มีการเปิดตัวแอพพลิเคชั่น THE BOOK EXPO THAILAND ให้นักอ่านได้ดาวน์โหลดฟรี พร้อมทั้งเปิดหน้าแฟนเพจ www.Facebook.com/bookthai  เพื่อเป็นสังคมออนไลน์ให้นักอ่านเข้ามาร่วมแบ่งปัน  โดยจะจัดงานจนถึงวันที่ 16ต.ค.54 ที่ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ ตั้งแต่เวลา 10.00-21.00 น.   ที่มา : นสพ.เดลินิวส์

  'วรวัจน์'เอาจริงปัญหาเด็กก่อเหตุทะเลาะวิวาท   'วรวัจน์'เอาจริงปัญหาเด็กก่อเหตุทะเลาะวิวาท ย้ำหากใครก่อเหตุไม่มีเตือนอีก สั่งปิดถาวรทันที   5 ต.ค.54 นายวรวัจน์ เอื้ออภิญญกุล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (รมว.ศธ.) เปิดเผยว่า ตามที่ตนมีนโยบายเรื่องการแก้ไขปัญหาเด็กตีกัน นั้นขณะนี้มีการดำเนินการใน 2 ส่วนควบคู่กัน ได้แก่ การดำเนินการโครงการผู้นำตามธรรมชาติ ที่ให้สถานศึกษาทุกสังกัดไม่ว่าจะเป็นสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) สำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา (สอศ.) และสำนักงานคณะกรรมการการส่งเสริมการศึกษาเอกชน (สช.) ไปคัดเลือกนักเรียนที่มีบุคลิกเป็นผู้นำเพื่อส่งเสริมและพัฒนาเป็นแกนนำนักเรียน พร้อมกันนี้ยังร่วมมือกับกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) จัดส่งนักจิตวิทยา ผู้เชี่ยวชาญลงไปให้คำปรึกษาดูแลเด็กที่มีภาวะความเครียด โดยได้จัดสรรงบประมาณส่วนหนึ่งเพื่อดำเนินการด้วย                   ขณะเดียวกัน สถานศึกษาทุกแห่งจะต้องให้ความร่วมมือในการแก้ไขปัญหา โดยสถานศึกษาใดที่ปล่อยปละละเลยไม่สนใจดูแลนักเรียน ปล่อยให้ก่อเหตุทะเลาะวิวาทก็จะไม่มีการเตือนอีกแล้ว โดยเฉพาะสถานศึกษากลุ่มเฝ้าระวังหากมีการก่อเหตุใด ๆ ก็จะสั่งปิดถาวรทันที ไม่ปิดเพียงชั่วคราว 7 วันเช่นที่ผ่านมา ซึ่งตนเน้นย้ำเป็นนโยบายให้สถานศึกษาทุกสังกัดทั้งรัฐและเอกชนถือปฏิบัติและขณะนี้ก็ได้เริ่มทำความเข้าใจกับสถานศึกษาแล้ว ทั้งนี้หากมีการปิดสถานศึกษาส่วนนักเรียนที่ไม่เกี่ยวข้องได้มอบนโยบายแล้วให้มีเครือข่ายเตรียมการรองรับ เช่น ให้เรียนในวิทยาลัยอาชีวศึกษารัฐ โดย ศธ.จะเป็นผู้รับผิดชอบค่าใช้จ่าย                   “ผมคิดว่าวันนี้สังคม ไม่ยอมรับเรื่องการวิวาทที่เกิดขึ้นแบบที่เป็นมาอีกแล้ว จึงมองว่าเราจำเป็นต้องแก้ไขจริงจัง และไม่ควรปล่อยให้เกิดขึ้นอีก เพราะทุกครั้งที่ปัญหาเกิดขึ้นก็จะเกิดผลกระทบทำให้คนรอบข้างได้รับความเดือดร้อนเป็นภาพลักษณ์ไม่ดีต่อสังคมไทย” นายวรวัจน์ กล่าว   ที่มา : นสพ.คมชัดลึก

  เปิดตัว4บัณฑิตทุนเรียนไอทีญี่ปุ่น เรียนรู้นวัตกรรมกลับพัฒนาไทย   เดินทางสู่ดินแดนเจ้าแห่งเทคโนโลยีแล้ว 4 บัณฑิตหมาดๆ จากประเทศไทยพร้อมบินศึกษาต่อระดับปริญญาโท ณ ประเทศญี่ปุ่นหลังเข้าวินได้รับทุนการศึกษาพานาโซนิค ประจำปีการศึกษา 2555 ซึ่งเป็นปีที่ 12 โดยแต่ละปีนักศึกษาจากประเทศในภาคพื้นเอเชีย ได้แก่ ไทย จีน ไต้หวัน มาเลเซีย อินโดนีเซีย ฟิลิปปินส์ เวียดนาม และอินเดีย มีโอกาสเดียวกันนี้ แต่ละคนได้รับทุนสนับสนุนการศึกษา 3 ปี สนับสนุนค่าใช้จ่ายรายเดือน ช่วยเหลือค่าสอบเข้าเป็นนักศึกษาวิจัย ช่วยเหลือค่าเดินทาง ค่าธรรมเนียมการศึกษา รวมมูลค่าต่อนักเรียนทุน 1 คน ประมาณ 3ล้านบาท ปัจจุบันมีนักเรียนทุนพานาโซนิคจากไทยที่สำเร็จการศึกษาและกำลังศึกษาอยู่รวม 37 คน   ทุนการศึกษาพานาโซนิค นอกจากจะพิจารณาจากผลการศึกษาคะแนนสะสมเฉลี่ยไม่ต่ำกว่า 3.0 ทั้ง 4 คนยังต้องผ่านการพิจารณาคุณสมบัติจากใบสมัครแผนการศึกษาต่อ การเข้าค่าย การสอบข้อเขียน และสัมภาษณ์ ที่ต้องแข่งขันฝ่าฟันกับผู้สมัครระดับหัวกะทิด้วยกันนับร้อยคน   เชิญโรจน์ สวัสดิวร บัณฑิตจากคณะวิศวกรรมศาสตร์ สาขาอิเล็กทรอนิกส์และคอมมิวนิเคชั่น สถาบันเทคโนโลยีสิรินธร มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ผู้คว้าทุนเพื่อเดินทางไปศึกษาต่อด้าน Mechatronics มหาวิทยาลัยโตโฮกุ กล่าวว่า เลือกศึกษาต่อด้าน Mechatronics ที่เป็นการผสมผสานกันระหว่างแม็กแคนิกกับอิเล็กทรอนิกส์ เกี่ยวกับเครื่องกลและอิเล็กทรอนิกส์มารวมกัน ซึ่งญี่ปุ่นจะมีความชำนาญด้านนี้มาก ระยะเวลา 3ปีที่จะศึกษาอยู่ที่ญี่ปุ่น คาดหวังว่าจะเก็บเกี่ยวตักตวงความรู้เต็มที่ โดยไปเรียนที่เมืองเซนได มหาวิทยาลัยที่มีชื่อเสียง อีกทั้งเป็นเมืองที่น่าอยู่และมีบรรยากาศดี   จารุชัย สุจริตธรรม บัณฑิตคณะวิศวกรรม ศาสตร์ สาขานาโนเทคโนโลยี จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เลือกเรียนด้าน Mechanical and Control Engineering ที่สถาบันเทคโนโลยี โตเกียว บอกว่า ปีที่แล้วไปได้มีโอกาสเป็นนักเรียนวิจัยที่ญี่ปุ่นประมาณ 4 เดือนครึ่ง ได้เห็นบรรยากาศการเรียนแล้วอยากกลับไปเรียนต่อในระดับปริญญาโท สิ่งที่อยากจะเรียนรู้มากที่สุดจากการไปครั้งนี้คือ คนญี่ปุ่นมีวิธีการในการให้การศึกษา หรือปลูกฝังการทำงานอย่างไร จึงทำให้ญี่ปุ่นเป็นผู้นำของเอเชียได้ และยังก้าวขึ้นสู่ความเป็นผู้นำในระดับโลกอีกด้วย โดยจะเรียนรู้ระบบการศึกษาที่แตกต่าง และวัฒนธรรมการใช้ชีวิต เหล่านี้มาปรับใช้และพัฒนาประเทศเราในอนาคต   ส่วน พิพัฒนะ ผาติวุฒิพัฒน์ ปริญญาตรีคณะวิศว กรรมศาสตร์ สาขาอิเล็กทรอนิกส์ และคอมมิวนิเคชั่น สถาบันเทคโนโลยี สิรินธร ธรรมศาสตร์ เลือกเรียน Robotics ที่มหาวิทยาลัยโอซาก้า บอกว่า เหตุผลที่เลือกเรียนต่อประเทศญี่ปุ่น เพราะรู้สึกว่าเป็นเมืองที่มีระเบียบ น่าจะปลอดภัย ด้านการเป็นอยู่ การใช้ชีวิต อาชญากรรมไม่ค่อยมี สำหรับการเลือกเรียนการพัฒนาด้านหุ่นยนต์ เพราะประเทศไทยมีชื่อเสียงด้านนี้อยู่แล้ว ชนะระดับโลกมาก็เยอะ แต่ตอนนี้เป็นแนวกู้ภัย หรือแบบเครื่องออโตเมชั่น ผสมกับหุ่นยนต์ แต่ที่อยากไปเรียนนี้จะเป็นลักษณะหุ่นยนต์แบบฮิวแมนอยด์ คือเป็นหุ่นยนต์ที่มีความเป็นมนุษย์ ซึ่งเทคโนโลยีด้านนี้ญี่ปุ่นกำลังพัฒนาไปเร็วมากๆ     ด้าน ณัฐ วงษ์สุรีย์รัตน์ จบการศึกษาจากคณะวิศวกรรมศาสตร์ ภาควิชาวิศวกรรมการบินและอวกาศ จุฬาฯ ศึกษาต่อด้าน Aeronautic and Astronautic Engineering ที่มหาวิทยาลัยโตเกียว กล่าวว่า ญี่ปุ่นเป็นประเทศอันดับต้นๆ เรื่องวิศวกรรมอยู่แล้ว และเมื่อได้โอกาสมาแล้ว ก็อยากเรียนรู้เรื่องระเบียบวินัยในการใช้ชีวิตของคนญี่ปุ่น อยากได้ความรู้ในเรื่องหลักการคิด ว่าทำไมเขาสามารถคิดค้นนวัตกรรมได้ตลอดเวลา ซึ่งคิดว่าน่าจะมาปรับใช้กับประเทศเราได้ และถ่ายทอดไปยังคนรุ่นต่อไป แล้วบัณฑิตไทยจะกลับมาพร้อมของฝากประเทศไทย   ที่มา : นสพ.ข่าวสด  

    ค้านเลื่อนปฏิทินสอบ GAT/PAT เหตุชนสอบ"คณะแพทย์"   "ยิ่งลักษณ์" สั่งเลื่อนปฏิทินสอบ GAT-PAT ปี 2554 จากเดิมที่จะสอบในวันที่ 8-11 ต.ค.นี้ ไปเป็นวันที่ 5-6 พ.ย. และ 12-13 พ.ย.2554แก้ปัญหาเด็กได้รับผลกระทบจากน้ำท่วม "อำนวย" ค้านไม่เห็นด้วย เพราะไปชนกับวันสอบแพทย์ของ กสพท. ทำให้เด็กกว่า 3 หมื่นเสียโอกาส แนะควรนัดทุกมหา'ลัยหารือร่วมกันอีกครั้ง   นายวรวัจน์ เอื้ออภิญญกุล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ เปิดเผยว่า สืบเนื่องจาก น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ได้ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมผู้ประสบอุทกภัย และเห็นว่าสถานการณ์ดังกล่าวจะส่งผลกระทบต่อนักเรียนที่กำลังจะทำการสอบแบบทดสอบวัดความถัดทั่วไป (GAT) และแบบทดสอบวัดความถนัดทางวิชาการ/วิชาชีพ (PAT) ในวันที่ 8-11 ต.ค.นี้ จึงขอให้กระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) พิจารณาเลื่อนการสอบ GAT-PAT ออกไป ทั้งนี้ จากการตรวจสอบของ ศธ.ก็พบว่า มีนักเรียนสมัครสอบ GAT-PAT จำนวนทั้งหมด  329,519 คน แบ่งเป็น236 สนามสอบ ซึ่งหากคิดเป็นผู้ที่อยู่ในพื้นที่ประสบอุทกภัย 24 จังหวัด 128 อำเภอ ก็จะได้จำนวน 45,735 คน   อย่างไรก็ตาม ตนจึงได้หารือร่วมกับ ศ.ดร.ประสาท สืบค้า ประธานที่ประชุมอธิการบดีแห่งประเทศไทย (ทปอ.) ดร.สุเมธ แย้มนุ่น เลขาธิการคณะกรรมการการอุดมศึกษา (กกอ.) และ ดร.สัมพันธ์ พันธุ์พฤกษ์ ผู้อำนวยการสถาบันทดสอบทางการศึกษาแห่งชาติ (สทศ.) โดยทั้งหมดก็เห็นตรงกันว่าควรให้เลื่อนการสอบ GAT-PAT ที่จะมีขึ้นในวันที่ 8-11 ต.ค.2554 ออกไปเป็นวันที่  5-6 พ.ย. และ 12-13 พ.ย.2554แทน เพื่อรอให้สถานการณ์ดังกล่าวคลี่คลายไปก่อน ทั้งนี้ การเลื่อนสอบดังกล่าวเป็นการเลื่อนทุกสนามสอบทั่วประเทศ เนื่องจากเด็กที่ประสบภัยน้ำท่วมบางคนไม่ได้อยู่บ้านต้องมาอยู่บนถนน ไม่ได้อ่านหนังสือ ซึ่งจะทำให้เกิดการได้เปรียบเสียเปรียบกัน   ด้านนายอำนวย สุนทรโชติ ประธานชมรมค่านิยมเพื่อสร้างชาติ กล่าวว่า  ตนไม่เห็นด้วยกับการปรับเลื่อนปฏิทินดังกล่าว ที่จะให้เลื่อนสอบ GAT-PAT ไปตรงกับวันที่ 5 พ.ย.2554 เพราะวันนั้นตรงกับการสอบวิชาเฉพาะของกลุ่มสถาบันแพทยศาสตร์แห่งประเทศไทย (กสพท.) ซึ่งจะส่งผลกระทบกับเด็กที่สมัครสอบตรงแพทย์และทันตแพทย์กว่า 30,000 คน ที่จะต้องเลือกว่าจะสอบตรงกับ กสพท. หรือจะไปสอบGAT-PAT ที่ต้องใช้แอดมิชชั่นเหมือนกัน  นอกจากนี้ในวันเดียวกันก็จะมีการสอบตรงคณะทันตแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดลด้วย ซึ่งก็จะไปชนกับปฏิทินการรับตรงนักศึกษาสายแพทย์และทันตแพทย์ทั้งหมด และอาจจะเกิดปัญหาตามหลังมาด้วย   "เข้าใจว่านายวรวัจน์อาจไม่ทราบปฏิทินสอบตรงดังกล่าว ดังนั้น ก็อยากให้ปรับเลื่อนใหม่ทั้งระบบ โดยต้องนัดทุกมหาวิทยาลัยมาหารือร่วมกันเพื่อกำหนดปฏิทินการสอบตรงและการสอบ GAT-PAT ที่ไม่ชนกัน" นายอำนวยกล่าว.   ที่มา : นสพ.ไทยโพสต์  

  สพฐ.ออกข้อสอบภาค ก-ข สอบบรรจุบุคลากร12เขต   นายวรวัจน์ เอื้ออภิญญกุล รมว.ศึกษาธิการ เปิดเผยผลการประชุมคณะกรรมการข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา (ก.ค.ศ.) เมื่อเร็ว ๆ นี้ว่า ที่ประชุมได้หารือถึงการสอบแข่งขันเพื่อบรรจุและแต่งตั้งบุคลากรทางการศึกษาอื่น ตามมาตรา 38 ค.(2) ใน 12 เขตพื้นที่การศึกษา ที่ได้มีการสั่งให้เลื่อนการสอบแข่งขันฯใน 12 เขต จำนวน 60 ตำแหน่งออกไปก่อน เนื่องจากพบว่ามีพฤติกรรมส่อไปในทางทุจริตเรียกรับเงินสอบบรรจุในบางเขต ซึ่งที่ประชุม ก.ค.ศ.พิจารณาแล้วเห็นว่าเพื่อให้การสอบแข่งขันเป็นไปภายใต้มาตรฐานเดียวกันและก่อให้เกิดความเป็นธรรมแก่ผู้เข้าสอบทุกคน จึงอนุมัติให้สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) เป็นผู้ดำเนินการออกข้อสอบทั้ง 2 ภาค คือ ภาคก.ความรู้ความสามารถทั่วไป และภาค ข.ความรู้ความสามารถที่ใช้เฉพาะตำแหน่ง นอกจากนี้ตนยังเห็นว่าการสอบครั้งนี้มีจำนวนผู้สมัครสอบมากถึง 73,000 คน และหลายเขตอยู่อำเภอรอบนอก จึงมีนโยบายให้ สพฐ. พิจารณากระจายสนามสอบออกไป และให้รายงาน ศธ.ทราบโดยเร็ว เพื่อประกาศให้ผู้สมัครสอบแข่งขันทราบต่อไป รมว.ศึกษาธิการ กล่าวด้วยว่า  การออกข้อสอบจากส่วนกลางดังกล่าวจะนำมาใช้กับการสอบบรรจุครูและบุคลากรในเขตพื้นที่อื่น ๆ ด้วย.   ที่มา : นสพ.เดลินิวส์

  สพฐ.ทำสมาร์ทการ์ดเรียนฟรี   ดร.ชินภัทร ภูมิรัตน เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (กพฐ.) เปิดเผยภายหลังการประชุมผู้บริหารระดับสูงของสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.)                   เมื่อวันที่ 4 ต.ค.ว่า ที่ประชุมได้หารือถึงการปรับปรุงระบบวิธีการอุดหนุนตามนโยบายเรียนฟรี  ปีการศึกษา 2555 ที่จะสอดคล้องกับความต้องการของแต่ ละกลุ่มเป้าหมาย ซึ่งหมายความว่าการอุดหนุนรายหัวจะเป็นการอุดหนุนที่นักเรียนสามารถเลือกรายการต่าง ๆ ได้ตามความต้องการ  โดยขณะนี้ได้มอบหมายให้สวนดุสิตโพล มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนดุสิต ไปสำรวจความต้องการและความพึงพอใจของการอุดหนุนรายหัว ว่า มีรายการใดบ้างที่นักเรียนต้องการ โดย สพฐ.จะนำข้อมูลดังกล่าวมาเป็นพื้นฐานประกอบการจัดเวทีเสวนา เพื่อจัดทำข้อเสนอในเชิงปฏิบัติต่อไป      เลขาธิการ กพฐ.กล่าวต่อไปว่า สำหรับวิธีการจัดสรรเงินอุดหนุนให้แก่ผู้เรียน นั้น มีการพัฒนารูปแบบหลายวิธี แต่วิธีที่น่าสนใจและคิดว่าจะเป็นไปได้ คือ การใช้บัตรสมาร์ทการ์ด ที่มีลักษณะเหมือนกับบัตรเติมเงิน  และให้ผู้เรียนสามารถนำไปใช้เลือกรายการเรียนฟรีที่จะมีการประกาศต่อไป  โดยได้ขอให้ธนาคารออมสินช่วยพัฒนาระบบและสาธิตวิธีการใช้สมาร์ทการ์ด อย่างไรก็ตามทั้งหมดนี้เป็นเพียงการเตรียมการของ สพฐ. จะต้องมีข้อสรุปผลการทำโพล  การจัดเวทีเสวนา และการทำประชาพิจารณ์รับฟังความคิดเห็นต่าง ๆ จากผู้เกี่ยวข้องก่อนเสนอให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) ให้ความเห็นชอบ ซึ่งคาดว่าจะได้ข้อสรุปทั้งหมดภายในเดือนพฤศจิกายนนี้.   ที่มา : นสพ.เดลินิวส์